เด็กธรรมดา...คือสิ่งที่สวยงาม เปิดพื้นที่ให้เด็กธรรมดาค้นหาศักยภาพของตัวเอง

เด็กธรรมดา...คือสิ่งที่สวยงาม เปิดพื้นที่ให้เด็กธรรมดาค้นหาศักยภาพของตัวเอง

เด็กธรรมดา...คือสิ่งที่สวยงาม เปิดพื้นที่ให้เด็กธรรมดาค้นหาศักยภาพของตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เริ่มต้นแบบมีความสุขอบอุ่นหัวใจ ตั้งแต่ที่เข้ามาสัมผัสกับโครงการนี้ เห็นรอยยิ้ม เต้น ร้อง อย่างมีความสุข และได้เห็นความสามารถของเด็กในแต่ละคน รับรู้ได้ถึงทางโครงการตั้งใจจะเปลี่ยนให้ชีวิตดีขึ้น การสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากรากฐานสำคัญจากเด็กและเยาวชนไทย

โครงการไฟ-ฟ้า (FAI-FAH) มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบโอกาสและปลูกฝังให้เยาวชนอายุ 12-17 ปี รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์เชิงศิลปะและพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อนำสิ่งที่ได้เรียนรู้คืนสู่ชุมชน และเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น

10 ปี ที่โครงการดังกล่าว ได้เปลี่ยนให้ชีวิตเด็กๆ ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ทางด้านศิลปะ หรือจะเป็นทักษะในการชีวิต เพื่อเด็กๆ จะได้ประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงในอนาคต ทักษะๆ ต่างๆ จะสร้างให้เขานำความธรรมดามาส่องแสงให้กับตัวเขา ครอบครัว

ภายในงานได้มีการพูดคุยจากหลายมุมมองจาก นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์และนักเขียนคอลัมนิสต์ชื่อดัง พร้อมด้วยคุณแม่คนเก่ง โบว์-แวนด้า สหวงษ์ มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับการดูแลเด็กด้วยความเข้าใจและค้นหาศักยภาพเด็กจากสิ่งธรรมดารอบตัว 

 

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์และนักเขียนคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้ให้ความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็กไทยในปัจจุบันว่า “สังคมปัจจุบันถือเป็นสังคมที่เด็กและเยาวชนกำลังเผชิญกับความคาดหวังจากทุกทาง ทั้งความคาดหวังจากพ่อแม่ ครอบครัว สังคม ซึ่งพูดไปแล้วถือเป็นสิ่งที่มีอันตรายมาก ดังนั้นพ่อแม่ควรจะคาดหวังในสิ่งที่เป็นพื้นฐานมากกว่าคาดหวังเชิงสาระ สิ่งพื้นฐานที่พ่อแม่ควรให้ความสนใจ มี 3 เรื่อง นั่นคือ ทักษะในการช่วยเหลือตัวเอง ทักษะในการเอาตัวรอด และการมีอนาคตที่ใช้ได้ พร้อมกับส่งเสริมให้เขาได้เติบโตมีชีวิตอย่างเข้าใจ เรียนรู้ ทดลอง ล้มได้ ลุกเป็น ซึ่งทักษะเหล่านี้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่เป็นเรื่องสำคัญมากที่พ่อแม่ควรรู้และปลูกฝัง”

 

ในส่วนของ คุณแม่คนเก่ง โบว์-แวนด้า สหวงษ์ ที่ได้มาแบ่งปันแนวคิดในการเลี้ยงดูลูก ว่า “โดยปกติคนเป็นแม่ แค่เรื่องเล็กๆ น้อยที่ลูกทำได้เราก็ชื่นใจแล้ว ซึ่งความคาดหวังในตัวน้องมะลิ ก็เรียบง่ายมาก คือ อยากให้เขาดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ซึ่งเราไม่อยากไปกดดันเขา อยากให้เขาเติบโตและเรียนรู้ตามวัย มีความสุขกับชีวิตในแบบที่เขาเลือก โดยคนเป็นแม่ก็จะสนับสนุนและมอบโอกาสให้เขาได้เลือกชีวิตด้วยตัวของเขาเอง ในขณะที่สิ่งที่สอนเขาและอยากให้เขามีแนวคิดนี้ติดตัว คือ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”

หลังจากที่รับฟังและพูดคุยกับน้องๆ รู้สึกได้เลยว่า ทุกคนมีความกล้าแสดงออก รู้จักที่จะนำทักษะที่เรียนรู้จากการเข้าร่วมโครงการมา ในชีวิตจริง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook