ชูวิทย์ เผย ตัวอย่างคุกสรยุทธ มีแค่ห้องหมายเลข 13 ที่เรียบร้อย
จากกรณีที่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน ในคดีร่วมกันยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการคุยคุ้ยข่าว จำนวนกว่า 138 ล้านบาท ต่อมา นายสรยุทธยื่น 4 ล้านบาทขอประกัน แต่ศาลฎีกาไม่ให้ประกัน ทำให้นายสรยุทธถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที
ล่าสุด (3 ก.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.พรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm Back โดยระบุว่า "นโยบาย “ผ้าห่ม 3 ผืน” ของกรมราชทัณฑ์ ถูกนำมาใช้ในช่วงอดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา ให้เรือนจำทุกที่ปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน สร้างความเสมอภาคกับนักโทษไม่ว่าขาใหญ่ขาเล็ก ยากดีมีจน สะดวกในการตรวจค้นสิ่งต้องห้ามที่อาจซุกซ่อนไว้ในเรือนนอน
หมู่นี้คนดังพาเหรดกันเข้าคุกเป็นว่าเล่น ตั้งแต่อดีตรัฐมนตรี ส.ส. อธิบดี นายพล ไปยันพิธีกรอย่างสรยุทธ จะต้องปฏิบัติเหมือนกันไม่มีข้อยกเว้น
“ผ้าห่ม 3 ผืน” ผืนหนึ่งเอาไว้ปูนอน ผืนหนึ่งม้วนทำหมอน อีกผืนเอาไว้ห่ม ตั้งแต่หลังบ่าย 3 โมง ไปจนถึง 6 โมงเช้า รวม 15 ชั่วโมงที่ปิดขังในเรือนนอน
แดน 1 (แดนแรกรับ) ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยังคงเป็นแดนยอดนิยมของนักโทษ ส่วนแดน 8 เขาเรียกว่า “แดนใน” ไม่มีใครอยากไปอยู่เพราะเป็นแดนรวมดาวโจร สักลายพร้อยไปยันหน้า
ไม่ใช่เฉพาะนักโทษเท่านั้น บรรดาผู้คุมก็แย่งกันไปอยู่แดน 1 เพราะเปรียบเสมือนแดน “ทำเลทอง” เช่นเดียวกับโรงพักเกรดเอของนครบาลอย่าง สน.ห้วยขวาง สน.บางรัก ส่วนแดน 8 เหมือนโรงพักชานเมืองอย่าง สน.ประชาสำราญ หรือ สน.ลำผักชี
การสร้างความเสมอภาคจึงเป็นเรื่องยากในเรือนจำ เมื่อจะให้นักโทษปฏิบัติแต่ผู้คุมยังตาเล็กตาใหญ่ หากไม่มีผลประโยชน์กับนักโทษจะแย่งกันไปแดน 1 ทำไม?
ความเสมอภาคจึงไม่ควรเป็นเฉพาะนโยบายใช้กับนักโทษ แต่ควรใช้กับบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้คุมนักโทษด้วย มันจะได้เรียกว่าเสมอภาคจริงๆ
สังคมคุกก็เหมือนกับสังคมไทย ปากว่าตาขยิบ ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง
เห็นโพสต์ภาพเรือนนอนสวยๆอย่าง “ห้องหมายเลข 13” ลองไปดูห้องอื่นๆสิครับ แล้วจะหนาว มันเรียบร้อยแบบนี้หรือเปล่า?"