พาณิชย์-เกษตรฯ เคาะแผนรับมือปุ๋ยและอาหารสัตว์แพง

พาณิชย์-เกษตรฯ เคาะแผนรับมือปุ๋ยและอาหารสัตว์แพง

พาณิชย์-เกษตรฯ เคาะแผนรับมือปุ๋ยและอาหารสัตว์แพง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ หารือร่วมกับ นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ราคาสินค้าอาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี และผลไม้ ว่า สถานการณ์ของราคาปุ๋ยที่มีการปรับตัวสูงขึ้นนั้น กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ได้พิจารณาในเรื่องต้นทุนที่เหมาะสม หากมีการปรับราคาปุ๋ยสูงขึ้น ก็จะหาช่องทางให้เกษตรกรเข้าถึงปุ๋ยในราคาถูกได้ โดยกระทรวงเกษตรฯ จะจัดทำโครงการลดราคาปุ๋ยเคมี โดยมอบหมายกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลัก นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้ได้ 5 ล้านตัน จากปัจจุบันที่มีการผลิตประมาณ 3.2 ล้านตัน เพื่อเป็นมาตรการเสริมใช่ช่วงปุ๋ยแพงต่อไป

สำหรับในเรื่องการส่งออกผลไม้ของไทยนั้น ในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวที่คาดว่าจะมีผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งสองกระทรวง ได้ร่วมหารือถึงตลาดส่งออก โดยตลาดส่งออกสำคัญคือจีน ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานของจีนอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันจีนยังคงยึดมาตรการ Zero Covid ทำให้จีนมีมาตรการควบคุมทั้งคนและการขนส่งสินค้าอย่างเข้มงวด โดยเป็นมาตรการทั้งระดับส่วนกลางและระดับท้องถิ่นแตกต่างกันไปตามความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่ สำหรับสินค้าที่ขนส่งผ่านห่วงโซ่ความเย็น เช่น ผลไม้ จะต้องถูกตรวจ 3 อย่าง และต้องได้รับใบรับรอง ได้แก่ ใบรับรองผ่านตรวจสอบกักกัน ใบรับรองผลตรวจโควิด และใบรับรองการผ่านการฆ่าเชื้อ อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผลไม้ของไทยสามารถส่งออกไปจีนได้

และวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ (ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง) ที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ และสมาคมต่าง ๆ กระทรวงพาณิชย์จึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ เพื่อเสนอความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว โดยให้มีการชะลอมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ อัตราส่วน 1 ต่อ 3 ของกระทรวงพาณิชย์ ไว้ชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 นี้ รวมถึงต้องกำหนดปริมาณที่จะนำเข้า เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ

โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีการตั้งคณะทำงานชุดเล็กเพื่อหารือประเด็นดังกล่าว ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายกรมปศุสัตว์และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเข้าร่วมด้วย เพื่อให้ข้อมูลตัวเลขสำหรับใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook