การเตรียมตัวสมัครเข้ามหาวิทยาลัย ปี 2555

ภัยธรรมชาติช่วงนี้น่าเป็นห่วงสำหรับนักเรียนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นยาวนานแบบนี้ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงการเรียนและการสอบ

ภัยธรรมชาติช่วงนี้น่าเป็นห่วงสำหรับนักเรียนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นยาวนานแบบนี้ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงการเรียนและการสอบของนักเรียนจำนวนมาก กระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศเลื่อนการสอบ GAT และ PAT ครั้งที่ 1 โดยจัดสอบเป็นวันที่ 5-6 และ 12-13 พฤศจิกายน 2544 ถือว่าได้หายใจกันออกไปอีกหน่อย สำหรับการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย ณ เวลานี้ที่น่าสนใจมากที่สุดคือ การสมัครสอบรับตรงอย่างที่บอกกล่าวกันไว้บ้างแล้วในฉบับก่อนๆ พร้อมกันนี้บางมหาวิทยาลัยประกาศเลื่อนวันรับสมัครแล้ว อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รับสมัครถึงวันที่ 6 ตุลาคม และประกาศสถานที่สอบข้อเขียน 12 ตุลาคม 2554

นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจเพื่อเตรียมตัวสมัครเข้ามหาวิทยาลัยคือ ปัจจุบันมีการเปิดค่ายสำหรับกิจกรรมการแนะนำสาขาวิชาของแต่ละคณะ/มหาวิทยาลัย ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ได้ศึกษาข้อมูล รวมถึงการสำรวจตัวเองด้วยว่าเหมาะสมกับสาขาวิชาดังกล่าวหรือไม่ กิจกรรมดังกล่าวนับว่ามีประโยชน์ค่อนข้างมากและไม่ควรพลาด อาทิ ค่ายนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 15 วันที่ 26-28 ตุลาคม รับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 10 ตุลาคม จำนวน 200 คน สโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดโครงการ MAS Camp ครั้งที่ 23 ตอน Science Ranger รับจำนวน 120 คน โครงการจัดระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน กำหนดรับสมัครวันนี้ถึง 26 ตุลาคม และค่ายอาร์ตแคมป์ ครั้งที่ 2 สาขาวิชามีเดียอาร์ตและสาขาวิชามีเดียทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ จัดที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วันที่ 12-14 ตุลาคม 2554 จำนวน 80 คน เป็นค่ายแนะนำการเรียนรู้ workshop สาขาวิชาในภาควิชามีเดียทางการแพทย์ เป็นต้น นอกจากนี้หน่วยงานของรัฐได้เปิดกิจกรรมด้านสื่อสารมวลชนให้ได้เข้าร่วมฝึกประสบการณ์ ในชื่อว่าโครงการยุวโฆษกรุ่นที่ 7 โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อายุ 13-18 ปี กำหนดการรับสมัครวันที่ 19 กันยายน - 17 ตุลาคม 2554 เป็นการคัดเลือกจากใบสมัคร ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ

การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสมัครสอบ/แข่งขันเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันมีรูปแบบที่พัฒนาไปมาก โดยที่สามารถสืบค้นข้อมูลข่าวสารกิจกรรมการรับสมัครได้ตลอดทั้งปี ประโยชน์ที่จะเกิดจากการเข้าร่วมโครงการนอกจากเหนือจากการรู้ว่าตนเองชอบหรือสนใจในสาขาเหล่านั้นหรือไม่ ยังได้เห็นได้พบว่าสาขาวิชาดังกล่าวแท้จริงแล้วมีการเรียนการสอนเป็นแบบไหน เรียนจบแล้วไปทำ/ประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง และที่สำคัญคือ ถือได้ว่าเป็นการกระตุ้นการเตรียมตัวสอบได้เป็นอย่างดี พร้อมกับการได้กลุ่มเพื่อนใหม่ๆ ที่มีความสนใจทั้งในแนวเดียวกันหรือแตกต่างกัน รวมถึงการได้เรียนรู้ว่า ปัจจุบันมีอะไรบ้างที่น่าสนใจ เพื่อนที่ร่วมกิจกรรมเขาเตรียมตัวสอบแบบไหน เขาอ่านหนังสือ ตำรา รวมถึงไปเรียนคอร์สพิเศษอะไรกันมาบ้าง รวมๆ แล้วโครงการแบบนี้ล้วนมีส่วนสร้างสรรค์ให้เกิดแรงกายแรงใจที่จะต่อสู้ อดตาหลับขับตานอนเพื่อความฝันทั้งนั้น

นอกจากนี้แล้วยังถือเป็นการช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทุ่มเทอ่านหนังสือตำราอยู่กับบ้าน ซึ่งอันที่จริงแล้ว การได้เคลื่อนย้ายตัวเองด้วยการเดินทางออกนอกบ้านไปพบพานสิ่งต่างๆ ใหม่ๆ แปลก ๆ ย่อมนำพาซึ่งความรู้ใหม่ๆ ที่น่าสนใจน่าติดตาม และถือเป็นการเปิดโลกทรรศน์ให้ได้คิด ได้ทำกิจกรรมได้แลกเปลี่ยนกับคนอื่นๆ ที่มีความรู้ ความคิด ความอ่านแปลกออกไป

การเตรียมสอบที่นั้นมิใช่ว่าจะนั่งนอนอยู่กับที่แล้ววันๆ ก็อ่านแต่หนังสือประเภทหนอนหนังสือเพียงอย่างเดียวคงไม่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตได้เสมอไป เพราะการเรียนรู้ที่ดีและมีประโยชน์คือการเรียนรู้แบบการเดินทาง ซึ่งหากย้อนไปศึกษาการเรียนรู้ของปราชญ์โบราณ เขาเหล่านั้นความรู้ความเชี่ยวชาญขึ้นมาได้ก็ล้วนมาจากการเดินทางดั้นด้นแสวงหาความรู้ ซึ่งต้องมีความอดทน พร้อมกับการแลกเปลี่ยนความคิดความอ่านกับคนที่อยู่ในสังคมอื่นๆ หรือพื้นที่อื่นๆ ที่มีความแตกต่างออกไป

สรุปสั้นๆ ว่า "ความรู้ที่ดีนั้นมักได้มาจากการเดินทาง การแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นความรู้จากประสบการณ์จริง" และเมื่อนั้นก็จะทำให้เป็นคนเก่งทั้งการเรียนและการทำงาน มีความพร้อมในการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม ซึ่งคนยุคนี้และอนาคตต้องมีความรู้ที่ต้องทันกับการเปลี่ยนแปลง ความรู้ที่มิได้เรียนเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น.....

ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : ณัฐพงศ์