"เซ็นทรัลรีเทลฯ"ดอดซื้อห้างหรูเดนมาร์ก"อิลลุม"
เซ็นทรัล รีเทลฯรุกยุโรปอีกระลอก สยายปีกถึงสแกนดิเนเวีย ดอดซื้อห้างดังเดนมาร์ก "อิลลุม" ต่อยอดกลยุทธ์ "Collection of Stores" ตลาดแห่งโอกาสที่รองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก 6.5 ล้านคน
เดินหน้าลุย ซื้อกิจการต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สำหรับเซ็นทรัล รีเทลฯหลังสร้างชื่อระดับนานาชาติด้วยการทุ่มงบฯ 10,000 ล้านซื้อกิจการห้างหรู ลา รีนาเซนเต เมื่อ 2 ปีก่อน
ล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า "อิลลุม" (ILLUM) ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายกิจการของเซ็นทรัล รีเทลฯไปต่างประเทศ
ห้าง อิลลุมมีอายุยาวนานกว่า 120 ปี ถือกำเนิดขึ้นในปี 2434 ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ใจกลางศูนย์กลางย่านช็อปปิ้ง ด้วยขนาดพื้นที่ 2 หมื่น ตร.ม.
เน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลางและบน ครอบคลุมด้วยสินค้า แฟชั่น ความงาม ของตกแต่งบ้าน งานออกแบบกว่า 120 แบรนด์ ทั้งจากสแกนดิเนเวียและทั่วโลก ที่สำคัญเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่รองรับนักท่องเที่ยวถึง 6.5 ล้านคนต่อปี
นาย ทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัดกล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการห้าง อิลลุมถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทลฯ
ซึ่งครั้งนี้จะใช้เงินทุนไปในการเพิ่มคุณค่าของห้างที่มีประวัติศาสตร์อัน ยาวนาน ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดรวมถึงการคัดเลือกสินค้า การนำเสนอสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อให้อิลลุมเป็นห้างหรูที่เสนอสินค้าที่มีเอกลักษณ์และตอบสนองความต้อง การของลูกค้าระดับบนอย่างแท้จริง
การเข้าซื้อกิจการห้างอิลลุมกลาย เป็นโอกาสสำคัญที่จะเติมเต็มกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่การเป็น "Collection of Stores" อย่างแท้จริง โดยกลยุทธ์การทำธุรกิจโมเดลนี้จะสร้างปรากฏการณ์ที่แตกต่าง
ด้วยการรวบรวมห้างชั้นนำในแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี เดนมาร์ก เข้าไว้ในเครือเดียวกัน ภายใต้บริษัทเซ็นทรัล รีเทลฯ แต่ในขณะเดียวกัน ยังรักษาจุดเด่นและคงเอกลักษณ์เฉพาะตัว
พร้อมผสานเรื่องราวของแต่ละโลเกชั่นเข้ามารวมไว้ ดังนั้น แต่ละห้างในแต่ละประเทศจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องแวะมาเยี่ยมชมและใช้บริการ ด้วยสินค้าและบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้า ควบคู่กับการสร้างการเติบโตให้กับห้างลา รีนาเซนเต
ไม่เพียงการสร้างสาขาแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ใจกลางกรุงโรมที่จะแล้วเสร็จในปี หน้า แต่ยังทำให้ชื่อเสียงของเซ็นทรัล รีเทลฯเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในตลาดยุโรป
นายอัลแบร์โต บัลดาน ประธานกรรมการบริหาร ห้างลา รีนาเซนเต กล่าวว่า การเติบโตของห้างลา รีนาเซนเตในช่วงที่ผ่านมา เป็นการแสดงถึงความพร้อมที่จะนำเอาประสบการณ์และความชำนาญที่สั่งสม
มา นานขยายออกไปยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ด้านการบริหารห้างสรรพสินค้า ความรู้ในด้านตลาดสินค้าลักเซอรี่ (Luxury Brands) และการบริหารจัดการธุรกิจค้าปลีก ซึ่งประสบการณ์และความชำนาญทั้งหมดนี้จะถูกนำมาหลอมรวมกันเพื่อต่อยอดให้กับ ห้างอิลลุมให้ขึ้นเป็นห้างชั้นนำและดึงดูดลูกค้า
ปัจจุบัน ลา รีนาเซนเต มี 11 สาขาเป็นศูนย์รวมแหล่งช็อปปิ้งของอิตาลี ด้านสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ ความงาม ของตกแต่งบ้าน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยสินค้าของดีไซเนอร์ชั้นนำทั้งในอิตาลีและจากต่างประเทศทั่วโลก
ทั้ง นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อกิจการในต่างประเทศดังกล่าวของกลุ่มเซ็นทรัล สอดคล้องกับนโยบายของทางการไทยที่ต้องการจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยขยาย การลงทุนออกไปในต่างประเทศ
ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
และจาก การสรุปตัวเลขของ ธปท.ระบุว่า การลงทุนของกลุ่มทุนไทยในต่างประเทศเมื่อปีที่ผ่านมามีจำนวนทั้งสิ้น 36,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลก็เป็น 1 ใน 3 ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยที่มีการลงทุนในต่างประเทศ
ส่วนอีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ที่เมื่อปีที่ผ่านมาได้ซื้อกิจการประกัน "ผิงอัน" ในจีน และกลุ่มไทยเบฟเวอเรจของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ซื้อกิจการของบริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ หรือเอฟ แอนด์ เอ็น