รีวิว Detroit: Become Human โลกแห่งแอนดรอยด์ ที่คุณเป็นผู้กำหนด

รีวิว Detroit: Become Human โลกแห่งแอนดรอยด์ ที่คุณเป็นผู้กำหนด

รีวิว Detroit: Become Human โลกแห่งแอนดรอยด์ ที่คุณเป็นผู้กำหนด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Detroit: Become Human !! NO SPOILER !!

*Detroit: Become Human ไม่ใช่เกมที่เล่นสนุก แต่.....เป็นเกมที่หยุดไม่ได้ถ้าเริ่มเล่น*

คอเกมห้ามพลาด คอหนังต้องลอง

เพราะคุณคือผู้กำหนด ไม่ใช่แค่ผู้ชม

Detroit: Become Human เป็นผลงานใหม่ถอดด้ามของ David Cage (เดวิด เคจ) ซึ่งผลงานเกมก่อนหน้านี้ที่สร้างชื่อคือ Heavy Rain (2010) ผลงานต่อมาอย่าง Beyond two soul (2013) ที่ลงให้กับเครื่อง PS3 ทาง Sony ได้รีมาสเตอร์ทั้งสองเกม มาให้ผู้เล่นชาว PS4 ได้สัมผัสอีกครั้ง แต่ถ้าพูดถึงผลงานชิ้นโบว์แดงชิ้นแรกของ David Cage ก็คือ Fahrenheit เกมในยุค PS2 ซึ่งจุดเด่นในการสร้างเกมของ David Cage นั้นจะเน้นไปในส่วนของเนื้อเรื่องที่มีความเข้มข้น ดราม่า น่าติดตาม และมีจุดหักเหของเรื่องราว โดยผลงานของ David Cage ที่ผ่านๆมา มักจะนิยมดึงดาราชื่อดังในอดีตจนถึงปัจจุบัน มารับบทสำคัญๆ ในแต่ละเกม

จนมาถึงปี 2018 ผลงานล่าสุดของ David Cage อย่างเกม Detroit: Become Human ซึ่งเดิมเป็นโปรเจกต์ Kara (Demo E3 2012) ที่เริ่มทำตั้งแต่ยุค PS3 แต่สุดท้ายก็มาเปิดตัวบน PS4 (ช่วงเริ่มโปรเจกต์ เป็นช่วงปลายเจนของเครื่องPS3แล้ว)

Detroit: Become Human มีรูปแบบเกม interactive ที่มีความเป็น Drama Cinematic ของค่ายQuantic Dream

 

เรื่องราวใน Detroit: Become Human

จะเกิดขึ้นในอนาคตปี 2038 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในโลกที่ผู้คนให้ความสำคัญกับ Androids เป็นพิเศษ โลกที่คุณสามารถหาซื้อ Androids ได้จากห้างสรรพสินค้าเหมือนสินค้าทั่วๆไป และสามารถใช้งานได้โดยการใส่คำสั่งต่างๆ เช่น การทำอาหาร การทำความสะอาด หรือการอยู๋เป็นเพื่อน  เป็นต้น

 

โดย Detroit: Become Human จะเล่าเรื่องราวผ่าน Androids 3 ตัวละครหลัก 3แบบ 3สไตล์ ผ่านมุมมองคนละมุม คนละด้าน

  • ตัวละครตัวแรก คือ Connor - Androids ที่ถูกฝึกเพื่อมาเป็นนักสืบ
  • ตัวละครตัวที่สอง คือ Kara - Androids ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกช่วยเหลือชีวิตประจำวันของมนุษย์
  • ตัวละครตัวสุดท้าย คือ Markus - Androids ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลมนุษย์ อยู่เป็นเพื่อนของมนุษย์

 

Gameplay

Detroit: Become Human จะมีรูปแบบการเล่นหลักๆ คือการเลือกตอบคำถาม เดินสำรวจฉาก หรือการกดปุ่มตามจังหวะแบบ Quick time event โดยทางเลือกภายในเกมนั้นมีมากมาย ให้เราได้คิด ได้อ่าน และเลือกตัดสินใจ เพราะทุกการกระทำ การตัดสินใจของผู้เล่น จะส่งผลต่อเนื้อเรื่อง ตัวละครทั้งหมด จนไปถึงจุดจบของเกม ที่ผู้เล่นเป็นผู้เลือก ผู้ตัดสินใจ

โดยตัวเกมมีระดับการเล่นให้เลือก 2 ระดับ

1.Casual เล่นได้ง่ายๆเพียงแค่กดไม่กี่ปุ่มในการผ่านในแต่ละเหตุการณ์ภายในเกม 

2.Experienced เน้นประสบการณ์ในการเล่น เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ผ่านเกมแนวนี้มาก่อน เพราะจะมีการกดปุ่มหลายแบบในการเล่น

 

ระบบคอนโทรล

  • L3(อนาล็อคซ้าย) ใช้สำหรับเคลื่อนที่ตัวละคร

  • R3(อนาล็อคขวา) ใช้สำหรับการเลื่อนมุมมอง และการทำสิ่งต่างๆภายในฉาก เช่น การเปิดประตู หยิบสิ่งของ เป็นต้น

  • R1 ใช้สำหรับการเปลี่ยนมุมกล้อง
  • R2 ให้กดค้างสำหรับการสำรวจ Objective ต่างๆภายในเกม

  • ส่วนปุ่มกดที่เหลือใช้สำหรับการกด QTE หรือการตอบคำถามภายในเกม

 

กราฟิก

ภาพกราฟิกภายในเกมนั้นออกแบบมาได้สมราคาเครื่อง PS4 โดยที่แต่ละตัวละครมีการแสดงออกทางสีหน้า อารมณ์ คำพูด การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล มีความละหม้ายคล้ายคน และฉากภายในเกมที่อยู่ในระดับสวยงามเสมือนโลกจริงๆ ที่ให้ความรู้สึเหมือนเรากำลังนั่งดูภาพยนตร์ที่มีธีมหลักอยู่ในโลกอนาคตล้ำยุค

 

การนำเสนอ

Detroit: Become Human นำเสนอรูปแบบของเกมที่เหมือนให้ผู้เล่นกำลังนั่งรับชมภาพยนตร์เรื่องนึง แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ ผู้เล่นนั้นเป็นผู้เลือกผู้ตัดสินใจ ว่าจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร และถึงแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เป็นผู้กำกับ หรือผู้กำหนดทิศทางในเรื่องราวภายในเกมทั้งหมด แต่รอยแยกต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวละครเหล่านั้น จะมาจากการตัดสินใจของผู้เล่นทั้งสิ้น

 

จุดที่ประทับใจ

  • การดำเนินเรื่องที่ปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ตัวเกมมีความน่าติดตามตลอดการเล่น
  • ภาพกราฟิกภายในเกมที่สวยงามมีส่วนที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเหมือนเรากำลังรับชมภาพยนตร์ชั้นดีอยู่
  • เกมเพลย์ในส่วนของการตัดสินใจ หรือการสืบเสาะ หาเบาะแสต่างๆทำได้ดี น่าค้นหา
  • ดนตรีประกอบใส่เข้ามาในจังหวะ จะโคน ที่เข้ากับสถานการณ์ของเกม ส่งผลให้ผู้เล่นตื่นตัวกับทุกๆเหตุการณ์ภายในเกม

 

จุดที่ไม่ประทับใจ

  • มุมกล้องของเกมที่บางทีบางครั้ง ก็ทำให้ความต่อเนื่องมันขาดหายไป *ขัดใจ*
  • การควบคุมตัวละคร ที่ไม่ค่อยลื่นไหล รู้สึกถึงความหน่วงในการจะขยับแต่ละที
  • การโหลดเข้าตัวเกม ในแต่ละฉากใช้เวลานาน
  • คำศัพท์ ที่เป็นคำตอบให้เลือก ที่ส่งผลต่อเนื้อเรื่อง บางสถานการณ์เป็นคำศัพท์เทคนิคที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษพอสมควร

 

สรุปจากใจผู้เขียน

Detroit: Become Human ไม่ใช่เกมที่เล่นสนุก หรือมีเกมเพลย์ที่สุดสะเด่า เร้าใจ แต่อย่างไรก็ตาม Detroit: Become Human ก็เป็นเกมที่หยุดไม่ได้ถ้าผู้เขียนเริ่มเล่น เนื่องจากความน่าติดตามของเนื้อเรื่อง การเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ตัวเกมทำให้ผู้เขียนรู้สึกอิน ขนาดที่เลิกเล่นแล้วแต่ก็ยังครุ่นคิด ถึงสิ่งที่เราตัดสินใจทำลงไปในเกม โดยที่ตัวเกมสามารถนำผู้เล่นเข้าไปสู่โลกของเหล่าตัวละคร เพื่อเอาใจช่วยหรือพาตัวละครฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆได้ดี  และถึงแม้จะมีจุดที่น่าตำหนิบ้าง เช่น การควบคุมตัวละคร ที่ไม่ค่อยลื่นไหล หรือการปรับเปลี่ยนมุมกล้องที่ทำให้ความต่อเนื่องของเกม ดูสะดุดๆไปบ้าง แต่ข้อบกพร้องตรงนี้ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุก หรืออรรทรสของเกมลดลงไป

 

สรุป

กราฟิก -  หักตัวประกอบบางตัวที่คล้ายๆกัน รู้สึกว่าเจอบ่อย เจออีกแล้ว และฉากที่ไม่ละเอียดในบางจุด

เกมเพลย์ -  หักเรื่องการควบคุมตัวละคร และมุมกล้อง ที่บางทีก็เป็นอุปสรรคในการเล่น

การนำเสนอ+เนื้อเรื่อง -  หักเรื่องความต่อเนื่องของเรื่องราว ที่รู้สึกว่าบางช่วงที่กำลังอินๆ ตัวเกมกับทำให้หลุดออกจากตรงนั้น โดยการเล่าเรื่องอีกตัวละครนึง

 

คะแนนรวม 9 เต็ม 10 คะแนน

 

รีวิว by หลานลุง

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook