อยู่บนรถทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง?

     ตามปกติแล้วคุณทำกิจกรรมอะไรในรถบ้าง?

 

     ชีวิตคน กทม.ทุกวันนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนท้องถนน บางคนอาจจะเป็นคนขับเอง บางคนอาจมีคนขับ ขณะที่บางคนอาจจะมีแฟนขับ! ก็ว่ากันไปนะครับ แต่เชื่อแน่ว่าทุกคนต้องเคยทำกิจกรรมบนรถกันมาอย่างแน่นอน ส่วนจะทำอะไรนั้นก็แล้วแต่ความสะดวก หรือความต้องการของแต่ละท่านเลยครับ

     สมัยก่อนสิ่งที่ผมทำเป็นประจำคือการกินข้าวบนรถ คุณแม่จะทำกับข้าวใส่ชามพร้อมช้อน 1 คัน ให้ตักกินบนรถ จังหวะวันไหนรถติดหน่อยก็จะกินหมดก่อนถึงที่ทำงาน ส่วนวันไหนถ้าจังหวะไม่ดี รถไม่ติด! ก็จะตักกินไม่ทันครับ ต้องรอไปกินเมื่อถึงที่หมายแล้ว ส่วนปัจจุบัน สิ่งที่ทำเป็นประจำทุกเช้าคือการดื่มกาแฟบนรถ

     การดื่มกาแฟบนรถ สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องดื่มในจังหวะรถติดแบบจอดสนิทเท่านั้นนะครับถึงจะปลอดภัยที่สุด เพราะกาแฟร้อน ๆ สุ่มเสียงที่จะกระฉอกใส่หน้าใส่ตาของคุณได้ ยามเมื่อรถเคลื่อนที่ ผมเคยพลาดมาแล้วในจังหวะที่รถทำความเร็วคงที่ คิดว่าไม่ว่ามีปัญหาอะไร ที่ไหนได้มีเหตุให้ต้องแตะเบรก ใช่แล้วครับกาแฟร้อนกระเด็นเข้าหน้าผม (ฮา ๆ)

     บางคนโดยเฉพาะสุภาพสตรีเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถ บางคนต้องพกอุปกรณ์สำหรับถ่ายเบาบนรถ หรือบางคนใช้รถงีบหรือนอนหลับเพื่อพักเอาแรง ซึ่งการนอนนี่ก็สามารถแบ่งได้อีกนะครับว่าคุณจะนอนแบบไหน หากเป็นรถซีดาน 4 ประตูทั่วไป ก็อาจเป็นแค่การเอนเบาะหน้า เพราะการพับเบาะหลังเพื่อให้นอนราบยาว ๆ ทำได้ค่อนข้างทำได้ยาก

     จริงอยู่ที่รถซีดานทุกรุ่นในยุคนี้สามารถพับเบาะหลังได้ แต่จุดประสงค์ก็เพื่อขนของที่มีขนาดยาวมาจากที่เก็บของด้านหลังได้นั่นเอง ฉะนั้น รถที่สามารถพับเบาะหลังแล้วนอนยาวได้เลยส่วนใหญ่จึงเป็นรถประเภท 5 ประตู แฮทช์แบ็ก รวมถึงรถประเภท SUV และ PPV รวมถึงรถแบบ 7 ที่นั่ง ที่สามารถแปลงรถยนต์เป็นห้องนอนได้

     ยิ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่กระแสแคมปิ้งในบ้านเราได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมา มีการทำอุปกรณ์เสริมเป็นมุ้งท้ายรถยนต์ ครอบท้ายรถ 5 ประตูแต่ละประเภทที่ผมเอ่ยมาสามารถได้อย่างลงตัว เท่ากับว่าจะขับรถไปท่องเที่ยว ขึ้นเขา ลงห้วย หรือเที่ยวสันเขื่อน! ก็สบายมากครับ จอดรถครอบมุ้งนอนสบายชนิดที่ไม่ต้องเปิดแอร์

     เว้นแต่ว่ากิจกรรมนั้นจะเป็นแบบเข้าจังหวะและมีเสียงดังรบกวนชาวบ้านเหมือนกับเคสอดีตพระกับสีกาคนหนึ่ง ที่เป็นข่าวดังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ต้องมีรายละเอียดมากหน่อยครับ เพราะถ้าเป็นไปตาม requirement ของอดีตพระที่มีภาพแชตหลุดออกมา คือ ต้องพับเบาะได้ ปิดไฟหน้าได้ และต้องสตาร์ทเครื่องเพื่อเปิดแอร์ทิ้งไว้ได้

     งานนี้ทำเอาผมอยากรู้เลยครับว่า รถที่ใช้ทำกิจกรรมเป็นรถอะไร เพราะรถยนต์บางรุ่น เมื่อสตาร์ทเครื่องแล้ว คนขับจะไม่สามารถปิดไฟ DRL หรือ Daytime Running Light ได้เอง เพราะถูกติดตั้งและเซ็ตค่ามาจากโรงงาน แต่ก็มีรถบางรุ่นเหมือนกันครับ ที่เราสามารถปิดสวิตช์ไฟออโต้ เพื่อปิดการทำงานของ DRL ได้

     ส่วนการเปิดแอร์ รถสมัยก่อนเครื่องยนต์ต้องถูกสตาร์ทก่อน คอมฯ แอร์ถึงจะทำงาน แต่ยุคนี้รถตระกูลไฮบริดมีคอมฯ แอร์แบบไฟฟ้า ที่พอจะเปิดแอร์ให้เย็นขณะดับเครื่องได้ แต่ก็อาจอยู่ได้ไม่ยาว 2-3 ชั่วโมงตามที่เป็นข่าว ฉะนั้น ผมเลยเดาเองว่า รถคันนี้ไม่น่าจะเป็นรถระบบไฮบริด แต่ที่แน่นอนเลยช่วงล่างต้องดีแน่ ๆ

     และหากจะมีการตั้งฉายารถเหมือนในยุคก่อนที่มีทั้ง โดเรมอน เตารีด โลงจำปา หรือกะเทย รถรุ่นนี้ควรจะได้รับไปเลยครับกับฉายา รถ พระ ทำ! แหม่ ซึ้งในรถพระทำเลยไหมล่ะครับ (ฮา ๆ)