ม.ศรีปทุม ตั้งเป้ามหาวิทยาลัยชั้นนำด้านไอที

ม.ศรีปทุม ตั้งเป้ามหาวิทยาลัยชั้นนำด้านไอที ประเดิมเปิดคณะใหม่ ดิจิทัลมีเดีย โลโก้คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุมเตรียมรุกตลาดดิจิตอล เปิดคณะดิจิทัลมีเดีย (School of Digital Media) ในปีการศึกษา 2551 นี้ หวังผลิตบุคลากรมืออาชีพป้อนสู่ตลาดอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์แบบครบวงจร พร้อมทุ่มทุนสร้างห้องแล็บตัดต่อใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่หวังปั้นแอนิเมชั่นและเกมไทยเป็นหัวหอกสำคัญของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ รศ.ดร.สุชาย ธนวเสถียร คณบดีคณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ของไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก และแรงงานของไทยถือเป็นแรงงานที่มีคุณภาพเป็นที่จับตามองของตลาดโลก เมื่อเทียบกับแรงงานในวงการฮอลลีวู้ด ทั้งนี้การเติบโตของอุตสาหกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามีการใช้แอนิเมชั่นในสื่อเอนเตอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ มากมาย มีความถี่ให้เราได้พบเห็นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์โฆษณา ภาพยนตร์ เกมคอมพิวเตอร์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งความสมจริงเหล่านั้นล้วนเกิดจากฝีมือของบุคลากรที่มีความชำนาญงานโดยเฉพาะ ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ แอนิเมชั่น และ เกม จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ชี้ให้เห็นว่าตลาดแอนิเมชั่นในขณะนี้มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.5 พันล้านบาท ในขณะที่ตลาดเกมมีมูลค่าตลาดสูงถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งโอกาสที่ตลาดแอนิเมชั่นจะเติบโตขึ้นอีกในอนาคตข้างหน้ายังมีอีกมากทีเดียว ด้าน ดร.กมล จิราพงษ์ รองคณบดีคณะดิจิทัลมีเดีย และหัวหนจิทัลอาร์ตส์ กล่าวเสริมว่า การเรียนการสอนของคณะดิจิทัลมีเดีย มีจุดเด่น คือ นักศึกษาสามารถเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานจริงได้ครบกระบวนการของอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ ซึ่งคณะใหม่ของเราได้แบ่งการเรียนการสอนออกเป็น 2 สาขาวิชาด้วยกัน เมื่อเรียนหรือมีโครงการต่าง ๆ ทั้งสองสาขาวิชานี้จะทำงานร่วมกันจนเสร็จเป็นชิ้นงานออกมาเหมือนระบบการทำงานจริง ซึ่งทั้ง 2 สาขาที่ว่านี้ ได้แก่ สาขาดิจิทัลอาร์ตส์ และ สาขาแอนิเมชั่นและเกม โดยสาขาดิจิทัลอาร์ตส์จะเน้นในเรื่องของการออกแบบและการสร้างสรรค์ให้ภาพออกมาสวยสมจริง ส่วนสาขาแอนิเมชั่นและเกม จะเน้นในเรื่องของการสร้างโปรแกรมเป็นหลัก ซึ่งทั้งสองสาขานี้เราคิดว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องนำมาเรียนร่วมกัน เพราะนักศึกษาจะได้เข้าใจ และคุ้นเคยถึงระบบการทำงานจริง การเรียนในลักษณะนี้ยังมีจุดเด่นอีกประการหนึ่งคือ ปลูกฝังการทำงานแบบทีมเวิร์คให้กับตัวนักศึกษาเอง อีกทั้งยังเรียนรู้ได้รอบด้านและเข้าใจถึงกระบวนการทำงานจริง และที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้มีการเรียนการสอนในอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์แบบครบวงจร ดร.กมล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยศรีปทุมยังได้มีการลงทุนสร้างห้องแล็บ เช่น Animation Lab, Interactive Lab, Media Lab, Think Lab ซึ่งประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ระดับเวิร์คสเตชั่นกว่า 150 เครื่อง พร้อมด้วยซอฟต์แวร์ชั้นสูงในการทำงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิค และอุปกรณ์มัลติมีเดียอย่างครบครัน นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทางมหาวิทยาลัย ที่มีอุปกรณ์การเรียนการสอนด้านดิจิทัลมีเดียที่ทันสมัยและครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย นอกจากการลงทุนทางด้านนโลยีแล้ว ทางคณะดิจิทัลมีเดียยังได้เลือกเฟ้นนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ตลอดจนคณาจารย์ที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์ทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติที่มีชื่อเสียงในแวดวงแอนิเมชั่นและเกม มาถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักศึกษาโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่านักศึกษาของเราเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปแล้วจะสามารถก้าวขึ้นไปสู่เวทีโลกได้อย่างแท้จริง สำหรับปริญญาบัตรของคณะดิจิทัลมีเดียทั้งสองสาขานั้น ยังมีความแตกต่างกันเพื่อบ่งบอกถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นทางวิชาชีพของบัณฑิตอย่างชัดเจน ในสาขาดิจิทัลอาร์ตส์จะได้รับปริญญาตรีด้าน ศิลปกรรมศาสตรบัณทิต ส่วนสาขาแอนิเมชั่นและเกมจะได้รับปริญญาตรีทางด้าน วิทยาศาสตรบัณฑิต เพื่อตอบรับตลาดแรงงานที่ตรงกับสาขาวิชาที่นักศึกษาได้เล่าเรียนมาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยศรีปทุมยังวางแผนที่จะจัดเวิร์คช็อปสำหรับนักเรียนที่สนใจการเรียนการสอนของคณะนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และเพื่อเป็นการทดสอบความถนัดในเบื้องต้นให้กับตัวนักเรียนอีกด้วย โดยเวิร์คช็อปดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 26-27 เมษายน 2551 และวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2551 สำหรับนักเรียนที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2579-1111 หรือเข้าไปดูได้ที่ http://digitalmedia.spu.ac.th