สธ.ยกระดับแจ้งเตือน "โอมิครอน" เป็นระดับ 3 ชะลอไปต่างประเทศหากไม่จำเป็น

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยยอมรับว่า หลังเทศกาลปีใหม่ 2565 จะเกิดการแพร่ระบาดอีกรอบเนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา จึงเน้นย้ำเรื่องมาตรการและการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรการ WFH ขณะที่การฉีดวัคซีน ไทยฉีดไปแล้วกว่า 102 ล้านโดส เป็นเข็มแรก 70% และเข็มสอง 60%

นพ.โอภาส กล่าวว่า จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศแจ้งเตือน ระดับ 3 จาก 5 ระดับนั้น ได้เน้นย้ำและขอความร่วมมือประชาชนตามมาตรการ VUCA ป้องกันโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ สวมหน้ากากอนามัยแบบ 100% ขณะอยู่กับผู้อื่น และรีบไปฉีดวัคซีนทั้งเข็ม 1, 2 และเข็ม 3 เพื่อลดอาการป่วยหนัก รวมถึงชะลอการเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก โดยเฉพาะสถานที่ระบบปิด อากาศไม่ถ่ายเท รวมถึงเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง ขณะผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะห้องอาหารปรับอากาศ ฉีดวัคซีนและตรวจหาเชื้อพนักงาน และคัดกรองลูกค้า

ด้าน นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวย้ำว่า จากการติดตามรายงานการระบาดของโอมิครอน ยืนยันรุนแรงน้อยกว่าเดลตาแน่นอน เบื้องต้นมีการเตรียมพร้อมเตียงรองรับผู้ป่วยทั่วประเทศกรณีการระบาดใหม่ 110,000 เตียง เป็นเตียงที่มีท่อช่วยหายใจใน กทม.และปริมณฑล กว่า 8 พันเตียงต่อวัน มั่นใจไม่มีปัญหา พร้อมเตรียมเตียงและยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผู้ป่วยเด็กไว้ด้วย

สำหรับการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบถามความเห็นของผู้ปกครองและเตรียมวัคซีน ส่วนสถานที่จะใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพราะสามารถฉีดวัคซีนได้รวดเร็ว ส่วนเด็กบางคนที่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ก็ให้ไปรับวัคซีนที่โรงพยาบาล คาดว่าหลังเทศกาลปีใหม่จะสามารถดำเนินการได้