ให้คะแนน "ลุงตู่" ปราบโกงเต็ม 100 - เผยสถานการณ์คอร์รัปชันรอบ 7 ปีดีขึ้น

ให้คะแนน "ลุงตู่" ปราบโกงเต็ม 100 - เผยสถานการณ์คอร์รัปชันรอบ 7 ปีดีขึ้น

ให้คะแนน "ลุงตู่" ปราบโกงเต็ม 100 - เผยสถานการณ์คอร์รัปชันรอบ 7 ปีดีขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เผยผลการดำเนินงาน 7 ปี สถานการณ์คอร์รัปชันไทยยังคงมีความรุนแรง แต่มีสัญญาณดีขึ้น ชี้จุดอ่อนขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง พร้อมเดินหน้าสร้าง ”คนไทย ตื่นรู้สู้โกง” ขยายเครือข่ายความร่วมมือผนึกกำลังขจัดคอร์รัปชันหมดจากประเทศ

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT แถลงข่าวเนื่องในโอกาส “7 ปี องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)”  โดยกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมาองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้ทำหน้าที่ปลุกกระแส ขับเคลื่อนให้ประชาชนคนไทยร่วมเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านคอร์รัปชันที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน

จากการสำรวจของหอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในการแถลงดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยล่าสุด พบว่า ทัศนคติและจิตสำนึกต่อการทุจริตคอร์รัปชันของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป ทั้งยังทนไม่ได้เมื่อพบเห็นการโกงและไม่ยอมรับคอร์รัปชันโดยสิ้นเชิง โดยร้อยละ 99 เห็นว่าคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ยอมรับรัฐบาลที่เก่ง มีผลงานดีเด่น แต่ทุจริต

ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ กล่าวด้วยว่า ในช่วงรัฐบาลชุดเก่า การขับเคลื่อนเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันทำได้น้อยมาก เพราะได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลน้อย จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่จำเป็นได้ ส่วนในรัฐบาลปัจัจุบันได้รับความร่วมมือ เนื่องจากภาครัฐเห็นความสำคัญขององค์กร ที่จะช่วยขับเคลื่อนการต่อต้านการทุจริต โดย ACT พยายามวางตัวเป็นกลาง และจะเห็นว่าขณะนี้กระบวนการที่ทำมาสามารถทำให้การทุจริตคอร์รัปชันลดลงในระดับหนึ่ง สำหรับสถานการณ์การเรียกรับเงินใต้โต๊ะจากอดีตที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มลดลงมาก แต่หากเปรียบเทียบกับเมื่อหลายปีที่ผ่านมาจากผลการสำรวจ ยืนยันว่าการทุจริตคอร์รัปชันลดลง แต่ก็ยังไม่พอเพียง

ส่วนการให้คะแนนความจริงใจของรัฐบาลนี้ในการร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน นายประมนต์ กล่าวว่า “ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 100%”

สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมาขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ใช้ยุทธศาสตร์ 3 ป. คือ เปิดโปง ป้องกัน และปลูกฝัง โดยการทำงานในช่วงแรกระหว่างปี พ.ศ. 2554 – 2557 ได้ปลุกกระแสผ่านโครงการต่างๆ อาทิ คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การจัดอบรมหมาเฝ้าบ้าน และการจัดทำหลักสูตร โตไปไม่โกง เป็นต้น

ด้านนายวิเชียร พงศธร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปี 2561 องค์กรและภาคีเครือข่าย จะยังคงเดินหน้าติดตามหลายประเด็นคอร์รัปชันที่ยังไม่บรรลุผล อาทิ การผลักดันเรื่องการปฏิรูปราชการ ตำรวจ และกฎหมายที่ล้าสมัย การติดตามโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่สำคัญๆ และการพัฒนาการดำเนินงานต่อต้านคอร์รัปชันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้ Big Data & Analytics มาใช้ในการตรวจสอบที่เข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาระบบนิเวศสร้างค่านิยมต่อต้านคอร์รัปชันในเด็ก สื่อ ภาคธุรกิจ และประชาสังคมต่อไป

พร้อมทั้งสานต่อการจัดกิจกรรมรณรงค์วันต่อต้านคอร์รัปชันของปี 2561 ซึ่งมีการจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้มีกำหนดจัดงานในวันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายนนี้ ณ ภิรัช ฮอลล์ อาคารไบเทคเฟส 2 ไบเทค บางนา ภายใต้ธีมงาน “คนไทย ตื่นรู้สู้โกง” เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนของสังคมเกิดความตื่นตัว และลุกขึ้นมาร่วมใจกันต่อต้านคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook