WHO เตือน “หน้ากากอนามัย” อย่างเดียว ป้องกันการติดเชื้อ “COVID-19” ไม่ได้

แนวทางใหม่ขององค์การอนามัยโลก ที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 เมษายน ระบุว่า การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันมิให้ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงติดเชื้อได้

องค์การอนามัยโลกระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานที่รับรองว่าการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะจะสามารถป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ ซึ่งรวมถึง COVID-19 ได้ อย่างไรก็ตาม การสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ชุมชนจะช่วยป้องกันละอองจากทางเดินหายใจ ทำให้ชะลอการกระจายของไวรัสได้ ซึ่งหมายความว่า การสวมหน้ากากอนามัยไม่ได้การันตีว่าคุณจะไม่ติดเชื้อ ดังนั้น องค์การอนามัยโลกจึงย้ำว่า วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการหยุดยั้งการระบาดของ COVID-19 คือการล้างมือบ่อยๆ และใช้แนวทางเว้นระยะห่างทางร่างกาย

ศาสตราจารย์เดวิด เฮย์แมนน์ จากสถาบันอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อน ลอนดอน (London School of Hygiene and Tropical Medicine) ซึ่งเป็นประธานกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคเกี่ยวกับโรคติดเชื้อขององค์การอนามัยโลก กล่าวกับ The Guardian ว่า หน้ากากอนามัยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันผู้อื่นไม่ให้ติดเชื้อ แต่ไม่ได้ป้องกันตัวผู้สวมใส่ และแม้จะสวมหน้ากากอนามัย แต่ไวรัสก็สามารถติดต่อทางตาได้ ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์จึงควรสวมแว่นตาด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ”

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังแนะนำว่า ผู้ที่เริ่มมีอาการ COVID-19 ควรสวมหน้ากากอนามัย แยกตัว และขอคำปรึกษาจากแพทย์ เมื่อรู้สึกไม่สบาย ในขณะที่ผู้ดูแลก็ต้องสวมหน้ากากเช่นกัน

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่