"ขวัญ อุษามณี" เปลือยชีวิต 27 ปีในวงการบันเทิง สุดช้ำถูกอดีตพนักงานโกงหลักล้าน!

"ขวัญ อุษามณี" เปลือยชีวิต 27 ปีในวงการบันเทิง สุดช้ำถูกอดีตพนักงานโกงหลักล้าน!

"ขวัญ อุษามณี" เปลือยชีวิต 27 ปีในวงการบันเทิง สุดช้ำถูกอดีตพนักงานโกงหลักล้าน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางเอกสาว ขวัญ อุษามณี เจ้าของ ฉายาบาร์บี้เมืองไทย วันนี้จะมาเผยชีวิตในวงการบันเทิงกว่า 27 ปี จากอดีตดาราเด็ก สู่นางเอกแถวหน้าของเมืองไทย พร้อมเผยโดนอดีตพนักงานโกงเงินไปหลักล้าน จนต้องยืมเงินคุณแม่มาหมุนกว่า 3 ล้านบาท โดยทั้งหมดนี้เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี หนิง ปณิตา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกร



ล่าสุดฉายาใหม่ ขวัญบ้านเบี้ยว ?

ขวัญ : "คำถามอันนี้เป็นคำถามที่ตอบง่าย เพราะมันเป็นคำถามที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อบุคคลอื่น ขวัญก็เลือกคำตอบที่ฟังแล้วเข้าใจง่าย เคลียร์ทุกประเด็นจะได้ไม่ต้องดราม่ากันด้วย"

รู้สึกยังไงกับฉายานี้?

ขวัญ : "ไม่ได้รู้สึกอะไรนะคะ เราอยู่วงการมานาน มันจะมีทั้งสองอย่าง วันนี้ชอบบ้าง พรุ่งนี้ไม่ชอบบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นคงและเป็นหลักอยู่ก็คือเราตอบในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว"

ลงรูปไปหนึ่งรูปผ่านกี่แอพ?

ขวัญ : "ก็เยอะนะ มี vsco, lightroom, beautyplus แต่ Meitu ไม่มี เมื่อวานพี่เขาโทรมาสัมภาษณ์ เขาบอกว่าขวัญต้องใช้ Meitu นะมันจะได้ไม่โป๊ะ เราก็ลองเรียนรู้อีกด้าน ไปโหลดดู งงมากตัวอักษรอะไรก็ไม่รู้ คือถ้าภาษาอังกฤษเราเข้าใจ แต่ภาษาจีนเราต้องจำสัญลักษณ์เขา มันยากไป ลบไปก่อนแล้วกัน เอาแค่นี้ก่อน"

อย่างตอนลงรูปขวัญเห็นว่ามันเบี้ยวไหม?

ขวัญ : "เห็นค่ะ วันนั้นเป็นช่วงที่ขวัญไปเรียนคอร์สเกี่ยวกับเรื่องหุ้น แล้วทีนี้เราก็แต่งให้พี่ๆ ทุกคนสวย โดยการที่บีบหน้าทุกคนให้เล็กลงมา เราไม่ได้ทำให้หน้าเราเล็กคนเดียว เราทำให้ทุกคน เราก็ลงรูป ก็ไม่เป็นไร หน้าทุกคนสวย หน้าเราสวย ถ้าหลังจะเบี้ยวก็ไม่เป็นไรช่างมัน"

หลังจากนี้พอมีคนมาตั้งฉายาให้เรา เราจะคิดก่อนลงไหม?

ขวัญ : "เชื่อขวัญว่าทุกภาพขวัญคิดมาแล้ว บางอย่างคอมเมนต์อะไรเรามันก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่ทำให้เรายิ้ม อันไหนที่ทำให้เราไม่ยิ้ม เราก็แค่มองข้ามไป หรือว่าคนที่ที่ชอบไดเร็กต์มาหาดารา ทะลึ่ง ลามก หรือพูดจาเลอะเทอะ เพ้อเจ้อไปเราก็แค่สไลค์นิดนึงแล้วกดลบ"

ขวัญรู้ตัวไหมว่าขวัญเปลี่ยนไปเยอะมากเลย?

ขวัญ : "ขวัญได้ประสบการณ์มาจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ด้วยความที่เราเป็นเด็กชอบอยู่กับผู้ใหญ่ เราก็ได้เรียนรู้ถึงการปกครองคน การใช้ชีวิต การมองโลก บางทีเราทำงานเหนื่อย แต่เราเห็นบางท่านเหนื่อยกว่าเราอีก ปัญหาแบบโลกจะแตก แต่ทำไมเขาทำงานได้ เราก็พยายามเรียนรู้ ความคิดคือสิ่งที่มีคุณค่า มีประโยชน์ที่สุดในการใช้ชีวิต"

ขวัญอยู่ในวงการบันเทิงมาทั้งหมดกี่ปี?

ขวัญ : "30 ค่ะ เล่นละครเรื่องแรก พ่อจ๋า แม่จ๋า ลูกรัก"

สมัยก่อนเวลางอแง คุณแม่แอ๊วมีวิธีในการชักจูงเรายังไงให้เราทำงานได้อย่างปกติ?

ขวัญ : "คุณแม่กับคุณพ่อ เขาเหมาะสมแล้วที่เป็นคู่กัน เพราะเขามีวิธีเดียวกัน เขาให้เรามองงานที่หนักกว่าเรา หันไปมองคนที่ทำงานเหนื่อยกว่าเรา อย่างเราเป็นนักแสดง เราไปกอง เราว่าเช้าแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ก็จะบอกว่า เนี่ยเขาเก่งเนอะเขามากองเช้ากว่าเราอีก ขนของก็ตั้งหนัก มันก็เหมือนเป็นการซึมซับไปในตัว"

แม่มีวิธีที่ทำให้จมูกโด่งได้ แล้วคางยาวได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม?

ขวัญ : "มาจากคุณยาย คุณยายบอกคุณแม่ว่าให้เอานิ้วดันตรงเพดานปากขึ้นมา ส่วนคางนี่ทะเลาะกับคุณแม่จะเป็นจะตายเลย คุณแม่มาสาย ฝ.เหมือนกัน ฝรั่งเมื่อก่อนเขามีบุ๋มตรงนี้ หนูไม่มี แม่ก็เลยเอามือจับจีบ  ไม่พอเทปกาวลากยาวแปะ"

แม่แอ๊ว : "มันได้ผล เพราะเนื้อเขาอ่อน มันจะเป็นเนื้อตายไป แต่พอเอาเทปกาวออกมันก็จะเนียนไป"

ทุกวันนี้ยอมรับไหมว่าได้สวยอย่างที่คุณแม่ปั้นมา?

ขวัญ : "ใช่ค่ะ ก็ได้มาจากแม่เลย กลับมาคุณแม่ก็จะมาแล้ว ขมิ้น มะขาม มะนาว โยเกิร์ตบ้าง นมบ้าง อะไรอย่างนี้"

แล้วมีทะเลาะกับคุณแม่บ้างไหม?

ขวัญ : "ปกติเลย ทะเลาะกันบ่อย มันมาจากการที่เราเป็นเด็กอยากโต กำลังมีไฟ อยากใช่ชีวิต"

ส่วนใหญ่เรื่องที่ทะเลาะกัน ยอมกันไม่ได้ คือเรื่องอะไร?

ขวัญ : "ทุกเรื่องค่ะ เพราะว่าหนูกับแม่เหมือนกัน อย่างเวลาเราโกรธกัน ง้อกัน เราก็จะไปเนียนๆ ก็ต่างคนต่างง้อ ส่วนใหญ่คุณแม่จะง้อด้วยการทำข้าวคลุกปลาทูมาให้ ถ้าเราง้อก็แบบแม่ๆ กินอะไร อยู่ร้านนี้เดี๋ยวซื้ออันนี้ไปให้ ที่บ้านส่วนใหญ่จะเน้นกิน จะง้อกันด้วยของกินมากกว่า"

อย่างที่รู้ว่าแม่กับขวัญสนิทกันมาก แต่บางครั้งก็มีข่าวออกไปว่าทะเลาะกัน แม่รู้สึกยังไงบ้าง?

แม่แอ๊ว : "ไม่รู้สึกอะไรเลย ครอบครัวมันก็เป็นแบบนี้ มีความไม่เข้าใจกันบ้าง ขัดใจกันบ้าง เดี๋ยวก็ดีกัน"

ขวัญ : "แม่คือคนที่เลี้ยงเราเป็นลูก แม่ไม่ใช่ผู้จัดการ แม่ไม่ใช่คนอื่นที่กลัวว่าเราไม่พอใจ คือแม่จะทะเลาะให้เป็นให้ตายยังไง มันก็คือสายเลือด ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด เพราะฉะนั้นเขามีสิทธิ์ที่จะห้ามหรือดึง หรือฉุดลูกเมื่อรู้ว่าลูกจะไปผิดวิธี หรือผิดที่ผิดทาง มันก็เป็นวิธีการที่แม่เขาจะดึง วิธีไหนก็ได้"

ซึ่งวันนี้เองขวัญเข้าใจทั้งหมดเลย?

ขวัญ : "ตอนนี้เหมือนมีลูกเลย เข้าใจด้วย จากประสบการณ์ด้วย แล้วก็จากการที่เราไปเรียนหลายๆ คอร์ส แล้วกลุ่มเพื่อนเราจะโตขึ้น แล้วเราเริ่มเข้าไปอยู่ในชีวิตของเพื่อนแต่ละคน เราเริ่มรู้ว่าบางอย่างที่เขาทำแบบนี้คืออะไร เขาคิดอะไรอยู่ แล้วเราเป็นเด็กมาก่อน แล้วเราก็เข้าใจที่ลูกเพื่อนเราทำ เพราะอะไร แล้วควรจัดการวิธีไหน เราอาจจะ 30 แต่เราผ่านมาหมดแล้ว"

แต่ก็มีอยู่ช่วงนึงที่ขวัญขอรับงานเอง ขอทำทุกอย่างด้วยตัวเอง?

ขวัญ : คือตอนนั้นไม่อยากได้วันละ 200 เรื่องของเรื่องประเด็นมันมีอยู่แค่นี้ คือตั้งแต่เราเกิดมา เราไปมหาวิทยาลัย แม่ก็จะให้แค่ 200 แล้วเราก็รู้สึกว่าอันนี้มันเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเรา เห้ย...ขวัญเราเปลี่ยนได้ เรียนจบปริญญาโทแล้วขอได้แหละ ก็บอกแม่ว่า หนูจะดูแลทุกอย่างที่บ้านเองหมดเลยค่าใช้จ่าย ค่านู่น ค่านี่ รับงานเอง แล้วมีเงินเดือนให้แม่ด้วย วางภาพสวยหรูเลย ตอนแรกมันก็เป็นอย่างนั้น สวยหรู ทำได้ ตรงตามที่เราคิด แต่พอตอนหลังโควิดมาเสร็จปุ๊บล้มเลย

แล้วตอนที่ไปบอกแม่ว่าแม่ไม่ต้องมาทำงานกับขวัญแล้วนะ ขวัญจะดูแลทุกอย่าง?

ขวัญ : "ไม่ๆ หนูไม่พูดแบบนั้น พูดแบบนั้นแม่จะช็อกหนูบอกว่าตอนนี้แม่เหนื่อยละนะ ใช้คำพูดที่พ่อพูดกับคุณย่า มาพูดกับคุณแม่ พ่อบอกว่าผมโตแล้ว เดี๋ยวผมดูแลแม่เอง เราก็จะใช้คำพูดแบบนี้ว่าให้แม่อยู่เฉยๆ นะ แม่เหนื่อยมาเยอะแล้ว เราซื้อบ้านแล้ว แม่ปลูกต้นไม้นะ หนูกลับมาแม่ทำอาหารอร่อยๆ นะ หนูอยากกินข้าวคลุกปลาทู ปลูกต้นไม้ตรงนี้ ดูแลหมา ดูแลแมว แม่เขาเห็นภาพสวยไง แม่บอกว่าได้ ดูแลตัวเองนะ มีอะไรก็บอกแม่ละกัน ก็อยู่บ้านหลังเดียวกันอยู่แล้วไม่ได้รู้สึกว่าจะห่างอะไรกันมากมาย แต่อย่างนึงที่ขวัญไม่อยากให้แม่ทำ คือเราไม่อยากให้แม่ไปกอง คือถ้าเรามาอย่างนี้คุณแม่สบายไง แต่ถ้าเราไปกองมันลำบาก"

ณ วันนั้นแม่เชื่อขวัญไหม?

แม่แอ๊ว : "ไม่ได้เชื่อหมด แต่ทำใจเอาไว้แล้วครึ่งนึง อีกครึ่งนึงก็เสียใจ อีกครึ่งนึงเขาก็แคร์ความรู้สึกเรา จะบอกให้เราสบายใจ เราก็ตามใจเขา คือใจรู้แล้วเขาเป็นเด็กรักดีเขาเป็นคนฉลาดก็ต้องปล่อยเขาไปพักนึง"

แต่มันก็มีเหตุการณ์นึงที่รู้สึกว่ายังไงก็ต้องมีแม่?

ขวัญ : "ก็เจอคนเยอะ พอเราเจอคนเยอะเสร็จเราเริ่มงงแล้วว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง พอทุกคนเข้ามาหาเราบอก 10 พอถึงเวลาได้ 80,60,70 คือมันไม่ได้ตรงตามที่พูด แล้วขวัญเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับเรื่องคนเยอะมาก ถ้าเราพูด เราเป็นเด็ก มันลำบากในการต่อรอง วัฒนธรรมไทย เด็กต้องให้ผู้ใหญ่อยู่แล้ว แต่ในเรื่องของการทำงานมันต้องมีมาตรฐานอยู่แล้ว เราก็เลยคิดว่าเราเอาแม่มาดีกว่า เพราะคนอื่นดูแลยังไงมันไม่ได้ดีเท่าแม่ เพราะแม่คือคนเดียวที่ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ที่เข้าข้างตัวเอง แต่เขาคิดให้เรา เพราะเราคือเลือดเขา ขวัญก็เลยวางแผนใหม่ แม่ตาแม่มองไม่ค่อยเห็นใช่ไหม พาแม่ไปทำตาพาแม่เข้ากองให้เขาเจอคนที่ไปทำผ่าเลนส์ตาว่าแบบมันไม่ได้อันตรายนะ จนแม่เขาเริ่มโอเค เขาก็ไปผ่าตา พอผาตาหาย แม่มองเห็นหรือยัง เพราะแม่เป็นเบาหวานด้วยไง แม่ก็จะบอกตาแม่มองไม่ค่อยเห็นเลย เบาหวานขึ้นตา แต่ประเด็นก็คือเราอยากให้แม่มาช่วยเราดูคิว บางทีเรื่องเอกสาร เรื่องธุรกิจ เรื่องตัวเงิน เราก็อยากให้แม่คอยดูให้เรา เพราะว่าเรากลับบ้านไปเหนื่อยๆ ขวัญจะมานั่งดูเอกสารแต่ละอันตามันลายไปหมดแล้ว เราเพลีย"

ไปบอกเขายังไงให้เขากลับมา?

ขวัญ : "ก็บอกว่าไปเป็นเพื่อนหน่อย เหนื่อย"

แม่แอ๊ว : "เรารู้สึกว่าเขายังต้องการเราไปเป็นเพื่อน เราก็ไปเลย ไม่รู้จะรออะไร รออยู่ตั้งนานแล้ว"

แม่อยากบอกอะไรกับน้องบ้าง?

แม่แอ๊ว : "ดูแลตัวเองดีๆ รักตัวเอง"

ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

ขวัญ : "ก็ดีค่ะ สวยงามเสมอ ทุกช่วงอายุเรา"

เปิดตัวไหม?

ขวัญ : "ไม่ค่ะ อันนี้รีเควสมาจากเพื่อน เพราะว่าอย่างเรามีปัญหาชีวิตอะไรอย่างนี้ คนแรกที่รับรู้ก่อนคือเพื่อน ชีวิตเพื่อนก็จะปั่นป่วนไปกับเราด้วย ก็เลยคุยกันว่าเอาแบบนี้ดีกว่า เพื่อที่วันว่านึงถ้าเกิดมันมีปัญหาอะไรกัน หรือประสบความสำเสร็จ เราได้มีตัวแปลที่มันน้อยลง ไม่ต้องคิดอะไรที่มันปวดหัว"

ที่บอกว่าโดนโกงจนต้องยืมเงินแม่แอ๊วมาหมุน มันคืออะไร?

ขวัญ : "เราคิดว่ามันเป็นเงินที่เราได้เรียนวิชาอีกวิชานึง จริงๆ มันไม่ได้เงินเยอะอะไร เมื่อเทียบกับการที่เราได้มาแล้วเปลี่ยนนิสัยชีวิตเรา เราก็รับรู้แล้ว แล้วคิดว่าข้อบกพร่องมันคืออะไร จะแก้ไขอะไรตรงไหน"

เขาโกงเรายังไง?

ขวัญ : "โกงจากการที่เราไว้ใจ คำพูดคนสำคัญ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เรากลัวผี แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเลยคือคน คนทำให้เราเชื่อใจ ไว้ใจ เอกสารปลอม เราเชื่อในสิ่งที่เราเห็นไง แต่สิ่งที่เราเห็นมันไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป"

ก็เลยต้องไปยืมเงินแม่แอ๊ว 3 ล้านเพื่อหมุนธุรกิจ?

ขวัญ : "ใช่ มันเหมือนเงินที่เราจะเอาไปใช้ มันไม่ได้ใช้เกี่ยวกับตัวเรา ขวัญเปิดบริษัทแม่บ้านทำความสะอาด เรามีแม่บ้าน 100 กว่าคน ในเมื่อเงินตรงนี้มันหายไป เข้าไปที่บุคคลคนเดียวแทนที่จะเป็นเงินของพนักงานคนอื่น ขวัญก็ต้องไปถอนเอาเงินจากของคุณแม่มาเพื่อมาใช้จ่ายให้พนักงานคนอื่นๆ ที่เราต้องดูแลเขา"

แม่ว่ายังไงบ้าง พอไปยืม 3 ล้าน?

ขวัญ : "แม่บอกว่าแม่ไม่มีตังค์ แล้วคือหนูจะบอกเลยว่าแต่ละช่วงชีวิตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเครือข่าย แชร์อะไรก็แล้วแต่ ใครมาชวนแม่ แม่ก็จะพูดแบบนี้ว่าแม่ไม่มีตังค์ มันคือเกราะกำแพงที่ดีมากนะ แต่ทำกับลูกไม่ได้ไงแต่จริงๆ แม่มี แม่ไม่เคยใช้ตังค์ แม่เป็นคนเก็บตังค์ไว้ให้ลูกหมด"

ติดตามรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook