รีวิว Concrete Genie แต่งเติมสีสันเมืองที่คุณรัก ไปกับเพื่อนเหนือจินตนาการ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ga/0/ud/208/1041761/review-concrete-genie-05.jpgรีวิว Concrete Genie แต่งเติมสีสันเมืองที่คุณรัก ไปกับเพื่อนเหนือจินตนาการ

    รีวิว Concrete Genie แต่งเติมสีสันเมืองที่คุณรัก ไปกับเพื่อนเหนือจินตนาการ

    2019-10-08T12:00:06+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    อีกหนึ่งรูปแบบเกมส์ Platforming, Action Adventure, แก้ปริศนา ที่จะให้ผู้เล่นได้มีโอกาสแต่งแต้มจินตนาการ เติมสีสันลงไปในเมืองท่าอันเป็นฉากหลังของเกมส์ ให้ออกมาสวยงามสดใสตามที่ใจคุณต้องการ พร้อมความช่วยเหลือ และการนำทางของเพื่อนในจินตนาการที่คุณสร้างขึ้นมาเองได้ด้วยพู่กันเวทย์มนต์ และนี่คือคำจำกัดความของเกมส์ Concrete Genie เกมส์ที่จะให้ผู้เล่นได้เติมสีสันและความสวยงามลงไปในเกมส์ ประหนึ่งการระบายพู่กันลงบนผืนผ้าใบในแบบไม่ซ้ำใคร

    เกมส์ Concrete Genie บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยของ Ash เด็กหนุ่มผู้ครอบครองพู่กันเวทย์มนต์ยักษ์ที่สามารถแต่งแต้มสีสันอันเปล่งประกาย และสรรค์สร้าง Genie หรือยักษ์ขนปุยในจินตนาการขึ้นมาผ่านการตวัดพู่กันได้ ในการออกเดินทางแต่งเติมสีสันเมืองที่เขารักให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยฉากหลังของเกมส์คือเมืองท่าชื่อ Denska ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยมลพิษ หมอกควันหนา และน้ำมันที่รั่วไหล จนคนอยู่ไม่ได้และต้องอพยพออกจากเมืองไปจนหมด

    เกมส์ดำเนินไปด้วยมุมมองแบบบุคคลที่สาม รวมถึงการควบคุมคล้ายกับเกม Uncharted ที่วิ่งไปมา กระโดดเกาะกำแพง ห้อยโหนไปมาได้ตามสมควรที่เด็กจะทำได้ โดยมีจุดเด่นหลักคือการควบคุมแปรงพู่กันของ Ash ด้วยการขยับตัว Controller PS4 ผ่าน Motion Sensor ทำให้ผู้เล่นแค่ขยับจอยไปมา ก็สามารถวาดแต่งเติมสี หรือภาพต้นไม้ใบหน้า ดวงดาว ได้สวยงามตามใจต้องการ หรือถ้าไม่ถนัด ก็สามารถปรับไปใช้การควบคุมปลายพู่กันด้วย Analog ขวาก็ได้เช่นกัน

    ในส่วนการวาด และระบายสีที่เป็นหัวใจหลักของเกมส์นั้น เกมส์ค่อนข้างจะไม่เข้มงวดมากนัก หากแค่จะเล่นให้ผ่านด่านไปเรื่อยๆ ขอแค่ผู้เล่นสามารถปาดพู่กันได้ตามเส้นทางที่กำหนดให้ก็ผ่านแล้ว แต่ถ้าผู้เล่นอยากสร้างสรรค์ผลงานให้สวยขึ้น เกมก็เปิดโอกาสให้ทำได้ตลอดเวลา เช่นหากเจ้ายักษ์จินนี่ต้องการต้นไม้สักต้นหนึ่ง คุณวาดต้นไม้ให้เขา ก็ผ่านเงื่อนไขแล้ว แต่คุณก็ยังสามารถแต่งเติมดวงดาว หรือกองไฟข้าง ลงไปข้างๆ ต้นไม้นั้นก็ทำได้เหมือนกัน 

    แต่ในส่วนของการวาดนี้ก็มีจุดที่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเองอยู่เช่นกัน คือผู้เล่นไม่ได้มีอิสระในการเลือกจะวาดภาพอะไรเต็มที่ 100% ขนาดนั้น เวลาผู้เล่นจะวาดภาพ เกมส์จะมอบ Preset ภาพแบบต่างๆ มาให้ แล้วให้ผู้เล่นเติมสิ่งของเหล่านั้นเข้าไปแทน ยกตัวอย่างเช่นเกมส์จะเตรียมภาพดอกไม้ กอหญ้า หรือดวงดาวไว้ให้ คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ต้นไม้มีกี่ต้น สูงแค่ไหนได้ แต่กำหนดไม่ได้ว่าต้นไม้ลวดลาย บิดเบี้ยว ประหลาดแค่ไหน, มีทุ่งหญ้ากว้างเท่าไร แต่กำหนดไม่ได้ว่าหญ้าแต่ละจุดต่างกันอย่างไร หรือกำหนดได้ว่ามีดวงดาวลอยอยู่ตรงไหนบ้าง แต่กำหนดไม่ได้ว่าดาวขนาดเล็กใหญ่แค่ไหน เป็นต้น

    น่าเสียดายที่เมื่อเข้าช่วงท้ายเกมส์ ผู้พัฒนากลับพาผู้เล่นวกเข้าสู่สไตล์การเล่นแบบ Action Shooting และใช้การต่อสู้ที่คล้ายๆ กับเกมส์แฮรี่ พอตเตอร์สมัยก่อนมาปิดท้ายช่วงไคลแมกซของเกมส์ไป ทำให้ความรู้สึกทะเยอทะยาน และสร้างสรรค์ที่เกมส์นำเสนอช่วงแรก ขาดหายไป

    ในด้านงานภาพโดยรวมนับว่าเลือกจะมีเอกลักษณ์ที่แปลกตาพอสมควร โดยใช้สไตล์ภาพและขยับแบบ Motion Capture ประหนึ่งงานอนิเมชั่นสักเรื่องหนึ่ง และสลับกับการเล่าเรื่องในอดีตโดยใช้ภาพวาดอีกสไตล์ไปแทน เพื่อที่ผู้เล่นสามารถแยกแยะได้ทันทีว่าปัจจุบันกับอดีตต่างกันอย่างไร ก็เรียกได้ว่าคนทำงานหรือเรียนสายศิลป์ก็น่าจะเพลิดเพลินกับเกมส์ในด้านนี้ได้เช่นกัน

    โดยเฉพาะการเลือกใช้สีในเชิงสัญลักษณ์ ที่เมืองในอดีตนั้นมีสีสันที่สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นการบอกเล่าความอบอุ่นในใจของ Ash ที่ได้รับจากเมืองนี้แต่ในปัจจุบันเมืองของ Ash นั้นมืดหม่น หมองเศร้า เต็มไปด้วยมิลพิษ มีอันตรายไปหมด ตรงข้ามกับสีสันที่ Ash เลือกใช้ในการระบายสี ที่มักจะเป็นสีที่สดใส เปล่งประกาย และให้ความรู้สึกเหมือนภาพส่องแสงออกมาท่ามกลางเมืองที่หม่นหมองเลยทีเดียว

    แต่การขยับโมเดลของตัวละครที่ไม่ใช่คัตซีน และการพากย์เสียง บางจุดก็ทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก มีติดขัดบ้าง โดยรวมก็คืองานภาพมีความโดดเด่นแตกต่างจากเกมส์ AAA ชัดเจน แต่มีจุดที่ตะกุกตะกักนิดหน่อย

    ในเรื่องของเกมเพลย์รวมๆ การควบคุมตัวละครค่อนข้างเข้าใจง่าย หากใครเคยเล่นเกมแนวๆ Uncharted มาก่อนก็สบายใจได้ เพราะคล้ายกันมาก

    เกมส์ไม่ได้มีจุดชี้บอกทางมากมาย จะให้ข้อมูลมาเป็น Hint ที่ต้องคอยเปิดดูประกอบแผนที่มากกว่า เหมือนอยากเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีอิสระในการทำภารกิจแต่ละอย่างด้วย ซึ่งผู้เล่นต้องสังเกตตัวละครในเกมส์ ทั้งคำพูด บทสนทนา ท่าทางของพวกเขาในการดำเนินเรื่องไปข้างหน้า ไม่ได้มีจุดขึ้นบนจอว่าต้องวิ่งไปที่นี่ๆ ทำอะไรตรงไหน ละเอียดมากนัก ซึ่งก็เป็นทั้งข้อดี และข้อเสียในตัวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคน

    โดยหลักสำคัญของเกมส์คือ การวาดภาพระบายสีลงไปบนกำแพงที่มีหลอดไฟห้อยเรียงรายอยู่ จะทำให้หลอดไฟเหล่านั้นติด และช่วยให้เมืองที่มืดหม่น สว่างสไวขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นผู้เล่นก็มีหน้าที่ต้องวาดภาพลงบนกำแพงบริเวณที่ว่านั่นเอง และบางครั้ง เราจะพบเจอกับอุปสรรคในแต่ละพื้นที่ เช่นกลุ่มเด็กนักเลงที่คอยมาก่อกวน ไล่ทำร้ายเราทุกครั้งที่เห็นหน้า หรือรากไม้สีดำปริศนาที่ขวางทางเราไว้ และปริศนาในฉากที่ต้องแก้ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป

    เพลงประกอบทำได้ดี มีความแฟนตาซีสูงเข้ากับความรู้สึกของตัวละคร รวมถึงเสียงประกอบเวลาจะสะบัดพู่กันแต่ละทีก็ทำได้เสนาะหู จนเราอยากจะวาดภาพ ระบายสีลงไปเรื่อยๆ ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว เพียงแต่ในด้านเสียงพากย์แล้วยังรู้สึกว่าใส่อารมณ์ ความรู้สึกลงไปในคำพูดได้มากกว่านี้ บางครั้งบทสนทนาในเกมก็ไม่สมเหตุสมผลเท่าไร เรียกง่ายๆว่า ก็ชวนหงุดหงิดบ้างเป็นบางช่วง

    และที่อยากจะพูดถึงเป็นพิเศษคือเหล่า Genie หรือ จินนี่ ยักษ์ขนปุย ที่ Ash วาดขึ้นมาเอง โดยผู้เล่นสามารถกำหนดองค์ประกอบต่างๆ ของเจ้าจินนี่ได้ตามใจชอบ จะมีเขาแบบไหน มีหนวด มีหูตรงไหน มีหญ้าขึ้นบนหัวมั้ย หรือจะติดเครื่องประดับให้ก็ไม่มีปัญหา เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทำได้เต็มที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยเหลือเราในการแก้ปริศนาแล้ว ยังมีหน้าที่มอบพลังให้กับพู่กันแลกกับการที่เราต้องคอยเอาใจพวกเขาสักหน่อย ไม่ว่าจะเล่นด้วย หรือวาดดอกไม้ พระอาทิตย์ ดวงดาว ให้ตามที่พวกเขาอยากได้ และการออกแบบนั้นมีความสำคัญมาก เพราะพวกเขาจะอยู่กับเราไปจนจบเกมส์เลย ขอให้ใส่ใจจินนี่ทุกตัวที่เราสร้างขึ้นเหมือนกับ Ash ในเกมส์นะครับ

    ส่วนตัวผู้เขียนแล้ว เชื่อว่านี่จะเป็นเกมส์ที่เหล่าผู้มีความเป็นศิลปินในหัวใจต้องลองสักที จะระบายสีเมืองของผู้เล่นออกมาเป็นแบบไหน จะสร้างยักษ์จินนี่ของตัวเองให้น่ารัก เท่ ได้แค่ไหน เกมส์ Concrete Genie เป็นเกมส์ที่เปิดพื้นที่ผืนผ้าใบ ที่เรียกว่าเมืองท่า Denska ให้เกมเมอร์ได้ใช้จินตนาการสร้างสรรค์มันได้เต็มที่เกมส์หนึ่งในยุคนี้เลยละ

    Review Score: 7/10

    เกมส์มีความทะเยอะทะยานสูงในแง่การนำเสนอและเกมเพลย์ รวมถึงต้องการตอบสนองต่อความต้องการของผู้เล่นเกมส์ที่อยากสร้างสรรค์ฉากสวยๆ ด้วยมือตัวเอง เสริมด้วยเหล่าจินนี่ที่ทั้งบ๊อง บ้าบอ น่ารักน่าเอ็นดู ก็น่าจะเป็นจุดดึงดูดให้คนลองจับเกมส์นี้ดูไม่ยาก แต่ด้วยองค์ประกอบเสริมอื่นๆ ทั้งการเคลื่อนไหวที่ดูแข็ง การพากย์เสียง และบทสนทนาที่ไม่ช่วยให้รู้สึกอินกับเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลัง Ash และกลุ่มเด็กในเรื่อง รวมถึงช่วงท้ายที่เกมส์พาวกกลับเข้าสู่เกมส์แนว Action ธรรมดาๆ เกมส์หนึ่ง ก็มีส่วนให้ต้องตัดคะแนนลงไปสักหน่อย ถือว่าผ่านเกณฑ์และเกมส์ที่ดีเกมส์หนึ่งครับ

    เกมส์ Concrete Genie วางจำหน่ายวันที่ 9 ตุลาคม 2562 บนเครื่อง PlayStation 4