จบ"เอก"ตปท.แต่รับเงินเดือนป.โท พนง.มหา"ลัยแฉอีก-หางานใหม่ทำก็ไม่ได้
นายวีรชัย พุทธวงศ์ ประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ในฐานะเลขานุการเครือข่ายพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา เปิดเผยว่า ขณะนี้บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศมีประมาณ 160,000 คน แต่มีข้าราชการเหลือในระบบเพียง 30,000 คน ซึ่งเครือข่ายพนักงานยังไม่มีแนวคิดหยุดงานประท้วง แต่จะเน้นให้ข้อมูลว่าระบบใหม่เป็นระบบที่ดี แต่ในระดับปฏิบัติการมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในหลายแห่งด้วยช่องว่างของข้อกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตัวแทนเครือข่ายพนักงานได้เข้าพบและยื่นหนังสือต่อนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถึงปัญหาและข้อเสนอของเครือข่ายพนักงาน ซึ่งนายพงศ์เทพได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาพนักงานมหาวิทยาลัย เพื่อสรุปเสนอรัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณา โดยมีข้อสรุปจากการปรึกษาหารือที่สำคัญคือ ฝ่ายการเมืองจะช่วยผลักดันตามข้อเสนอเยียวยา 3 ระยะคือ ในระยะต้นให้แก้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานทั่วประเทศให้ชัดเจนและเป็นธรรมขึ้น โดยจะพิจารณาหาแนวทางการจัดสรรงบประมาณให้มหาวิทยาลัยปรับฐานเงินเดือนพนักงานเก่าทั้งระบบรวมถึงเงินประจำตำแหน่งทางวิชาการให้ได้รับสองเท่าเหมือนระบบราชการเดิม โดยการจ้างพนักงานยังให้ยึดตามมติ ครม.ปี 2542 เดิมคือในอัตรา 1.5-1.7 ของฐานเงินเดือนราชการในปัจจุบัน ส่วนระยะกลางจะพิจารณาออกประกาศกฎ ก.พ.อ.เสนอเกณฑ์กลางในการบริหารงานบุคคลเกี่ยวกับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์เกื้อกูลต่างๆ และระยะยาว รัฐบาลจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ระเบียบการบริหารบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการยกร่างในขณะนี้
"ที่ประชุมได้พูดถึงปัญหาของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากปัญหาระบบพนักงาน ยังมีข้อจำกัดเรื่องสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ เช่น ไม่ได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยในพื้นที่สู้รบ ไม่ได้ทวีคูณเหมือนข้าราชการ และอยากให้ช่วยดูแลเรื่องเหรียญราชการชายแดนสำหรับพนักงานใน 3 จังหวัด เพราะเหรียญราชการชายแดนจะพระราชทานแก่เฉพาะข้าราชการซึ่งปฏิบัติหน้าที่ราชการ ณ อำเภอชายแดน เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน" นายวีรชัยกล่าว
นายวีรชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ปัญหาต่างๆ ในระบบพนักงานเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ จากสมาชิกในเครือข่าย ล่าสุด มีผลกระทบต่อนักเรียนทุนต่างประเทศอย่างหนัก เช่น น.ส.นภาพร สาระสิทธิ์ นักเรียนทุนระดับปริญญาเอกจากประเทศเยอรมนี เมื่อกลับมาทำงานในสถาบันอุดมศึกษาที่สังกัดแล้ว กลับไม่ได้ปรับวุฒิเงินเดือนเป็นระดับปริญญาเอก โดยต้นสังกัดอ้างว่าไม่มีระเบียบรองรับ จึงจำเป็นต้องทำงานในฐานเงินเดือนเดิมในวุฒิปริญญาโท เมื่อสอบถามต้นสังกัดกลับได้รับคำตอบว่าให้ลาออก และสมัครบรรจุใหม่ในวุฒิปริญญาเอกเพื่อจะได้ปรับเงินเดือน แต่ไม่ชัดเจนว่าเมื่อลาออกแล้ว มหาวิทยาลัยจะรับเข้าทำงานหรือไม่ อีกทั้งไม่สามารถย้ายไปทำงานที่มหาวิทยาลัยอื่นที่ให้เงินเดือนสูงกว่าได้ เพราะติดเรื่องทุนลาศึกษาต่อ ที่ต้องทำงานใช้ต้นสังกัดเดิม
