เปิดโผ “จังหวัดที่มีผู้สูงอายุมากที่สุด” ในประเทศไทย
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
เจาะลึก 5 อันดับจังหวัดที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย
ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ "สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์" (Aged Society) อย่างเต็มตัว ด้วยสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำความเข้าใจการกระจายตัวของประชากรสูงวัยตามพื้นที่จังหวัดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนนโยบายด้านสาธารณสุข สวัสดิการ และเศรษฐกิจ
จากข้อมูลสำรวจประชากรสูงอายุล่าสุด (พ.ศ. 2567) พบว่า กรุงเทพมหานคร และ จังหวัดนครราชสีมา เป็นสองพื้นที่ที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุดในประเทศ บทความนี้จะสรุป 5 อันดับแรก พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการกระจุกตัวของผู้สูงอายุในพื้นที่เหล่านี้
5 อันดับแรกของจังหวัดที่มีผู้สูงอายุสะสมมากที่สุด (พ.ศ. 2567)
จังหวัดที่มีจำนวนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปอาศัยอยู่มากที่สุด 5 อันดับแรก (เมื่อรวมกรุงเทพมหานคร) ได้แก่:
- กรุงเทพมหานคร (กทม.): ครองอันดับ 1 ด้วยจำนวนผู้สูงอายุสะสมกว่า 1.2 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากขนาดประชากรรวมที่มากที่สุดของประเทศ
- จังหวัดนครราชสีมา: เป็นจังหวัดในภูมิภาคที่มีผู้สูงอายุมากที่สุด ด้วยจำนวนประมาณ 5.3 - 5.7 แสนคน ซึ่งเป็นหัวเมืองหลักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)
- จังหวัดเชียงใหม่: จังหวัดใหญ่ในภาคเหนือที่มีจำนวนผู้สูงอายุสูง ด้วยจำนวนประมาณ 4.0 - 4.5 แสนคน และมีความพร้อมด้านการแพทย์สูง
- จังหวัดขอนแก่น / อุบลราชธานี: สองจังหวัดหลักในภาคอีสานที่มีจำนวนผู้สูงอายุสะสมในระดับใกล้เคียงกัน คือประมาณ 3.6 - 4.0 แสนคน โดยคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ย้ายถิ่นฐานไปทำงานในเมืองใหญ่
- จังหวัดสมุทรปราการ: จังหวัดในเขตปริมณฑลที่มีจำนวนผู้สูงอายุสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่เมืองที่รองรับการขยายตัวและการตั้งถิ่นฐานของผู้คนมานาน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จังหวัดเหล่านี้มีผู้สูงอายุสูง
การที่จังหวัดขนาดใหญ่และเมืองหลักมีจำนวนผู้สูงอายุสะสมสูงนั้น มีปัจจัยสำคัญหลายประการที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านขนาดประชากรและการย้ายถิ่นฐาน:
- ขนาดประชากรรวม: จังหวัดเหล่านี้เป็นจังหวัดที่มีประชากรรวมทั้งหมดมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลโดยตรงที่ทำให้มีจำนวนผู้สูงอายุโดยรวมสูงตามไปด้วย
- การย้ายถิ่นฐาน (Aging in Place): ผู้สูงอายุจำนวนมากยังคงเลือกที่จะอาศัยอยู่ในถิ่นฐานเดิม แม้คนวัยแรงงานจะย้ายไปทำงานในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ ผู้สูงอายุยังคงปักหลักอาศัยอยู่ในภูมิลำเนาเดิม
- ความพร้อมด้านการแพทย์: หัวเมืองใหญ่หลายแห่ง เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น และนครราชสีมา มีความพร้อมด้านสถานพยาบาลและบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งช่วยให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนยาวขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มิติที่แตกต่าง: ดัชนีการสูงอายุ (Aging Index)
นอกจากจำนวนสะสมแล้ว การพิจารณาจาก ดัชนีการสูงอายุ (Aging Index) ก็มีความสำคัญ ดัชนีนี้คือสัดส่วนของผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เทียบกับประชากรวัยเด็ก (0–14 ปี) ซึ่งบ่งชี้ถึงความรุนแรงของภาวะสังคมสูงวัยในพื้นที่นั้น ๆ ได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างจังหวัดที่มีดัชนีการสูงอายุสูงมากที่สุด ได้แก่ อุตรดิตถ์ น่าน และแพร่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุแซงหน้าประชากรวัยเด็กไปมาก โดยมีประชากรวัยเด็กเกิดใหม่น้อยและมีอัตราการย้ายถิ่นของวัยแรงงานสูง
ความท้าทายและการเตรียมรับมือ
การที่จังหวัดหลัก ๆ มีจำนวนผู้สูงอายุสูงสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่รัฐบาลและหน่วยงานท้องถิ่นต้องเร่งจัดการเพื่อรองรับประชากรกลุ่มนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
| ความท้าทาย | แนวทางการรับมือ |
|---|---|
| บริการสุขภาพ | ปรับปรุงระบบบริการสุขภาพให้รองรับโรคเรื้อรังและโรคที่มาพร้อมกับความสูงวัยอย่างทั่วถึง |
| สวัสดิการสังคม | จัดให้มีโครงการช่วยเหลือและสวัสดิการที่เหมาะสมเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะยากลำบากหรือผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง |
| การจ้างงาน | สนับสนุนการจ้างงานหรืออาชีพเสริมสำหรับผู้สูงอายุที่มีศักยภาพ เพื่อให้พวกเขามีรายได้และคุณค่าในตนเอง |
การเข้าใจการกระจายตัวของประชากรสูงอายุในแต่ละจังหวัดจะช่วยให้สามารถจัดสรรทรัพยากรและกำหนดนโยบายได้อย่าง ตรงจุด เพื่อให้สังคมไทยสามารถอยู่ร่วมกับภาวะสังคมสูงวัยได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
อ่านเพิ่มเติม:
- เปิด 15 อันดับ อำเภอเมือง ของจังหวัดไหนเจริญที่สุด (ไม่รวมกรุงเทพและปริมณฑล)
- 4 จังหวัดไทย ติดอันดับเมืองน่าอยู่หลังเกษียณที่ดีที่สุดในโลกปี 2025 โดย Forbes
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี




