ตัว Z อ่านว่า “แซด” หรือ “ซี” สรุปว่าต้องออกเสียงยังไงถึงถูกต้อง

ตัว Z อ่านว่า “แซด” หรือ “ซี” สรุปว่าต้องออกเสียงยังไงถึงถูกต้อง

ตัว Z อ่านว่า “แซด” หรือ “ซี” สรุปว่าต้องออกเสียงยังไงถึงถูกต้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันทั่วโลก แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยสังเกตคือ แม้แต่การออกเสียงตัวอักษรบางตัว ก็ยังมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับภูมิภาค โดยเฉพาะตัวอักษร “Z” ที่มักทำให้เกิดความสับสนว่าแท้จริงแล้วควรอ่านว่า “แซด” หรือ “ซี”

ในวันนี้จะช่วยอธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการออกเสียงตัว Z ให้ชัดเจน พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของสำเนียงระหว่างประเทศ และแนะแนวทางการใช้ให้เหมาะสมตามบริบท

ตัว Z อ่านว่า “แซด” หรือ “ซี” สรุปว่าต้องออกเสียงยังไงถึงถูกต้อง

Z ออกเสียงยังไงZ ออกเสียงยังไง

ความแตกต่างของการออกเสียง

ตัวอักษร “Z” มีการออกเสียงแตกต่างกันระหว่างสำเนียงอังกฤษแบบอเมริกัน (American English) และอังกฤษแบบดั้งเดิม (British English) โดย

  • ใน American English ตัว “Z” จะอ่านว่า “zee”
  • ใน British English ตัว “Z” จะอ่านว่า “zed”

ทั้งสองแบบนี้ถือว่า “ถูกต้อง” ตามหลักของเจ้าของภาษา และไม่ได้มีอันไหนผิดหรือดีกว่าแต่อย่างใด ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของภาษาในแต่ละประเทศ

ที่มาของคำว่า “zee” และ “zed”

คำว่า “zed” มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ “zēta” ซึ่งถูกนำมาใช้ในภาษาอังกฤษแบบดั้งเดิมตั้งแต่ยุคก่อนสมัยใหม่ ต่อมาเมื่อภาษาอังกฤษถูกนำไปใช้ในอเมริกา ชาวอเมริกันมีแนวโน้มในการปรับคำบางคำให้เรียบง่ายและคล้องจองกันมากขึ้น การเปลี่ยนจาก “zed” เป็น “zee” จึงเกิดขึ้น เพื่อให้คล้องกับการออกเสียง A-B-C-D-E-F-G เป็นต้น

ควรใช้แบบไหนดีสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทย

ในประเทศไทย ระบบการศึกษาส่วนใหญ่มักเน้นการเรียนภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ซึ่งทำให้หลายคนคุ้นชินกับการอ่าน “Z” ว่า “zee” อย่างไรก็ตาม หากมีการเรียนหรือทำงานร่วมกับชาวต่างชาติในประเทศที่ใช้ British English เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หรือแคนาดา อาจจะได้ยินการออกเสียงว่า “zed” มากกว่า

การออกเสียงตัว “Z” สามารถอ่านได้ทั้ง “zee” และ “zed” โดยไม่มีรูปแบบใดผิดหรือถูก แต่เป็นเรื่องของความแตกต่างทางสำเนียงระหว่าง American English และ British English เท่านั้น ผู้เรียนควรเลือกใช้ออกเสียงให้สอดคล้องกับบริบทที่ตนเองใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการสอบ ทั้งนี้ การรู้และเข้าใจถึงความแตกต่างดังกล่าวจะช่วยให้การใช้ภาษาอังกฤษของเรามีความยืดหยุ่นและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล