ไขความเชื่อเรื่องยาคุม

ไขความเชื่อเรื่องยาคุม

ไขความเชื่อเรื่องยาคุม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ยาคุม, ยาคุมกำเนิด, คุมเนิดแบบเม็ด, โปรเจสโตรเจน, ฮอร์โมน

แนะผู้ชายปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

เคยได้ยินเพื่อนๆบอกกันว่า "หากต้องการให้ผมยาวเร็ว ก็ไปกินยาคุมสิ" ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่อย่างไร?? คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่ค้างคาใจใครหลายๆ คนอยู่...แต่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คำตอบ ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบจาก นพ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชกุล คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเฉลยให้ฟังกันว่า ความเชื่อทั้งหลายของบรรดาวัยโจ๋เป็นประสบการณ์ที่ถูกส่งต่อกันมา หลายคนเคยลองปฏิบัติตามความเชื่อเหล่านั้นโดยที่ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด ทางที่ดีไม่แนะนำให้เพศชายกินยาคุมใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่มีผลในเรื่องของความสวยความงาม หรือเสริมความหล่อแต่อย่างใด

ที่แน่ๆ ชายหนุ่มรู้หรือไม่ว่า!!.. การเชื่อตามกระแสกินยาคุมเพื่อให้ผิวหน้าเนียนใส เต่งตึง อาจมีผลทำให้หน้าอกตูมได้ และในเวลาเดียวกันก็มีผลทำให้บริเวณหน้าอกมีปัญหาเสี่ยงเป็นเนื้องอกได้ด้วย นั่นเพราะฮอร์โมนที่เป็นส่วนประกอบในยาคุมไม่เหมาะสมกับเพศชาย การนำมาใช้โดยไม่ปรึกษาแพทย์อาจเป็นอัตรายแก่ผู้บริโภค สำหรับในกลุ่มวัยรุ่นหญิง ที่มีความกังวลใจเรื่องผลข้างเคียงของการกินยาคุม และความเชื่อที่ว่า กินแล้วมีผลต่อน้ำหนักตัว กินยาคุมย้อนศรทำให้หน้าอกใหญ่ รับประทานยาคุมระยะยาวทำให้มีลูกยาก เรื่องเหล่านี้นพ.สุรศักดิ์ ย้ำว่าล้วนไม่เป็นความจริงและไม่เกี่ยวข้องกับผลของการกินยาคุม เนื่องจากปัจจุบันมีการสังเคราะห์ฮอร์โมนชนิดใหม่ที่มีการลดขนาดของฮอร์โมนในยาเม็ดคุมกำเนิดลงรวมทั้งมีการปรับสูตรผสมที่แตกต่างกันเพื่อลดผลข้างเคียงที่เกิดให้น้อยลงจึงไม่มีผลต่อน้ำหนัก แต่อาจมีผลให้เกิดฝ้าได้เมื่อสมผัสแสงแดด อาจป้องกันด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปเพื่อปกป้องผิว ส่วนผู้หญิงคนไหนที่ทานยาคุมแล้วสิวบนผิวหน้าลดลง เป็นผลมาจากรับประทานยาคุมที่มีฮอร์โมนเพศหญิงและฮอร์โมนต้านฤทธิ์เพศชายเป็นส่วนประกอบ

ในความเป็นจริงแล้ว!!ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ผู้หญิงเรานิยมใช้กันทั่วไปมี 2 ชนิด ประกอบด้วยฮอร์โมน คือ ฮอร์โมนชนิดเดียว (Progestin-only) เป็นยาคุมกำเนิดที่ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนอย่างเดียว และฮอร์โมนผสม (Combination pills) เป็นยาคุมกำเนิดที่แต่ละเม็ดประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนรวมกันในหนึ่งเม็ด ส่วนรูปแบบของยาเม็ดคุมกำเนิดมีทั้งแบบแผงละ 21 เม็ด และ 28 เม็ดทำให้ยาเม็ดคุมกำเนิดทั้ง 2 ชนิดนี้แตกต่างกันที่ปริมาณและชนิดของฮอร์โมนนั้นเอง สำหรับยาคุมเนิดแบบ 21 เม็ด สาวๆต้องกินในวันแรกที่มีประจำเดือน หรือถ้าบางคนลืมทาน ต้องกินภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หลังจากกินหมดแผงแล้วควรหยุดยาไป 7 วัน แล้วค่อยเริ่มแผงใหม่เพื่อปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย ส่วนใครที่คิดว่าเป็นคนขี้ลืมแนะนำให้ซื้อแบบแผงละ 28 เม็ดมากินจะดีกว่า เพราะสามารถกินติดต่อกันได้จนหมดแผงแล้วเริ่มทานแผงใหม่ได้เลย ที่สำคัญต้องกินเวลาเดียวกันทุกวันและกินให้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ก็ตาม ส่วนอาการข้างเคียงของยา

เม็ดคุมกำเนิด ที่หญิงสาววัยโจ๋อาจไม่ปลื้มนัก คือ อาจรู้สึก คลื่นไส้ และอาเจียน มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ปวดศีรษะ ประจำเดือนมีปริมาณน้อยหรือขาดประจำเดือน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลมาจากการใช้ยาคุมกำเนิด โดยอาการมีเลือดออกกะปริดกะปรอยนั้น มักเกิดในคนที่ใช้ยาคุมครั้งแรก แต่อาการดังกล่าวจะหายไปเมื่อร่างกายปรับตัวเข้ากับฮอร์โมนในยาคุมกำเนิด มักจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน รู้อย่างนี้แล้วคงคลายความสงสัยในเรื่องนี้กันได้บ้าง สำหรับหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หล่อที่อยากหล่อด้วยยาคุม หันมาสดใสแบบธรรมชาติปลอดภัยกว่า ส่วนสาวๆ ที่ต้องทานยาคุมอย่าลืมใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเอง ต้องทานให้ตรงเวลา ไม่ควรเปลี่ยนยาคุมบ่อยๆ เพราะร่างกายต้องใช้เวลาปรับตัวหากชนิดใดใช้ดีก็ควรใช้ที่ถูกกับร่างกายย่อมมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด แต่ทางที่ดีที่สุด!! อย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรจะดีกว่า!! เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด!! เรื่องโดย : กิตติยา ธนกาลมารวย

Team content www.thaihealth.or.th

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ไขความเชื่อเรื่องยาคุม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook