รู้จัก "อาร์ตี้ ซุปตาร์" บัณฑิตจุฬาฯ เจ้าของ MV "ฉันรู้เธอเป็นตุ๊ด" ผู้โพสต์เฟซบุคถึง "พี่ตั๊น"
สัมภาษณ์โดย : ฟ้ารุ่ง ศรีขาว
ภาพ : ชัชวาลย์ นิจงาม , กิตยางกูร ผดุงกาญจน์, ณัตติพร ช่วยหนู
ลำดับภาพ : นัฐพงษ์ โห้เฉื่อย , กิตยางกูร ผดุงกาญจน์
"มติชนออนไลน์" สัมภาษณ์ "อาร์ตี้ ซุปตาร์" บัณฑิตป้ายแดงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของ MV ดัง "ฉันรู้เธอเป็นตุ๊ด" พร้อมกับคู่หู "มุก เพนดั้ม" เพื่อนร่วมงานที่ปรากฏตัวใน MV ทั้ง "ฉันรู้เธอเป็นตุ๊ด" และชิ้นล่าสุด "มือปืนตุ๊ด" ในภาวะที่ความหลากหลายทางความคิดทางการเมืองอาจเป็นเหตุให้ขัดต่อ "ความสงบ" แต่ "ความหลากหลายทางเพศ" ยังดำรงอยู่แม้สังคมจะสงบหรือไม่สงบก็ตาม
หนึ่งในสเตตัสสุดฮอต!!! ของ อาร์ตี้ ในช่วงที่ผ่านมา คือการให้ความเห็นกรณี "ตั๊น จิตภัสร์ กฤดากร" หนึ่งในแกนนำ กปปส. เป็นตัวแทนบัณฑิตจุฬาฯ กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีคนไลค์สเตตัส 2 พันกว่าไลค์ และแชร์ 400 กว่าแชร์ มาทำความรู้จัก กระเทย ผู้ไม่ต้องการการยอมรับจากสังคม ในบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้
-อาร์ตี้ เป็นที่รู้จักมากกรณีอัดคลิปโวย สภากาชาดปฏิเสธรับบริจาคเลือด
ประเด็นก็คือว่า รุ่นน้องคณะหนู ต้องการไปบริจาคเลือด แล้วพอเขาบริจาคเลือดปุ๊บ ทางสภากาชาดก็บอกว่า ไม่มีนโยบายรับบริจาคเลือดของเพศที่ 3 รุ่นน้องก็โกรธมาก มาเล่าให้หนูฟัง วันนั้นหนูก็เลยโทรไปหาสภากาชาดเลยคะ สภากาชาดบอกว่า ต้องขอโทษ ทางเราไม่มีนโยบายรับบริจาคเลือดของเพศที่ 3 เพราะมีความสุ่มเสี่ยงสูง หนูก็เลยอารมณ์เสียมาก อัดคลิปขึ้นยูทูบด่าตอนนั้นเลย กลายเป็นประเด็นร้อนของวันนั้นไปเลย วันต่อมาไปออกรายการของวู๊ดดี้ และสื่อช่อง 3,7,9 ก็เอาไปออกข่าวกัน
-ผลงานมิวสิควิดีโอ จนถึงวันนี้มี 2 ชิ้น
จริงๆ มีเยอะกว่านั้น แต่ว่ามันแป๊ก มันไม่ค่อยดังเท่าไหร่ ส่วนมิวสิควิดิโอที่ดังๆ ก็คือ "ฉันรู้เธอเป็นตุ๊ด" วันนั้น อ่านหนังสือสอบแล้วเครียด ฟังเพลง blurred lines ของ pharrell และ robin thicke แล้วอยากเอามาทำเป็นเพลงของตัวเอง ก็เลยนั่งเขียนเนื้อเพลง แล้วอยู่ดีๆ มันก็ขึ้นมาในหัว "ฉันรู้เธอเป็นตุ๊ด" ก็เลยเขียนออกมาแล้วก็เอามาทำเป็นเพลง เพื่อ celebrate ความหลากหลายของเพศสภาพค่ะ
- คนที่อยู่ใน MV มีใครบ้าง
มีหนู มีเจ๊มุก แล้วมีรุ่นน้องที่คณะ 2 คน แล้วมีเพื่อนอีกคนหนึ่ง แล้วก็มีซัมมารี กระเทยตัวแม่ มช.
-เป้าหมายที่อาร์ตี้และพี่มุก ทำ MV คืออะไร
อาร์ตี้ - จริงๆ แล้ว ดิฉันถูกกดดันแล้วก็ถูกกดขี่มาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่ดิฉันเป็นตุ๊ด ดิฉันก็เลยอยากให้ตุ๊ดเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก มีที่ยืนในสังคมอย่างมีความสุข มีชีวิตที่เป็นอย่างที่เขาต้องการจะเป็น
เราก็ยอมจะเป็นคนโดนสังคมประณาม ฟาดงวงฟาดงาใส่ เพื่อที่จะให้เด็กรุ่นหลัง จะได้ภูมิใจและรักในสิ่งที่ตัวเองเป็น และมีสังคมที่เสมอภาคและเท่าเทียมกันมากขึ้น ถ้าเขาอยากยืนอยู่ ค่ะ
มุก - สำหรับพี่ ถ้าตราบใดเราเคารพกฎกติกาของสังคม พี่ก็จะไม่ค่อยแคร์ ความรู้สึกของสังคม ที่สะท้อนต่อเรา เพราะเราเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าเราเคารพกฎกติกา เราแสดงออกไปแล้วเรารู้สึกแฮปปี้ ที่สำคัญ ไม่ได้ต้องการการยอมรับจากสังคม คือตราบใดที่เรายังทำให้เขายอมรับเราได้ เขาก็จะยอมรับเราเอง คือไม่จำเป็นจะต้องมาเรียกร้องให้สังคมยอมรับ คงไม่แบบนั้น ก็คือจะยืนหยัดด้วยตัวเอง สังคมก็มองเห็นเอง
อาร์ตี้ - ดิฉันเองไม่เชื่อในการยอมรับของสังคม เพราะดิฉันคิดว่าคนเราไม่ว่าจะเป็นอะไร คุณแค่ยอมรับตัวเองและภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ใครจะคิดอย่างไรก็ช่างแม่งมันนะคะ ก็อยากให้น้องๆ ทุกคน ไม่ว่าเราจะเป็นยังไง เรามีสิทธิที่จะเป็นอย่างที่เราต้องการนะคะ แค่เราไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน แค่นั้นมันก็พอแล้วคะ
หนูจะบอกทุกคนว่าหนูเป็นตุ๊ดคะ แล้วหนูก็ภูมิใจในความเป็นตุ๊ดของหนูคะ
-ยืนยันตัวตนแบบนี้แล้วมีปัญหาไหม
มีปัญหาแน่นนอนคะตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่เล็กจนโตนะคะมีปัญหามาตลอด แต่ว่าพอเราคิดว่าไม่เป็นปัญหาก็ไม่มีปัญหา คืออยู่กับมันอย่างมีความสุขแล้วภูมิใจกับมัน ปัญหาที่มันเข้ามามันก็เป็นปัญหาจากภายนอกค่ะ ตัวเราเองไม่ได้เป็นปัญหาเพราะฉะนั้นเราก็ไม่แคร์ (สะบัดผม1ครั้ง)
-งานของพี่มุก คืออะไร
มุก -เปิดร้านซักรีดคะ แล้วก็เป็นสิ่งที่ใฝ่ฝัน มาตั้งแต่สมัยอยู่บ้านนอกนะคะ คืออยู่บ้านนอก ขนาดถุงเท้าดิฉันยังรีดเลยค่ะ ไม่ได้อยากได้รางวัลออสการ์เหมือนบางนางนะคะ แล้วพอไปทำงานโรงแรม ก็อยู่แผนกคอฟฟี่ชอป เป็นเด็กเสิร์ฟและอาสาส่งผ้าไปซัก
-รู้จักอาร์ตี้ได้อย่างไร
มุก- รู้จักอาร์ตี้ผ่านเพื่อนอีกคนหนึ่ง อาร์ตี้ มาถามหาหอพัก เห็นนางตอนแรกก็ตกใจ เพราะรูปร่างกล้ามใหญ่กำยำ แล้วก็ชอบใส่เสื้อ รด. เราก็นึกว่าเป็นลูกนายพล เราก็ยังคิดสงสัย เอ๊ะ ลูกนายพลเป็นกระเทยด้วยเหรอวะ แต่พออยู่ไปนานๆ ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่านางเป็นคนอ่อนไหวต่อคำพูดคน เราก็บอกว่านางขาใหญ่ อย่างโน้นอย่างนี้ นางก็กลับไปร้องไห้เสียใจกับคำพูดเล็กๆ น้อยๆ
อาร์ตี้ - เมื่อก่อนเป็นคนที่แบบว่า ค่อนข้างแคร์สังคม แคร์คนรอบข้าง แต่พอหลังๆ มาก็ ช่างแม่งมันคะ อยากพูดอะไรก็พูดไปนะคะ
มุก - เวลานั่งคุยกันประเด็นโน้นประเด็นนี้ เราก็ถกเถียงกันไปถกเถียงกันมา เพราะว่าอยู่ตรงนี้ มันจะมีความคิดเห็นทางการเมืองที่หลากหลาย แต่เราก็นั่งคุยได้กับทุกคน ก็เคารพกันว่า เราคิดแบบนี้ เขาคิดแบบนี้ เราจะไม่ไปก้าวก่ายในความคิดของเขา
-ทำไมอาร์ตี้ เลือกพี่มุก มาเล่น MV ทั้ง 2 ชิ้น
อ๋อ ก็รักพี่มุกคะ ด้วยความที่เห็นเขาเป็นคนที่สวยเกินมนุษย์มนาก็อยากให้เขามีโอกาสได้ออกสู่สังคมภายนอกบ้าง แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาใกล้จะหมดอายุขัยแล้วคะ ก็อยากจะให้เขามีผลงานประจักษ์ต่อสาธารณชน บ้างนะคะ
-พี่มุก ทำไมรับเล่น MV กับอาร์ตี้
อ๋อ อันนี้ก็คือเกิดจากความสนิทสนมกัน แล้วอีกอย่างเวลาเราคุยกันเยอะๆ เราก็จะรู้ว่าเป็นคนแบบ ไว้ใจได้ว่าเขามีความคิดยังไง คือเราเป็นกระเทย เราก็ไม่อยากตลกเรี่ยราด แต่ว่ามันต้องมีแก่นอะไรบ้างเล็ก ๆ น้อยๆ นอกจากขำแล้วก็น่าจะได้อะไรกลับไปบ้าง จริงๆ เขาก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตลกนะ แต่พอทำออกมา มันก็ตลกด้วยสังขาร ซึ่ง MV ฉันรู้เธอเป็นตุ๊ดก็ประสบความสำเร็จ พออันที่สอง "มือปืนตุ๊ด" อาร์ตี้บอกให้ช่วยหน่อยก็เลยทำ แต่กับบางคนถ้าไม่รู้จักกันเลย ไม่ได้คุยกันเลยจะไปทำแบบนี้ก็ไม่ได้ แต่อาร์ตี้เป็นคนมีความคิดชัดเจน ต้องการนำเสนอแบบนี้ ซึ่งความคิดของนาง ก็เป็นความคิดของนาง แต่เรามั่นใจที่จะร่วมงานกับนาง เราคิดว่าออกมาก็คงจะไม่เรี่ยราด
-MV "มือปืนตุ๊ด" ยาก-ง่าย ต่างจาก "ฉันรู้เธอเป็นตุ๊ด" อย่างไร
มุก- ก็ไม่ยาก เพราะจริงๆ อยากได้ลุคแบบนี้มานานแล้ว บทอะไรก็ได้เท่ๆ แต่ไม่เกรี้ยวกราด อาร์ตี้ก็บอกเตรียมตัวได้เลย แล้วทำตามนางก็จบ ส่วนความใฝ่ฝัน อยากเล่นบทที่มีความน่าเกรงขามอยู่ในตัว โดยไม่ต้องพูดมาก แบบนี้ก็โอเค
-พี่มุก เคยทำงานแสดงมาก่อนไหม
มุก-ไม่เคยเลยคะ แต่ 2 คนนี้ (อาร์ตี้-มุก) จะหลงใหลเรื่องการแสดง อย่างเวลาดูละคร เราจะไม่ดูเนื้อเรื่อง แต่ดูว่าซีนนี้ คนไหนเล่นเข้าถึง แล้วเราจะมีความสุข แม้กระทั่งบทเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่าง อย่าง แอนทองประสม ในสามีตีตรา ต้องให้ได้อย่างนั้นคือ คือจะหลงไหลการแสดงของนักแสดงทุกคน แล้วที่สำคัญ ถ้าบทถึง นักแสดงถึง เราคนดู ก็จะดูอิ่ม
อาร์ตี้ - ที่สนิทกับคุณมุก เพราะว่า คุณมุก เป็นต้นแบบของคนในสังคมไทย ที่เราคาดหวังว่าควรจะเป็นอย่างนั้น คือไม่ใช่เรื่องความสวยหรืออะไรแบบนั้นนะคะ แต่คือ คุณมุกเป็นคนเปิดกว้างทางความคิด คือรับฟัง ความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย แล้วก็ถึงแม้ส่วนตัว จะมีความคิดเห็นของตัวเอง แต่ก็ไม่เคยปิดกั้น แล้วก็ไม่เคยปิดรับความคิดเห็นจากคนอื่น ก็คือ เราจะมาที่ร้านนี้ แล้วก็คุยกันได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร การเมือง ศาสนา สังคม เพศ ก็จะคุยกันได้หมด แล้วดิฉันก็อยากให้สังคมไทยของเราเนี่ย เป็นอย่างนั้นนะคะ คือไม่ว่าเราจะคิดต่างแค่ไหนเราอยู่กันได้คะ
- จะทำงานร่วมกันอีกหรือไม่
อาร์ตี้ - (สะบัดบ๊อบใส่กัน) คงไม่แล้วล่ะค่ะ เพราะไม่รู้เขาจะมีชีวิติยู่อีกนานเท่าไหร่ นะคะ จะทัน MV ต่อไปหรือเปล่า ต้องดู ถ้าตอนนั้นเขายังมีชีวิตอยู่ก็คงจะได้ทำงานร่วมกันค่ะ
มุก - เรื่อง ของเรื่องคือนางต้องอาศัยอารมณ์ในการทำงาน
-มีความสุขไหม
มุก-สุขสิมีความสุขทุกวันมีความสุขตลอด คือเป็นคนที่ไม่ค่อยเอากระแสภายนอก มาสู่ตัวเอง มันก็เลยมีความรู้สึกว่า ฉันไม่จำเป็นต้องมานั่งแคร์อะไรตราบใดที่ฉันยังทำงานอาชีพสุจริต แฮปปี้กับงานบริการที่ทำให้คนหล่อคนสวยด้วยฝีมือเรา แค่นั้นพอแล้ว
อาร์ตี้ - อ๋อ มีสิคะ ก็สวนดุสิตโพลล์ก็บอกแล้ว่า 90% ของประชากรไทย มีความสุขนะคะ หนูก็มีความสุขคะ สวนดุสิตว่ายังไงหนูก็ว่าอย่างนั้น มีความสุขภายใต้การปกครอง ของ คสช. จริงไหมคะคุณแม่ขา คุณแม่ต้องพูดค่ะ คสช.ว่าอย่างไรหนูก็ว่าอย่างนั้น
มุก - อ๋อไม่ค่ะ คนละส่วน เพราะเราคิดเห็นต่างกัน
-อาร์ตี้ เรียนจบอะไร เล่าให้ฟังหน่อย
ไม่อยากบอกเลยคะ กลัวคณะอายนะคะ เพราะส่วนใหญ่ คนจะมองว่า หนูเป็นคนไม่มีการศึกษานะคะ แต่ก็มีคะ คือจบคณะรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนี้เรียนจบแล้วยังไม่ทำงานคะ ไม่ใช่ตกงาน หรือว่างงานนะคะ
-เรียนที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ชอบอาจารย์อะไร
อาจารย์สรวิศ ชัยนาม เพราะ เป็นอาจารย์ที่เปิดมุมมองของหนูต่อโลกให้กว้างขวาง เปิดกะลาจนไม่สามารถมองชีวิตและสังคมแบบเดิมๆ
-อาร์ตี้ เคยแต่งหญิงเข้าห้องสอบ
เอาจริงๆ ก็คือว่าวันนั้น หนูไม่ได้ซักชุดนิสิตชาย แล้วหนูก็เลยคิดว่า เออ เดี๋ยวฉันแต่งชุดนิสิตหญิงเข้าสอบเลยดีกว่า แล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรนะคะ วันนั้น ก็แต่งเข้าสอบก็โดนเจ้าหน้าที่และอาจารย์บางคน เขาตักเตือนว่าทำไมแต่งมาแบบนี้ แต่อาจารย์ที่คุมสอบเองเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเรา เขาก็เข้าใจเรา
พอเข้าไปแล้ว มันก็กลายเป็นประเด็น เพราะว่าวันเดียวกันนั้น หนูเอามาโพสต์ลงเฟซบุค เรื่องที่หนูขึ้นรถเมล์กลับ หนูก็ยืนให้คนอื่นนั่ง ทีนี้คนก็มองว่า อุ๊ยอีนี่เป็นผู้หญิงทำไมมีขนขา แล้วบางคนก็มองแบบเหยียดๆ ตอนนั้น เราก็ไม่ค่อยมั่นเท่าไหร่ เราคิดในใจว่า ทำไม เราเป็นตุ๊ด เราเป็นกระเทย หรือเป็นเพศที่ 3 แล้วทำไมเราจะแต่งตัวแบบที่เราต้องการไม่ได้ ก็เลยเอามาเขียนลงเฟซบุค แล้วมีคนแชร์ออกไปมากมาย ก็กลายเป็นประเด็น
หลังจากนั้น ถูกเรียกสอบวินัย เรื่องแต่งกายเข้าห้องสอบ แต่ไม่ไป ดูเหมือนเขาจะเอาเข้าที่ประชุมว่าจะเปลี่ยนกฎหรือไม่เปลี่ยนกฎ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร
- วันที่แต่งหญิงเข้าสอบ ได้สอบวันนั้นไหม
ได้สอบค่ะ แล้วหลังจากวันนั้น หนูก็แต่งเข้าสอบหลายวิชา ของคณะรัฐศาสตร์เอง มีอาจารย์ทั้งที่สนับสนุน แล้วก็ไม่สนับสนุน อาจารย์ที่ไม่สนับสนุน ก็จะเรียกไปคุยว่า ระเบียบเป็นแบบนี้ๆ ต้องทำตาม โน่นนี่นั่น ส่วนอาจารย์ที่สนับสนุน เขาก็ไม่พูดอะไรต่อหน้าแต่ไปสนับสนุนลับหลัง
-ล่าสุด จบมาแล้วโดยไม่มีปัญหา
ไม่มีปัญหาค่ะ ก็เคยถูกตัดคะแนนความประพฤติ 40 คะแนน แต่ไม่ใช่เรื่องแต่งหญิงเข้าสอบ
- เมื่อ คสช. เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ อาร์ตี้ได้ไปสังเกตการณ์หรือไม่
ก็ได้ออกไปนิดนึง ไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น เดินร่อนเร่พเนจร กะจะส่งมอบความสุขให้ทหาร แต่ทหารไม่สนใจ จะไล่หนูกลับบ้านอย่างเดียว วันนั้นไปเจอนายทหารเรียกแท็กซี่ให้หนูขึ้นกลับบ้าน หล่อมาก จมูกเป็นจมูก ขาว ใส ตี๋ (กลืนน้ำลาย)
-โพสต์เฟซบุค กรณีคุณตั๊น จิตภัสร์ กฤดากร หนึ่งในแกนนำ กปปส. เป็นตัวแทนบัณฑิตจุฬาฯ กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ อาร์ตี้คิดอย่างไรแน่
ชื่นชมพี่ตั๊น เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งประสบความสำเร็จในการเรียน ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการได้รับคัดเลือกในการให้เป็นตัวแทนกล่าวนำคำสัตย์ปฏิญาณ
-บางคนบอกว่าอาร์ตี้เสียดสี
โอ้คนเรามีopinionนะคะ มันก็แล้วแต่คนนะคะ ว่าจะไปตีความยังไง หนูบริสุทธิ์ใจนะคะ หนูชื่นชมพี่เขาจากใครจริง
ประเด็นก็คือว่า คนกล่าวนำคำสัตย์ปฏิญาณ คือส่วนใหญ่จะให้นิสิต ป.ตรี เป็นคนนำกล่าว เป็น นิสิต ป.ตรี ที่มีผลงานทางวิชาการ แล้วก็ผลงานเป็นที่จดจำระดับนานาชาติ หรือ เด็กเรียนดี ได้ 4.0 อะไรแบบนี้
หนูก็คิดว่าทางมหาวิทยาลัยอาจจะมีเหตุผลของเขา แต่คนที่ไม่เห็นด้วย ก็มีเหตุผลของเขา ที่จะมอง คนที่แสดงออกทางการเมืองเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งมากเกิน อาจจะเป็นการผลักอีกคนหนึ่งออก ให้รู้สึกว่า เป็นคนที่ทางมหาวิทยาลัยไม่รับหรือเปล่า ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นไปนะคะ ส่วนตัวหนูเองก็เขียนไปแล้ว ไปตีความเอาเองอ่านเอาเองนะคะ ตามนั้น
-มีวิวาทะทางเฟซบุคกับคนที่ถ่ายรูปอาร์ตี้ในจังหวะกระโปรงสะบัดกระโปรงใกล้บัณฑิต
คะมันไร้สาระมากคะคุณพี่นี่กระโปรงตัวนี้เลยประเด็นก็คือว่าวันนั้นแต่งชุดเป็นโสเภณีใส่วิกสวยหนูขึ้นไปบนเก้าอี้ด้วยความเป็นกระเทยเยอะก็สะบัดกระโปรงแล้วมันก็ตกไปคลุมหัวเพื่อนหนูก็หัวเราะแล้วก็มีคนเอามาตำหนิ
หนูก็เลยเข้าไปคอมเมนท์เพราะโกรธปกติหนูเป็นคนที่รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง เปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ถ้ามึงนินทากูลับหลัง มึงตายคะ หนูก็เลยเอามาโพสต์ว่าคนนี้ทำแบบนี้ แล้วก็อธิบายแจกแจงเหตุผล 11 ข้อของการกระทำของหนู ว่าเป็นความไม่ตั้งใจ ซึ่งคนก็มาโพสต์ด่าบ้างและสนับสนุน บ้าง ก็เป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย เอ๊ะประเทศเราใช่ประชาธิปไตยหรือเปล่า? ไม่ใช่เหรอ? อู๊ยขอโทษลืม
-จะไปแจ้งความจริงหรือเปล่า
ให้เพื่อนที่จบนิติศาสตร์กำลังดูอยู่แต่บางคนก็บอกว่าให้เลิกแล้วต่อกันแล้วก็อภัยแต่โดยส่วนตัวหนูก็เฉยๆนั่นแหละประเด็นก็คือว่าเขาขอโทษหนูแต่เขาไม่มีความจริงใจในการขอโทษนั้นเลยสังคมทุกวันนี้มีคนที่ถ่ายรูปคนอื่นแล้วเอาไปให้คนวิจารณ์ในเฟซบุคตัวเองทั้งที่เขาอาจจะทำหรือไม่ได้ทำการดังกล่าวแล้วคนก็ตัดสินไปต่างๆนานา โดยที่ เขาไม่มีโอกาสได้ปกป้องตัวเองเลยคะ ซึ่งมันไม่ยุติธรรม ไม่โอเค ไม่พอใจอะไรก็ต้องบอกกันตรงๆ ใช่ไหมคะ
-อาร์ตี้เป็นกระเทยที่มีความคิดทางการเมืองเป็นฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา
ไม่รู้อ่ะแล้วแต่คนจะมองแจกแจงแล้วกันนะคะเพราะว่าหนูไม่เชื่อในการจำแนกแจกแจงclassificationอุดมการณ์ทางการเมืองคนก็จะบอกหนูเป็นฝั่งโน้นฝั่งนี้ก็แล้วแต่เขาแล้วกันค่ะใครอยากจะคิดยังไงก็คิดไปหนูแค่แบบปากหนูหมาคะหนูเป็นกระเทยปากหมา หนูก็ด่าเขาไปทั่วนะคะ คุณยิ่งลักษณ์บ้าง คุณสุเทพบ้าง คุณทักษิณบ้าง หนูก็ด่าเขาไปทั่วนะคะ คนเรียนรัฐศาสตร์ ปากมันก็อย่างนี้แหละ แต่ถามว่าทำอะไรได้ไหม ก็ทำอะไรไม่ได้นะคะ ก็ได้แต่ด่าเขาไปเรื่อย
-เห็นโพสต์เฟซบุค ไม่ใช่เหลือง ไม่ใช่แดง เป็นคอมมิวนิสต์
ก็มีความเชื่อบางอย่าง คือหนูเชื่อว่าคนเรามันเท่ากัน อันนี้คือแนวคิดพื้นฐานของหนูเลย ก็คือหนูเชื่อว่า คนเรามันเกิดมา เพราะมันต้องเกิดมา แล้วสุดท้ายมันก็ต้องตายสิ่งที่เราจะทำได้ก็คือ ใช้ชีวิตให้มีความสุข โดยเดือดร้อนคนอื่นน้อยที่สุด นั่นคือแนวคิดของหนู เพราะฉะนั้น หนูเลยเชื่อในสิทธิเสรีภาพของคน เป็นสิทธิเสรีภาพที่ไม่ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพคนอื่น แล้วก็เชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกัน นี่คือแนวคิดของหนู แล้วใครจะเอาไปจำแนกเป็นซ้ายหรือขวา ก็เรื่องของคุณค่ะ
-มองขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างไร
สนับสนุนค่ะเพราะแม้ใครจะมองมันเลวร้ายอย่างไรแม้จะมันจะไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดแต่มันก็เป็นระบบที่เลวร้ายน้อยที่สุดหนูเรียนมาอย่างนั้นแล้วต่อให้หนูไม่ได้เรียนมาอย่างนั้นหนูก็เชื่ออย่างนั้นเพราะระบอบประชาธิปไตยทำให้คนที่มีทุนทางสังคมทุนทางเศรษฐกิจไม่เท่ากันสามารถมีโอกาสที่จะทำให้เท่ากันได้จึงเชื่อในประชาธิปไตย
-มองขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย มีจุดแข็ง จุดอ่อนอย่างไร
ตัวหนูเอง ไม่อยากจะวิจารณ์คนอื่นๆ เพราะตัวหนูก็ไม่ได้ดีนะคะ หนูคิดว่าจุดอ่อนจริงๆ ของขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในเมืองไทยเลยเนี่ย คือการที่ต่างฝ่ายต่างอยากเด่นอยากดังมากกว่ากัน พอกลุ่มหนึ่งดีกว่า อีกกลุ่มหนึ่งก็จะรู้สึกว่า หมั่นไส้ มันไม่เป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่มันก็แล้วแต่คน
-จะทำงานในสายวิชาที่เรียนจบมาหรือเปล่า
ก็จบรัฐศาสตร์มามันก็ทำอะไรได้ทุกอย่างเพราะว่ามันเป็นเป็ดมันรู้ไปหมดแต่ถามว่ารู้อะไรดีที่สุดไหมก็ไม่รู้นะคะก็อยากเป็นนักเขียนมากกว่าเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านการเขียนแล้วก็การแสดงออกของตัวเองใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาเป็นฐานคิดในการเคลื่อนไหว
-ชอบจินตนาการว่าตัวเอง เป็นโสเภณี จริง หรือเปล่า
จริงค่ะ เพราะอย่างตอนสอบเข้าคณะรัฐศาสตร์ พอสอบติดแล้วอาจารย์สัมภาษณ์ว่า ทำไมอยากเข้าคณะนี้ ก็บอกว่า อยากเป็นโสเภณีข้ามชาติ เรียน IR จะได้รู้ช่องทางว่าจะไปขายตัวประทศต่างๆ ได้ยังไง อาจารย์ก็หัวเราะ บอกว่าขอให้มีความสุขความเจริญ แต่ทุกวันนี้ไปเดินขายก็ยังไม่มีใครซื้อคะ
-นำเสนอความเซ็กซี่ คิดว่าจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดคดีความรุนแรงทางเพศไหม
ถ้าหนูเรียกว่าเซ็กซี่บนโลกคงไม่มีใครเซ็กซี่ ไม่มีใครที่มองหน้าหนูแล้วจะเกิดอารมณ์ทางเพศแน่นอนคะ
-คิดอย่างไรที่ หลายคนอ่านสเตตัสอาร์ตี้ แล้วนึกถึงการเสียดสีไสตล์ "เจ๊อ๋อย"
มีคนจะมาหาว่าหนูเป็น "เจ๊อ๋อย" ซึ่งมันไม่ใช่ หนูไม่ได้หมกมุ่นกับการเมืองขนาดนั้น เพียงแต่อะไรสะกิดติ่งมาก หนูก็คันมือแล้วเขียนลงไป เพียงแต่กลัวเสียภาพลักษณ์ ก็เขียนกำๆ กวมๆ ให้คนตีความ (หัวเราะ)
-ทำตัวตลกๆ คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนกดทับหรือลดทอนคุณค่าความเป็นกระเทยหรือเปล่า
ไม่คิดว่าลดทอนคุณค่ากระเทยค่ะแต่ทำลายStereotype ที่คนมองกระเทยว่าตลกอย่างเดียวแต่หนูพยายามทำให้เห็นว่ามนุษย์ที่ตลกแต่ไม่ใช่"ตัวตลก"สิ่งที่เพศปกติทำได้ กระเทย ตุ๊ด ก็ทำได้ สังคมมองตุ๊ดกระเทยด้อยกว่าแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ บางทีกระเทยตุ๊ดอาจจะโดนสังคมกดทับจนไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ควรจะเป็น
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ