หมอสุดยื้อ "ช้างป่าชลบุรี" ทนเจ็บไม่ไหว สิ้นใจหลังรถบรรทุกชน

ความคืบหน้ารถชนช้างป่าได้รับบาดเจ็บสาหัส ทีมสัตวแพทย์ เร่งให้การช่วยเหลือ ล่าสุดทนพิษบาดแผลไม่ไหว-ล้มลงแล้ว

จากกรณีที่มีอุบัติเหตุบรรทุก เทรลเลอร์ 18 ล้อ เฉี่ยวชนช้างกับช้างป่า ขณะกำลังเดินข้ามถนนทางหลวงสาย 344 (ขาเข้าชลบุรี) สายหนองปรือ – คลองเขต ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 56 หมู่ 2 ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ทำให้นายสมพงษ์ บุญช่วย อายุ 54 ปี คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกขาแตก ถูกนำรักษาที่ รพ.หนองใหญ่ และส่งต่อรักษา ที่โรงพยาบาลระยอง

ส่วนช้างบาดเจ็บเป็นป่าเพศผู้ น้ำหนักประมาณ 3 ตัน อายุประมาณ 7 ปี อยู่ในอาการขั้นวิกฤต ขาหลังจนถึงกระดูกหลัง ได้รับบาดเจ็บคาดว่ากระดูกแตก ซึ่งทางทีมสัตวแพทย์ต้องมีการนำรถน้ำมาฉีด เพื่อคลายร้อนและไม่ให้ช้างเกิดอาการเครียด ก่อนจะมีการฉีดยาแก้ปวดและยิงยาซึม เป็นระยะๆ

โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.00 น.ของวันที่ 15 สิงหาคม จนถึงช่วงเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถใช้รถเครน ยกช้างป่าตัวดังกล่าวขึ้นรถบรรทุกสิบล้อ ได้อย่างสำเร็จ และได้เดินทางเพื่อนำไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก น.ส.นฐนนท์ ปานเพชร นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ประจำส่วนอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่เขต 2 ศรีราชา ที่เดินทางร่วมดูอาการของช้างอย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดเผยว่า ว่าช้างได้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและได้ตายลงแล้ว ในขณะกำลังนำส่งรักษา โดยมีการหยุดขบวนรถริมข้างทาง ช่วงบริเวณถนนสาย 344 ชลบุรี-บ้านบึง หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง

โดยทีมแพทย์ได้ช่วยกันทำการปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่มีอาการตอบสนอง ซึ่งหลังจากนั้นจึงได้ทำการนำส่งซากช้าง ไปทำการฝังกลบเพื่อเก็บรักษาซากช้างไว้ ที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์พื้นที่เขาใหญ่ บ้านเขาใหญ่ บ่อทอง (คลองกุ่ม) ม 4 ต.พลวงทอง อ .บ่อทอง จ ชลบุรี

สำหรับบรรยากาศที่บริเวณหลุมฝังซากช้างทางเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 1 รูป มาทำการสวดบังสุกุลเพื่อแผ่ส่วนบุญกุศลให้กับช้าง และทำพิธีขอขมา ด้วยความเชื่อว่าช้างนั้นเป็นสัตว์ใหญ่เป็นช้างคู่บ้านคู่เมืองของคนไทย

ทั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการผ่าชันสูตร พบว่ามีเลือดคั่งจำนวนมากบริเวณก้นและสันหลัง กระดูกสันหลังผิดปกติ (โค้งงอผิดรูป เกิดการฉีกของกล้ามเนื้อระหว่างกระดูกสันหลัง)​ สภาวะผิดปกติแบบนี้เกิดจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรง เมื่อทำการชันสูตรแล้วเสร็จ คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการฝังกลบตามหลักวิชาการ ณ หน่วยพิทักษ์ป่าเขาใหญ่ ขสป.เขาอ่างฤๅไน ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี