กระบวนการตรวจพิสูจน์ DNA

กระบวนการตรวจพิสูจน์ DNA

กระบวนการตรวจพิสูจน์ DNA
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

DNA มีความสำคัญต่อการไขปริศนาคดีต่างๆ และในกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ คำถามคือจะมีสักกี่คนที่ทราบว่ากระบวนการตรวจพิสูจน์ DNA นั้นมีวิธีการตรวจสอบอย่างไรและต้องใช้อะไรบ้างในการตรวจพิสูจน์

ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ อธิบายว่า ในการตรวจสอบ DNA ในห้องปฏิบัติการ วิธีการคือถ้าได้ตัวอย่างเซลล์มาแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ ทำให้เซลล์แตกออกจากกันเพื่อแยก DNA ออกมานอกเซลล์ จากนั้นก็แยก DNA ออกมาเพื่อตรวจสอบ ในการตรวจสอบจะใช้วิธีการเพิ่มจำนวนสาย DNA ซึ่งตามปกติ DNA จะเป็นสาย2 สาย จับคู่กันอยู่ โดยจะทำให้ DNA แยกออกจากกันเป็นสายเดี่ยว เมื่อแยก DNA เป็นสายเดี่ยวได้แล้วก็จะใส่รหัสแต่ละตัวเข้าไป ซึ่งรหัส 4 ตัวนั้นก็คือ G, A, T, C รหัสทั้ง 4 ตัวนี้สามารถใช้สารเรืองแสงที่มีสีแตกต่างกัน 4 สีใส่เข้าไป และทำให้สายมีความสั้นยาวแตกต่างกัน

เมื่อได้สายที่สั้นที่สุดแล้วก็ใส่รหัสตัวแรกเข้าไปคือ G สมมุติว่าเป็นสีเขียว ก็จะรู้ว่าสายที่สั้นที่สุดคือสีเขียว และรหัสตัวถัดไปคือ A เป็นสีน้ำเงิน จะเห็นว่าสายสั้นที่สุดคือสีเขียวและสายที่สั้นรองลงมาคือสีน้ำเงิน ทำให้รู้ G นั้นต่อด้วย A เป็นต้น ก็จะได้สาย DNA ที่ยาวออกไปเรื่อยๆ ถ้าสายจำเพาะส่วนนี้มีความแตกต่างในแต่ละคนมากพอสมควร ก็สามารถนำมาทำเป็นเป็นฐานข้อมูลได้ ในกรณีเมื่อเกิดคดีฆาตกรรม ถ้ามีการต่อสู้กัน ผู้ตายอาจจะมี DNA ของคนร้ายติดอยู่ที่เล็บ โดยอาจจะมีเลือดหรือเซลล์ผิวหนังของคนร้ายติดอยู่ ก็จะนำเซลล์ผิวหนังมาแยก DNA ออกมาและทำการเพิ่มจำนวน DNA จากนั้นก็นำมาตรวจสอบรูปแบบ รูปร่างขนาดของ DNA ว่าเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ถ้าพบว่าเหมือนกันความน่าจะเป็นก็คือเป็นคนคนเดียวกัน

TIPS ปลายเส้นผมคือส่วนที่ไม่สามารถใช้หา DNA ได้เพราะหากต้องการตรวจพิสูจน์ DNA ก็ต้องใช้ส่วนอวัยวะที่มีเซลล์ในการเจริญเติบโตในการพิสูจน์แต่ปลายผมไม่มีเซลล์ที่ใช้ในการเจริญเติบโต หากต้องการตรวจ DNA จากเส้นผม จึงควรใช้ผมที่มีโคนหรือรากผมและไม่ควรใช้ผมที่หลุดออกมาในการตรวจ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : วิทยาศาสตร์รอบตัว(จาก สสวท.)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook