Toyota PES E-league : นัดหยุดโลก!!กระต่ายแก้วแผ่วเจอบุรีรัมย์ตีเจ๊าเร้าใจ

เกมส์ Toyota E-league Season 2020 วีคที่ 6 ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2020 ก่อนแข่งเป็นบีจีได้เปรียบในเรื่องคะแนนอยู่ไม่มากนักเมื่อผงาดนำฝูงที่สกอร์ 34 แต้ม โดยทางด้านปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ แชมป์เก่ารั้งอันดับ 3 ของกลุ่มที่ 26 แต้ม(แข่งน้อยกว่า3นัด)

 
มาเริ่มดูกันที่เดี่ยวไม้แรกประเภท 1V1  
เป็นโคจรมาพบกับสัญชาติอินโดนีเซีย มาดูทางฝั่งบุรีรัมย์ ส่งเด็กอายุเพียง 17 นามว่า ริซกี้ ลงสนามเป็นคนแรก จุดเด่นเฉพาะเป็นเรื่องของสกิลติดตัวรวมถึงจังหวะเล่นตามช่องที่น่ากลัว กระต่ายแก้วจัดเสื้อเก๋าอย่าง อีวันเดอร์ ที่มีการยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ คืออาวุธไม้เด็ด

เริ่มเกมส์มาได้เพียง 3 นาที เริ่มมาจาก เชาวัฒน์ วีรชาติ จ่ายแทงมาให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง เป็นชิ่งวันทูกับ ทาเดลลี่ กองหน้าตัวเก๋า ก่อนเจ้าปีโป้ สิโรจน์ เอียงตัวแปด้วยขวาเสียบเสาสอง ไปอย่างงามหยด บีจีออกนำเร็วที่ 1-0

ต่อมาในนาทีที่ 22 บีจีอาศัยความผิดพลาดของบุรีรัมย์ ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนสุมัญญา ปุริสาย จ่ายตัดกลางให้ ทาเดลลี่ หมุนตัวแทงต่อให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง ใช้ความเร็วทิ้งห่าง นฤบดินทร์ หลุดไปล่อเป้าเน้นๆ ไม่เหลือซาก บีจีทิ้งห่าง 2-0

เกมส์สลับกันบุกอย่างมัน เป็นบุรีรัมย์ได้เฮบ้าง จากจังหวะที่บุรีรัมย์ทำเกมส์มาทางด้านกลางสนาม จากริคาร์โด้ บรูโน่ อยู่บริเวณหัวกระโหลก ก่อนจ่ายคิลเลอร์พาส ต่อให้ ศุภณัฐ เหมือนตา กองหน้าดาวรุ่งเข้าไปล้อประตู ยิงฉีกเสาไกล บุรีรัมย์ตามตีไข่แตกไล่มา 2-1 ในนาที่ 58

ถัดมาเป็นบุรีรัมย์ที่โหมบุกเข้าใส่บีจีอย่างหนักหน่วง ทั้งซ้ายทีขวาที แต่ทางบีจีอาศัยลูกเก๋าและส่งผู้เล่นในแดนกลางเติมความสดให้ทีม จบเกมส์เป็นชัยชนะของทางฝั่งบีจีเฉือนไปได้อย่างสุดมันที่ 2-1 เป็นอีวันเดอร์ ของทัพกระต่ายแก้วพาทีมเก็บ 2 คะแนนในไม้แรก พร้อมทั้งนำเดี่ยวผู้นำดาวซัลโวที่ 27 ประตู

 
ต่อมาในประเภท Co-op 3V3  
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนทัพจากนัดที่แล้วเป็น ซันชิโร่ , บอสซู และเจ้าขัน ส่วนบีจีพียู ยึดแผนเดิมใส่เต็มสูบ นำโดย คิววา , โรดินิมาร์ และ ดาร์คคิลเลอร์ เช่นเดิม

เริ่มเกมส์มาได้เพียง 6 นาที เป็นทางฝั่งบีจีได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ สิโรจน์ ฉัตรทอง หลุดมาทางกราบซ้าย ก่อนเปิดยัดเข้าในเจอ ทาเดลลี่ เข้าชาร์จจ่อๆ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ปัดทิ้งออกไปได้
 
ต่อมาในนาที่ 13 เป็นบุรีรัมย์ได้ตอบโต้ จากจังหวะที่ นาเซอร์ บาลาซิต เคาะบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษให้ บรูโน่ คูเอสต้า กองหน้าฝั่งบุรีรัมย์ ยิงหลังเท้าเต็มข้อบอลกำลังจะเสียบเสา แต่ ฉัตรชัย ผู้รักษาประตูบีจี บินไปปัดอย่างเหลือเชื่อ

โมเมนต์ตั้มเริ่มมาทางฝั่งบุรีรัมย์ ได้ลองยิงในจังหวะที่ นาเซอร์ บาลาซิต พาบอลหลบแนวรับบีจี ก่อนแทงทะลุช่องให้ บรูโน่ คูเอสต้า อีกครั้งเลี้ยงไปเกือบสุดเส้นก่อน ซัดซ้ายบอลฉีกแหวกโอกาศหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

บีจีได้เฮก่อน นาทีที่ 44 ก่อนหมดครึ่งแรกไม่นาน เป็นทางฝั่งบีจี เมื่อ สิโรจน์ เล่นชิ่งวันทูกับ โตติ ก่อนแทงต่อให้ นอร์ชารูห์ล หมุนต่อคืนให้ สิโรจน์ ที่วิ่งทำทางไปก่อน แปบอลหลอกไปที่เสาแรก Goal!! บีจีขึ้นนำ 1-0

ครึ่งหลังเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ปรับเปลี่ยนแผนให้เพลสซิ่งกดดัน หวังเอาประตูคืนมากขึ้น จนมาได้ลูกตามตีเสมอ จากลูกเตะมุมข้ามไปเสาสอง และเป็น นาเซอร์ บาลาซิต ขึ้นเทคโหม่งสูงกว่าใครโขกคนเดียว ย้อนไปที่เสาแรก Goal!!! บุรีรัมย์ตามตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 66

ทดเวลาบาดเจ็บ 90+2 ท้ายเกมส์ดูเหมือนบุรีรัมย์ พยายามเร่งเกมส์ขึ้นมาจากจังหวะที่ อนุรักษ์ น้อยชื่นพันธ์ แทงทะลุมาถึง นาเซอร์ บาลาซิต หมุนตัวยิงได้จังหวะอัดด้วยขวา บอลพุ่งไปหลุดเสาแรกชนิดห่างแค่เพียงเอื้อมมือ เท่านั้น ทำให้จบเกมส์ จบด้วยสกอร์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม

ถัดมามาดูกันที่คู่สุดท้ายอย่าง เดี่ยวมือสอง ในประเภท 1V1 
เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง เจ้าอาร์ม มานะศักดิ์ ในสีเสื้อปราสาทสายฟ้า ลงสนามพร้อมตะบันชัย มาดูทางด้าน ฮัคเก้า ดีกรีทีมชาติไทย ที่มาในครั้งนี้เปลี่ยนสีเสื้อมาอยู่กับบีจีพียู หลังจากเคยสัมผัสถ้วยแชมป์กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมาแล้ว

เริ่มเกมส์มาได้เพียง 6 นาทีเป็นบีจีพียู ได้ทักทายหน้าบ้านของบุรีรัมย์ก่อน โดยจังหวะแรกมาจาก สิโรจน์ ฉัตรทอง หลุดมาทางกราบขวา ก่อนตบเข้าในตามสูตร ให้ ทาเดลลี่ ซัดเต็มแรง บอลฉีกมากเกินไปชนเสานอกหลุดออกไป

ถัดมาในช่วง นาทีที่ 25 เป็นจังหวะที่อนุรักษ์ น้อยชื่นพันธ์ แทงช่องทะลุมาถึง ริคาร์โด บรูเอโน่ หลุดกับดักล้ำหน้า ได้จังหวะอัดด้วยขวา แต่บอลไปตรงตัวฉัตรชัย ผู้รักษาประตูบีจี ชกบอลทิ้งออกไป จบครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0

มาต่อกันที่ครึ่งหลัง ขยับเอา ศศลักษณ์ ไหประโคน มาเล่นกลางทางด้านขวาและเป็นผลเมื่อในนาทีที่ 54 ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ศศลักษณ์ ครอสบอลด้วยขวาแป๊กๆ มาถึง บรูโน่ คูเอสต้า สอดมาโฉบครอสบอลในเสาแรก บอลลึกไม่ถึง นาเซอร์ บาลาซิต ยืนโล่งๆอยู่คนเดียวซัดเหน่งๆ ตาข่ายแถบขาด บุรีรัมย์ออกนำ 1-0

เวลาที่เหลือเป็นบุรีรัมย์ พยายามอาศัยความผิดพลาดของบีจี เล่นเกมส์สวนกลับมาจนมาได้ลูกเตะมุมในนาทีที่ 90 จาก ศุภชัย ใจเด็ด เล่นสั้นมาถึง บรูโน่ คูเอสต้า บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนโยกหลอกจังหวะแรกอัดขวาเต็มหลังเท้า บอลพุ่งเฉียดเสาออกไป ทำให้จบเกมส์เป็นชัยชนะของปราสาทสายฟ้า เอาชนะไปได้ 1-0 เก็บ 2 คะแนนแรกให้ทีมได้สำเร็จ