เกษตรกรยิ้ม! รัฐจ่ายเงินประกันราคาข้าวงวดแรก มีผู้รับสูงสุด 74,000 บาทต่อครัวเรือน
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/mn/0/ud/139/699587/moc.jpgเกษตรกรยิ้ม! รัฐจ่ายเงินประกันราคาข้าวงวดแรก มีผู้รับสูงสุด 74,000 บาทต่อครัวเรือน

    เกษตรกรยิ้ม! รัฐจ่ายเงินประกันราคาข้าวงวดแรก มีผู้รับสูงสุด 74,000 บาทต่อครัวเรือน

    2019-10-15T22:39:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการเป็นประธานในงานจ่ายเงินประกันรายได้งวดแรกให้กับเกษตรกร ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562/63 รอบที่ 1 ว่าวันนี้ (15 ต.ค.) เป็นวันแรกที่มีการโอนเงินส่วนต่างราคาให้กับชาวนากว่า 349,000 ครัวเรือน ใช้งบประมาณราว 9,400 ล้านบาท โดยจากนี้เป็นต้นไปจะมีการโอนเงินทุก 15 วัน ส่วนงวดถัดไปจะเป็นวันที่ 1 พ.ย. และ 15 พ.ย. 62 ซึ่งจะดำเนินการจนครบฤดูกาลผลิตนี้ สำหรับเงินส่วนต่างที่โอนให้เกษตรกรในงวดนี้มีผู้ที่ได้รับเงินสูงสุดถึง 74,000 บาท และจะลดหลั่นกันไปตามปริมาณการผลิต และคุณภาพข้าวของชาวนาของแต่ละครัวเรือน

    นอกจากนี้ การประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวยังเป็น 1 ใน 5 พืชเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะประกันด้วย ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน, ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง และข้าวโพด ซึ่งปาล์มน้ำมันดำเนินการไปแล้ว ส่วนพืชอื่นๆ จะทยอยดำเนินการตามความเหมาะสม

    นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ระบุ ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการฯ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาข้าว โดยกลไกตลาดยังคงทำงานปกติ ภายใต้งบประมาณ 20,940 ล้านบาท จำนวนเกษตรกรที่จะได้รับประโยชน์กว่า 4.31 ล้านราย โดยประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่

    • ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
    • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
    • ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
    • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
    • ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

    กรณีเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด จะได้สิทธิไม่เกินจำนวนสูงสุดของข้าวแต่ละชนิด เมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงชนิดข้าวที่กำหนดไว้สูงสุด โดยมีการกำหนดราคาอ้างอิงและระยะเวลาที่ใช้สิทธิขอชดเชย ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 62 - 28 ก.พ. 63 (ยกเว้นภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 31 พ.ค. 63) ซึ่งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงครั้งแรกวันที่ 15 ต.ค. 62 เพื่อใช้ชดเชยส่วนต่างตามโครงการ ความชื้นความเปลือกแต่ละชนิดไม่เกิน 15% โดยวันนี้ชดเชยส่วนต่างราคาประกันข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 2,469.64 บาท และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 783.45 บาท มีเกษตรกรที่มีคุณสมบัติถูกต้องได้รับเงินทั้งสิ้น 349,392 ราย เป็นเงิน 9,413 ล้านบาท จากนั้นจะประชุมเพื่อกำหนดราคาอ้างอิงทุกๆ 15 วัน จนถึงวันสิ้นสุดโครงการฯ