เรียนอย่าแบด แซดอย่าบ่อย! กสศ. จับมือ กทม. ปล่อยแคมเปญ “โอกาส Delivery” มอบถุง “ปันยิ้มให้น้อง”

เรียนอย่าแบด แซดอย่าบ่อย! กสศ. จับมือ กทม. ปล่อยแคมเปญ “โอกาส Delivery” มอบถุง “ปันยิ้มให้น้อง”

เรียนอย่าแบด แซดอย่าบ่อย! กสศ. จับมือ กทม. ปล่อยแคมเปญ “โอกาส Delivery” มอบถุง “ปันยิ้มให้น้อง”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ 14 มกราคม 2566 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายจังหวัดเสมอภาค 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดพะเยา จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดปัตตานี ร่วมรณรงค์สร้างโอกาสและฟื้นฟูการเรียนรู้ ผ่านกลไกจากภาคีเครือข่ายจังหวัดเสมอภาค นำถึง “ปันยิ้มให้น้อง” ไปมอบให้กับเด็ก ๆ ทุกคน ผ่านขบวนรณรงค์ “โอกาส Delivery” เด็กทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้ที่เสมอภาค เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 พร้อมรณรงค์ ฟื้นฟูการเรียนรู้ให้เด็กทุกคนมีโอกาสกลับเข้าสู่การศึกษา 

ดร.ไกรยศ ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า เพื่อสานต่อพันธกิจในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ในกิจกรรมวันเด็กปี พ.ศ. 2566 กสศ. ได้ผสานความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายจังหวัดเสมอภาค 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดพะเยา จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดปัตตานี ได้นำถุง “ปันยิ้มให้น้อง” ไปมอบให้กับเด็กกลุ่มเปราะบางที่ไม่มีโอกาสเดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็ก ผ่านขบวนรณรงค์ “โอกาส Delivery” เพื่อให้เด็กได้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ และรรณรงค์จุดประกายให้สังคมตื่นตัวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมเชิญชวนสังคมให้ความสำคัญกับ “เด็กทุกคน” ที่ควรมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้ที่เสมอภาค และฟื้นฟูการศึกษาหลังวิกฤตโควิด-19 

ภายในถุงปันยิ้มให้น้องประกอบด้วย หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์ โมเดลกระดาษ 3 มิติ สมุดระบายสีฝึกกล้ามเนื้อมือ  ชุดปลูกผัก และสีไม้ ซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้ที่จะช่วยส่งเสริมด้านพัฒนาการ และฟื้นฟูศักยภาพการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เนื่องจาก 3 ปีที่ผ่านมา ปัญหาโควิด-19 ได้ส่งผลให้เด็กไทยจำนวนมากเผชิญกับ “ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้”

สถานการณ์ถดถอยทางการเรียนรู้ และเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะความยากจน ถือเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่น่ากังวลของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ซึ่ง กสศ. ได้เปิดเผยข้อมูลด้านสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พบว่า นักเรียนที่ยากจนที่สุด 15% แรกในระบบการศึกษาไทย จำนวนกว่า 1.3 ล้านคน มีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนเพียงเดือนละ 1,044 บาท หรือเฉลี่ยนวันละ 34 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันก็พบผลกระทบกับเด็กทั่วไปเ เรื่องพัฒนาการเรียนรู้และภาวะกล้ามเนื้อบกพร่องในเด็กปฐมวัยและเด็กประถมต้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบถึงสถานการณ์ทักษะแรงงาน และปัญหาเศรษฐกิจของเด็กในอนาคต 

ด้านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันเด็กไม่ควรมีเพียงวันเดียวในหนึ่งปี แต่ทุกวันควรเป็นวันเด็ก โดยในทุกวัน ทุกโอกาสเราต้องคิดถึงเด็กให้มากที่สุด เพราะว่าเด็กคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของเมือง เด็กคืออนาคต คือคนที่จะมาสร้างและดูแลเมืองเราต่อไป

สำหรับงานที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 1 (จตุจักร) ในปีนี้ มีนิทรรศการ “Pay it Forward” ซึ่งเป็นกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม และการส่งต่อโอกาสที่มีคุณภาพและเท่าเทียม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ ขบวนคาราวาน “โอกาส Delivery” เปรียบได้กับเส้นเลือดฝอยของเมือง ที่จะลำเลียงความสุขส่งตรงไปถึงเด็ก ๆ อย่างเสมอภาค ดังที่บอกว่าทุกวันควรเป็นวันเด็ก เพราะพวกเขาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของเมือง ก่อนปิดท้ายว่าขอให้เด็กทุกคนมีความสุข ได้เล่น ได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ และขอให้เด็ก ๆ ดูแลกันและกัน สำหรับทางผู้ใหญ่ หรือ กทม. นั้น ก็พร้อมที่จะให้โอกาสและร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนการเดินหน้าไปด้วยกัน โดยย้ำว่าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของเมืองกรุงเทพฯ พร้อมสัญญาจะดูแลเมืองนี้ให้ดีที่สุด และส่งต่อเมืองที่มีคุณภาพให้กับเด็กทุกคน

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ เรียนอย่าแบด แซดอย่าบ่อย! กสศ. จับมือ กทม. ปล่อยแคมเปญ “โอกาส Delivery” มอบถุง “ปันยิ้มให้น้อง”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook