เขย่าเมืองกรุง! ดุสิต-ซีพีเอ็น ผุด "ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค" มูลค่า 3.67 หมื่นล้าน ทวงบัลลังก์คืนอีก 5 ปี

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความร่วมมือระหว่างซีพีเอ็นและดุสิตจะดำเนินหน้าสร้างมิกซ์ยูสภายใต้วิสัยทัศน์ เฮียร์ ฟอร์ แบ็งค็อก (Here for Bangkok) คิดเป็นมูลค่าลงทุน 3.67 หมื่นล้านบาท

นับเป็นการสร้างซูเปอร์คอร์ซีบีดี (Super Core CBD) ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เชื่อมโยง 4 ย่านสำคัญจากทั้ง 4 ทิศของกรุงเทพฯ สู่ใจกลางเดียว ได้แก่ ย่านราชประสงค์ทางทิศเหนือ เจริญกรุงทางทิศใต้ สุขุมวิททางทิศตะวันออก และเยาวราชทางทิศตะวันตก ทำให้เกิดเป็นเดอะ นิว จังก์ชัน (The New Junction) ตอบโจทย์ทั้งทางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ซึ่งในโครงการประกอบด้วย

1. ที่พักอาศัย
2. อาคารสำนักงาน
3. โรงแรม
4. ศูนย์การค้า

โดยทำเลที่อยู่ในกลางกรุงเทพฯ มีพื้นที่เป็นส่วนขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายกับย่านดังต่างๆ ในมหานครระดับโลกอย่างลอนดอนและนิวยอร์ก ซิตี้

สำหรับพื้นที่ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่สำหรับคนกรุงเทพฯ จะอยู่ภายใต้แบรนด์เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) ประกอบไปด้วย เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส บนพื้นที่ 90,000 ตร.ม. ที่รองรับการเป็นที่ตั้งของบริษัทตั้งแต่อินโนเวทีฟสตาร์ทอัพไปจนถึงสำนักงานบริษัทระดับโลก และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) ซึ่งจะเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบของโครงการเข้าด้วยกัน รวบรวมแบรนด์ดังครอบคลุมทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์บนพื้นที่กว่า 80,000 ตารางเมตร โดยทั้งสองส่วนข้างต้นพร้อมเปิดให้บริการ ในปี พ.ศ. 2566

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC  เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะพัฒนาพื้นที่บริเวณมุมถนนสีลม - พระราม 4 ให้กลายเป็นทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพมหานครผ่านการสร้างโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค

แม้ว่าทำเลแห่งนี้จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากแต่เชื่อว่าโครงการมีความโดดเด่นต่างจากโครงการอื่น โดยเฉพาะการเป็นมิกซ์ยูสแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สามารถเชื่อมต่อกับการจราจรทั้งระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน ตลอดจนการจราจรบนท้องถนน

ในส่วนของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ มีขนาด 250 ห้อง มีความสูง 39 ชั้น โดยกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 ขณะที่โครงการอาคารที่พักอาศัยมีความสูง 69 ชั้น จำนวน 389 ยูนิต บนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็น ดุสิต เรสซิเดนเซส (Dusit Residences) จำนวน 159 ยูนิต เจาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบที่อยู่อาศัยสไตล์คลาสสิกและหรูหรา มอบความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับผู้ที่รักความเป็นส่วนตัว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และดุสิต พาร์คไซด์ (Dusit Parkside) ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์คนเมืองจำนวน 230 ยูนิต เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงานในเมือง และครอบครัวขนาดเล็ก โดยเป็นอาคารที่พักแบบเช่าสิทธิ์ระยะยาวหรือลีสโฮลด์ คาดว่าจะเริ่มเปิดให้จองเร็วๆ นี้อีกด้วย