"นนน-กรภัทร์" หนุ่มหล่อวัยรุ่น Gen Z กับมุมมอง ปัญหาของเด็กวัยรุ่นยุคนี้

นนน-กรภัทร์ หนุ่มน้อยความคิดผู้ใหญ่ ถึงตัวเล็กแต่ก็มากความสามารถ กับความคิดเกี่ยวกับ มุมมองปัญหาของเด็กวัยรุ่นยุคนี้

เรียกว่าเป็นหนุ่มน้อยที่ขโมยหัวใจของสาวๆ ทั้งประเทศจริงๆ สำหรับ นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์ นักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือคนนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าหนุ่มน่ารักคนนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องการแสดงและหน้าตานะ เรื่องความคิด มุมมองของเขาเรียกว่าเป็นผู้ใหญ่มากๆ เลยทีเดียว ซึ่งในครั้งนี้ทาง Sanook! Campus เราก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่มมากความสามารถคนนี้ ถึงมุมมองปัญหาเด็กวัยรุ่นยุคนี้กับทาง นนน-กรภัทร์ ดังนั้นเราจึงอยากให้เพื่อนๆ มาเห็นน้อง นนน-กรภัทร์ ในมุมมองนี้บ้าง

ประวัติ นนน-กรภัทร์

• ชื่อ : กรภัทร์ เกิดพันธุ์
• ชื่อเล่น : นนน
• เกิดวันที่ : 18 ธันวาคม 2543
• การศึกษา : โรงเรียนอมาตยกุล

แนะนำตัวเอง ตอนนี้มีผลงานอะไรบ้าง ?

“สวัสดีครับ ผมชื่อ นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์ ตอนนี้กำลังเรียน และก็ถ่ายซีรีส์ ถ่ายละครครับ”

สำหรับตัวเราเอง เรามองว่า “พรสวรรค์” กับ “พรแสวง” สิ่งไหนสามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้มากกว่ากัน ?

“เอ่อ…มันก็แล้วแต่คนนะ เพราะบางคนเขาก็อาจจะมีพรสวรรค์อยู่แล้ว หรือบางคนที่มีพรสวรรค์ก็อาจจะแพ้พรแสวงก็ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ระหว่าง โรนัลโด กับ เมสซิ ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเลยว่า คนหนึ่งมีพรสวรรค์ที่ชัดเจน ในขณะที่อีกคนมีพรแสวงเป็นหลัก เพราะโรนัลโดเข้าจะซ้อมบอลทุกวัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่เมสซิถึงแม้เขาจะซ้อมก็จริง แต่ก็อาจจะไม่ได้ซ้อมหนักมาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วทั้งสองอย่างก็ทำให้เขาทั้งคู่มาอยู่ในจุดเดียวกันได้ ดังนั้นถ้าหากคนเรารู้ว่าพรสวรรค์ของตัวเองคืออะไร และเรานำพรแสวงไปบวกกับสิ่งนั้นด้วย มันก็อาจจะนำพาให้เราไปสู่จุดสูงสุดก็ได้ครับ”

สิ่งที่เรารู้สึกว่าเราภาคภูมิใจที่สุดเกี่ยวกับการทำงานในวงการบันเทิงคืออะไร ?

“ทุกครั้งที่ผมได้ถ่ายซีรีส์ครับ ผมรู้สึกภูมิใจหมดเลย ภูมิใจทุกครั้ง เพราะเรารู้ดีว่ามันยากแค่ไหนกับการทำงานแต่ละครั้งกว่าจะได้ซีรีส์เรื่องหนึ่งออกมา และตัวผมเองก็ดีใจด้วยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานชิ้นนั้นครับ”

3 สิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวเราคืออะไร ?

“ขี้เล่น บ้างาน และก็ เป็นคนหลากหลาย”

วีรกรรมสุดโก๊ะของเราสมัยเรียนคืออะไร พอจะจำได้ไหม ?

“เอ่อ…น่าจะเป็นตอนที่วิ่งแล้วเสื้อไปเกี่ยวกับท่อน้ำแล้วมันแตก (หัวเราะ) คือจำได้ว่าตอนนั้นวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนปกติเลยครับ แต่อยู่ดีๆ เสื้อมันก็ไปเกี่ยวกับหัวก๊อกน้ำ มันก็เลยทำให้ท่อน้ำแตก และพอเห็นแบบนั้นปุ๊บผมก็รีบวิ่งหนีเลยไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ แต่สุดท้ายคุณครูก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ”

วิชาที่เราชอบและไม่ชอบคืออะไรวิชาอะไร ?

“สำหรับวิชาที่ชอบที่สุดก็คือวิชาเลขครับ เพราะผมชอบการคํานวณ ชอบการคิด แต่ผมจะไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเรียนสักเท่าไหร่ เนื่องจากผมเป็นคนที่ถ้าอ่านเองแล้วจะรู้สึกว่าเข้าใจยาก คือต้องให้มีคนมาอธิบายให้ฟังก่อน หรือไม่ก็ช่วยสรุปให้ผมเข้าใจก่อน จากนั้นผมจึงจะอ่านเองได้ แต่ถ้าให้ผมเรียนรู้จากการอ่านหนังสือเองเลย มันก็จะยากนิดหนึ่ง”

ปีหน้านี้เราจะกลายเป็นเฟรชชี่ เป็นน้องปีหนึ่งแล้ว เราได้เตรียมตัวกับชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยยังไงบ้าง ?

“ตอนนี้ผมเล็ง…นวัตกรรมสื่อสารของ มศว. อยู่ครับ และก็คิดว่าจะลองยื่นพอร์ตดูก่อน เพราะน่าจะเป็นทางที่ง่ายที่สุดใน 5 รอบ และถ้าหากติดเลยผมก็จะได้ทำงานสบายด้วย”

ในฐานะที่เรากำลังจะเป็นเด็กมัธยมจบใหม่ ตัวเราเองมีความคิดเห็นยังไงบ้างกับ TCAS ?

“ผมคิดว่ามันก็มีข้อดีข้อเสียของมันนะในหลายๆ อย่าง คือผมรู้สึกว่ามันให้โอกาสกับคนที่อาจจะไม่ได้เรียนเก่งมาก หรือว่าสนใจในสิ่งสิ่งเดียวมากๆ อย่างเช่นเพื่อนผมบางคน เขาก็มีการวาดรูปเพื่อเตรียมยื่นพอร์ตเข้าสถาปัตย์ ซึ่งมันก็เป็นอีกวิธีหนึ่งทำให้เขาไม่ต้องเรียนหนักมาก หรือเรียนเพื่อเอาเกรดดีๆ คือมันคล้ายๆ กับว่ามีอีกทางหนึ่งให้เขาได้ไป ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนเพื่อไปสอบ ส่วนข้อเสียก็มีเหมือนกัน อย่างเช่น มันมีให้เรา 5 รอบ ซึ่งแต่ละรอบมันก็มีความยากของมันอยู่”

เรามีความคิดเห็นยังไงบ้างกับการที่ผู้ใหญ่สมัยนี้ค่อนข้างที่จะสปอยด์ลูกจนเกินไป ?

“จริงๆ ผมก็เป็นนะ คือพ่อแม่ของผมท่านค่อนข้างที่จะดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ว่าบางสิ่งบางอย่างท่านก็จะปล่อยให้ผมได้คิดเองด้วยเหมือนกัน เพียงแค่ว่าถ้าหากอันไหนผิดเขาก็บอก แต่ตัวผมเอง ผมกลับรู้สึกว่าผมมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ ผมไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ทันที หรือตัดสินใจอะไรบางอย่างด้วยตัวเองได้ เพราะเหมือนผมจะคิดอะไรหลายๆ อย่าง เช่น คิดถึงพ่อแม่ คิดว่าท่านจะรู้สึกยังไง ท่านจะเห็นด้วยหรือเปล่า คือเหตุผลบางอย่างของผมกับพ่อแม่อาจจะมองไม่เหมือนกันก็ได้”

แสดงว่าทุกครั้งที่เราต้องตัดสินใจอะไรเองก็แล้วแต่ เราจะนึกถึงคนอื่นก่อน ?

“ผมเป็นคนที่โดนสอนมาตลอดว่า ถ้าหากจะทำอะไรให้คิดถึงคนในบ้านก่อน ซึ่งบางครั้งผมก็คิดว่าผมคิดมากไปนะ (หัวเราะ) อย่างเวลาผมไปเที่ยว ผมก็จะคิดว่าถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา พ่อแม่จะทำยังไง พ่อแม่จะดูแลเรายังไง หรือถ้าหากผมโดนรถชน มันจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้นบ้าง คือมันเป็นในลักษณะของการคิดเผื่อมากกว่า เพราะทุกอย่างมันมีโอกาสเกิดขึ้นได้หมด ดังนั้นเวลาจะทำอะไรผมก็จะทำแค่ตามพอเหมาะ และระวังตัวเองพอสมควร เรียกว่าขี้ระแวงนิดหนึ่งครับ”

เรามองว่า ปัญหาเด็กต่อต้านผู้ใหญ่ กับ ปัญหาผู้ใหญ่ให้ท้ายเด็ก สิ่งไหนมีผลเสียมากกว่ากัน ?

“มันส่งผลเสียกันคนละแบบครับ เพราะการให้ท้ายเด็กมากเกินไป เด็กก็อาจจะรู้สึกได้ว่าเขาต้องได้ทุกอย่าง ถ้าหากคนนี้ไม่ให้ เขาก็ไปขออีกคนหนึ่งก็ได้ ส่วนเรื่องต่อต้านผู้ใหญ่ ก็อาจจะทำให้เด็กเกินการเรียนรู้ยากขึ้น เพราะเขาอาจจะไม่รับฟังอะไรที่ผู้ใหญ่สอนเลย และมองว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่สอนคือเรื่องเก่า อคติกับสิ่งที่ผู้ใหญ่แนะนำ ซึ่งมันอาจจะทำให้เราเรียนรู้ได้น้อยลง”

ฝากผลงานของเราตอนนี้ มีอะไรให้แฟนๆ ได้ติดตามบ้าง ?

“ตอนนี้ผมก็กำลังมีซีรีส์เรื่อง The Gifted นักเรียนพลังกิฟต์ และก็มีงานเพลงที่ชื่อว่า YOUniverse จักรวาลเธอ รวมถึงช่วงปลายปีก็อาจจะมีผลงานภาพยนตร์กับประเทศเวียดนามออกมาให้ได้ชมกัน ซึ่งผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีการนำเข้ามาฉายในไทยไหม (ยิ้ม) ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ”