รีวิว Dragon Ball Z: Kakarot เกมดีสำหรับแฟนๆ ผู้ชื่นชอบดราก้อนบอลโดยเฉพาะ

รีวิว Dragon Ball Z: Kakarot เกมดีสำหรับแฟนๆ ผู้ชื่นชอบดราก้อนบอลโดยเฉพาะ

รีวิว Dragon Ball Z: Kakarot เกมดีสำหรับแฟนๆ ผู้ชื่นชอบดราก้อนบอลโดยเฉพาะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขอขอบคุณ : SiamGameShop สำหรับแผ่นเกม Dragon Ball Z: Kakarot ที่ใช้รีวิวในครั้งนี้ครับ

กลับมาแล้ว! กับเกม AAA เกมแรกของปีที่ทีมงาน Sanook Game จะหยิบมารีวิวกัน ซึ่งเกมนี้ส่งสารถึงเกมเมอร์อย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่ช่วงโปรโมท ว่าอยากให้แฟนๆซีรีย์ Dragon Ball ได้หยิบเกมนี้มาร่วมรำลึกถึงประสบการณ์เกาะขอบจอทีวี นั่งดูโงกุน (ปัจจุบันเรียกว่าโกคูถูกต้องตามครรลองละ) ต่อยกับฟรีเซอร์ 4-5 ตอน ทั้งที่ดาวจะระเบิดในอีก 5 นาที และร่วมเดินทางไปกับเหล่านักรบ Z อีกครั้งโดยเฉพาะ

ซึ่งเกมก็มอบประสบการณ์นั้นให้อย่างเต็มอิ่มจริงจังครับ แค่ภาพภายนอกที่เห็น โลกที่กว้างใหญ่ และเรื่องราวที่จะสานต่อ ร้อยเรียงกัน รวมถึงขยายความจักรวาลเนื้อเรื่องของ Dragon Ball Z ให้เจาะลึกลงไปยิ่งกว่าที่เคย ก็น่าจะทำให้แฟนๆ ฟินกันกระจายอยากควักกระเป๋าตังมาซื้อเกมนี้เล่นแล้วละ แต่คุณภาพของเกมจริงๆละ? ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของดราก้อนบอลหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้ายังไม่รู้จะซื้อเกม Dragon Ball Z: Kakarot มาเล่นดีหรือไม่ ทีมงาน Sanook Game จะรีวิวให้อ่านกัน

เกมส์ Dragon Ball Z: Kakarot พัฒนาโดย Bandai Namco เจ้าประจำผู้ถนัดการหยิบการ์ตูนจากญี่ปุ่นมาทำเป็นเกม โดยนี่เป็นเกมส์แนว Action RPG ในโลกแบบกึ่ง open-world โดยควบคุมด้วยมุมมองแบบ บุคคลที่สาม สลับกับมุมมองแบบบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งจะดำเนินเนื้อหาตามชื่อเกมคือหยิบเอาเรื่องราวในช่วง Dragon Ball Z นั่นคือตั้งแต่ช่วงศึกชาวไซย่า ไปจนจบที่จอมมารบู (เป็นอย่างน้อย) พร้อมแทรกแซงเนื้อเรื่องเสริมจุดต่างๆ เข้ามาด้วย ซึ่งอาจารย์โทริยาม่าคอนเฟิร์มแล้วว่าทั้งหมดทั้งปวงในเกมนี้เป็นเรื่องราว Canon

แน่นอนว่าถ้าเนื้อเรื่องนำเสนอแค่เรื่องราวเหมือนในการ์ตูนเป๊ะๆ คงไม่มีใครคิดจะเล่นเป็นแน่ โดยในเกมส์ Dragon Ball Z: Kakarot นี้จะนำเสนอ "ชีวิต" ของโกคูอย่างแท้จริง เขาไม่เพียงต่อสู้ แต่ยังเดินทางไปรอบโลก พบปะผู้คน ใช้ชีวิตครอบครัวดูแลลูกเมีย สานสัมพันธ์กับคนมากมายไปด้วย แถมยังเจาะลึกเนื้อเรื่องหลายส่วนที่ในการ์ตูนนั้นข้ามไป หรือไม่ได้พูดถึง เช่นช่องว่างเวลาหลายเดือนระหว่างฝึกฝน หรือการใช้ชีวิตของแต่ละตัวละครในเรื่องนอกจากการฝึกฝนและต่อสู้

ทำให้แฟนๆ ซีรีย์ดราก้อนบอลนั้น ถ้าเอาแค่เนื้อหา บทสนทนา ปฏิสัมพันธ์ต่างๆของแต่ละตัวละคร เกมนี้จัดมาให้คุณได้จุใจแน่นอน ไม่ต้องอ่านรีวิวต่อแล้ว ไปซื้อมาเล่นได้เลย คุณสามารถซึมซับบรรยากาศและประสบการณ์ในโลกของดราก้อนบอลได้ไม่รู้เบื่อยาวหลายสิบชั่วโมงสบายๆ

ในเกมนั้นจะนำเสนอทั้งเนื้อเรื่องหลักๆ ที่เราอาจจะคุ้นเคยมาแล้วจากในการ์ตูนรูปแบบต่างๆ พร้อมกับเนื้อเรื่องเสริม หรือเควสเสริม (แสดงเป็นรูปสัญลักษณ์ตกใจสีฟ้า) ที่มักจะทำให้ผู้เล่นได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเรื่องราวที่อาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และหลายครั้งที่เควสหลักก็เสริมเรื่องราวนอกรอบพวกนี้เข้าไปด้วยเช่นกัน ช่วยเติมช่องว่างในเส้นเรื่อง Dragon Ball Z ได้อย่างดี

นอกจากนั้นก็ยังมีคัตซีนมากมายแทรกเข้ามาตลอด ช่วยให้เราพักหายใจจากเกมเพลย์ มานั่งดูสิ่งที่เกิดขึ้นแทน ช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกลับไปดูการ์ตูนช่องเก้าอย่างไงอย่างนั้น

ในด้านเกมเพลย์นั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกคือการต่อสู้ โดยจะใช้วิธีการต่อสู้แบบ Action ปล่อยพลังสู้กันคล้ายๆภาค Budokai ของเครื่อง Playstation 2 ที่เราสามารถเคลื่อนที่ไปมาในฉากได้ 360 องศา ซึ่งเราก็จะมีการจัดทีมรวมตัวเราได้ไม่เกินสามคน(หลายครั้งจะเป็นการบังคับตัวละครตามเนื้อเรื่องช่วงนั้นๆ) เข้าต่อสู้กับศัตรูซึ่งก็มีทั้งตามเนื้อเรื่อง และ mob ที่กระจายอยู่บนแผนที่ โดยวิธีการควบคุมก็ไม่ซับซ้อนเหมือนเกมไฟต์ติ้ง มีปุ่ม preset ตั้งค่าได้ คอมโบต่อยตีก็กดรัวๆ ไม่มีปัญหา การหลบหลีกมีจังหวะ just frame ที่ถ้ากดพอดีกับการโจมตีก็จะแสดงผลคำว่า Dodged ด้านล่างให้เห็นว่าหลบได้เป๊ะๆ เรียกว่ามีเพดานฝีมือที่ไม่สูงไม่ต่ำเกินไป

ปัญหาของระบบต่อสู้ที่ส่วนตัวเจอมา และรู้สึกแย่มากๆ คือเป็นจุดอ่อนสำหรับที่สุดของเกมนี้เลย คือต้องเท้าความก่อนว่าศัตรูในเกมนี้จะมีข้อได้เปรียบเราอยู่อย่างหนึ่ง คือในจังหวะที่พวกมันออกท่าการโจมตีใหญ่ๆ หรือกำลังชาร์จพลัง พวกมันจะอยู่ในสถานะ Super Armor กล่าวคือไม่มีทางกระตุกจากการโจมตีของเราได้ ซึ่ง AI ของศัตรูบางตัวจะสแปมเจ้า Super Armor นี้ตลอดเวลา หมายความว่าเมื่อเราเจอศัตรูประเภทนี้ เราจะ "ไม่มีสิทธ์" เข้าไปต่อยตี ต่อคอมโบใหญ่ใส่มันได้เลย แม้ว่าบางครั้งตามเนื้อเรื่อง ตัวละครที่เราเล่นจะเหนือกว่าศัตรูมากๆ และควรตบอีกฝั่งเป็นขนมก็ตาม ถ้าเราเข้าโจมตีใส่ศัตรูที่ติดสถานะนี้ ก็จะโดนสวนกลับทันที ทำให้เราต้องเปลี่ยนเป็นเกม Shooting แทน และค่อยๆ ปล่อยพลังโจมตีอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง

และอีกการต่อสู้ประเภทหนึ่งซึ่งผู้เขียนรู้สึกอึดอัดมากคือการโดนรุมโดยศัตรูที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่ mob มากกว่า 2 คนขึ้นไป เพราะในจังหวะนั้น AI จะไม่ปล่อยให้เราได้พักเลย พวกมันจะสลับกันโจมตีประชิดบ้าง สนับสนุนยิงจากระยะไกลบ้าง ถ้าเราเข้าโจมตีคนหนึ่ง อีกคนก็จะเข้ามาซ้อนทันที ต้องเล่นเซฟสุดๆ อีก ซึ่งถ้ามีพวกกระบวนท่า Cinematic เข้ามาบ้าง ก็น่าจะช่วยทำให้เกมตรงนี้ง่ายขึ้นบ้าง แต่ไม่มีจ้า เรียกได้ว่าถ้าโดนรุมแบบนี้ ก็ห้ามเข้าไปต่อคอมโบยาวๆ ไม่งั้นตาย!

อีกโหมดเกมหลักก็คือระบบการสำรวจ หรือเดินทาง โดยผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครที่เล่นนั้น เดินทางไปมารอบโลกได้อย่างใจ บินขึ้นเขา ลงใต้ทะเลทำได้หมด ทำลายภูเขาที่ขวางก็ได้ไม่มีปัญหา และยังมีระบบย่อยๆ อีกมายมากที่จะช่วยสนับสนุนการต่อสู้ การเดินทาง เช่นการทำอาหารกิน ซื้อไอเทมต่างๆ และส่วนสำคัญที่เป็นแกนหลักคือการสำรวจหาไอเทมตามจุดต่างๆบนแผนที่โลก ทั้งวัตถุดิบทำอาหาร สร้างเครื่องจักร ทำให้เราสามารถใช้เวลาในการเดินทางหาของเก็บได้แทบทุกมุมของแผนที่ หรือจะตกปลา ทำลายภูเขาหาแร่ ล่าสัตว์ก็มี

ระบบที่น่าสนใจอีกอย่างคือการพัฒนาตัวละคร นอกจากการตบตีศัตรู เก็บเลเวล เพื่อเพิ่ม Stat โดยรวมแล้ว จะมีที่มาอีกสองส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือการพัฒนากระบวนท่าตัวละครเอง ทำได้โดยการใช้เหรียญตราสีต่างๆ ที่เก็บได้ในแผนที่โลก มาอัพเกรดท่าไม้ตาย, Stat Passive หรือเอาไปใช้ฝึกฝนท่าใหม่จากการนั่งสมาธิ และอีกส่วนคือ Community Board

เจ้า Community Board นี้ตามชื่อ Community ของมันคือสังคม คือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในจักรวาลดราก้อนบอล โดยเมื่อเราทำเควสผ่านเงื่อนไขของตัวละครใดก็ตามถึงจุดๆหนึ่ง ก็จะได้รับเหรียญตราตัวละครนั้นๆมา โดยสามารถเอาตรานั้นมาใส่ใน Community Board เพื่อเพิ่ม Stat หรือให้ผลดีกับตัวเรา และการเดินทางต่อสู้ของเราได้เช่น โจมตีแรงขึ้น ไอเทมฟื้นฟูได้ผลดีขึ้น ได้ EXP มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งจะแบ่งบอร์ดออกหลายๆประเภทด้วยกัน และเหรียญตราของแต่ละคนก็ให้ผลกับบอร์ดแต่ละด้านไม่เหมือนกันตามความถนัดด้วย

กราฟฟิคของเกมนั้นแน่นอนว่าต้องคงเอกลักษณ์ลายเส้นของอาจารย์โทริยาม่าไว้ ในขณะที่โลกของเกมก็สวยงามตามสไตล์เซลเฉดการ์ตูน สีสันสดใสตามมาตรฐาน แต่ในด้านโมเดลตัวละครนั้นดูจะมีความขี้เกียจแฝงอยู่เหมือนกัน นอกจากกลุ่มตัวละครหลักแล้ว ตัวละคร NPC ในโลกนั้นหน้าตาคล้ายๆกัน แต่งตัวคล้ายๆกัน โดยเฉพาะ NPC ขายของที่ถ้าขายของประเภทเดียวกัน ต่อให้อยู่คนละมุมโลก คนขายก็จะหน้าตาเหมือนเดิมเป๊ะๆ

 

โบนัสพิเศษด้วยการแปลไทยที่คนแปลน่าจะแทบหยิบเอาหนังสือการ์ตูนดราก้อนบอลมาเป็น ref ตลอดทั้งเกม มีมุขสมัยก่อนนู้นโผล่มาให้เห็นได้ด้วย ช่วยให้เราอินและสนุกเหมือนได้ย้อนกลับไปดูการ์ตูน อ่านหนังสือการ์ตูนดราก้อนบอล เมื่อสมัยเด็กได้ดีนัก รักความเอาใจใส่ของทีมงานจริงๆ

Review Score: 7/10

เนื้อแท้แล้ว เกมนี้มีระบบการเล่นที่แตกแขนงแยกย่อยไปอีกเยอะมาก เล่นไปครึ่งเกมแล้วก็ยังมี Tutorial สอนโหมดการเล่นใหม่เข้ามาได้อีก เรียกว่าเป็นดราก้อนบอลที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน ต้องการทำหลายอย่างมากเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดที่สะดุดหัวคะมำอยู่หลายจุดเช่นกัน ทั้งความละเอียดลออในการสร้างโลกที่ยังขาดไปอีกนิด ระบบการต่อสู้ที่ก็สนุกกำลังดี แต่ถ้าเจอบอสขี้โกง(ด้วย AI และระบบ) ก็กลายเป็นเกมน่าเบื่อไปเลย 

แต่จุดแข็งของเกม ที่ทีมงานนำเสนอ และขายมาตั้งแต่เกมประกาศเปิดตัว คือเนื้อเรื่อง และชีวิตของชายที่ชื่อโกคู หรือ Kakarot ตลอดการเดินทางในภาค Z ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม น่าติดตาม และคงทำให้แฟนๆ ซีรีย์ดราก้อนบอลมีความสุขตลอดช่วงเวลาที่ได้สัมผัสและร่วมทางไปกับเขาตลอดเกมแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook