ตัวการร้ายที่จะทำลายเงินออมของมนุษย์เงินเดือน

ตัวการร้ายที่จะทำลายเงินออมของมนุษย์เงินเดือน

ตัวการร้ายที่จะทำลายเงินออมของมนุษย์เงินเดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การออมเงิน คือ วิธีการที่จะทำให้เรามีเงินสำรองในยามฉุกเฉินและไว้ลงทุนในธุรกิจต่างๆ เพื่อขยับขยายฐานะตัวเราเอง แต่หากว่าเงินออมของเราที่พยายามเก็บสะสมมาอย่างยากลำบากเพื่ออนาคตของเรานั้นหมดไป จนทำให้เราไม่มีเงินสำรองยามฉุกเฉินหรือใช้ทุนธุรกิจต่างๆได้นั้น คงจะไม่ดีแน่ๆ วันนี้เราจึงขอหยิบยกเหล่าตัวการร้ายที่จะทำลายเงินออมของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆกันขึ้นมาให้ดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1.เครื่องแต่งกายและเครื่องใช้ต่างๆภายในบ้าน

เราอาจจะไม่ประมาทที่จะดูแลรายจ่ายใหญ่ต่างๆ ไม่ให้มีผลกระทบต่อการเก็บออมเงิน แต่เราอาจจะลืมได้ว่ายังมีรายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่เรายังต้องระวังอยู่อีก ซึ่งรายจ่ายที่ว่านี้คือ เครื่องแต่งกาย น้ำหอม แว่นตา รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ รวมถึงเครื่องใช้ต่างๆภายในบ้าน เช่น น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างจาน เป็นต้น โดยเครื่องแต่งกายนี่แหล่ะ ที่เราหลายๆคน อาจจะไม่ทันระวังเห็นราคาไม่แพง ราคาตัวละ 99 - 199 ก็คิดว่าตัวนึงคงไม่เป็นไรหรอก แต่หลายๆตัวนึงนี่แหล่ะค่ะ พอเอามารวมๆกันก็อาจเป็นพันได้

โดยเฉพาะสาวๆ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ น้ำหอมนี่แหล่ะค่ะ ซื้อของไม่แพงแต่ซื้อบ่อยๆ รวมๆกันก็ไม่ดีแน่ๆค่ะ และนี่ยังไม่รวมถึงการซื้อเครื่องแต่งกาย น้ำหอม และเครื่องประดับแพงๆ ยี่ห้อดังๆ นะคะ หากรักชอบจริงๆ ในสินค้าแบรนด์ต่างๆ ก็สามารถซื้อสามารถใช้ได้ค่ะ แต่อย่าให้เดือดร้อนเงินออมนะคะ วางแผนและพิจารณาดีๆ ก่อนซื้อจะช่วยได้มากเลยค่ะ

และในส่วนของเครื่องใช้ต่างๆภายในบ้านนั้น ก็ควรใช้ในปริมาณที่ระบุในฉลากคะ จะช่วยให้ประหยัดไปได้ค่ะ เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ข้างขวดจะระบุปริมาณที่แนะนำไว้ และบางยี่ห้ออาจจะเขียนจำนวนครั้งที่สามารถใช้ได้ต่อ 1 ขวดไว้ให้ด้วยค่ะ ซึ่งหากเราทำตามคำแนะนำนี้เราก็ประหยัดได้เเล้วค่ะ เพราะหากใช้แบบถนัดมือเรา อาจจะใช้ไม่ได้จำนวนตามที่ฉลากระบุก็ได้ค่ะ ซึ่งส่งผลให้เราต้องซื้อเพิ่มนั้นเอง

2. สินค้า Sale

หลายๆไกด์การออมเงินแนะนำว่า วิธีประหยัดที่ดีคือการเลือกซื้อสินค้าที่ลดราคาหรือสินค้า Sale จะช่วยให้
เรามีเงินออมได้มากขึ้น ซึ่งก็เป็นจริงตามที่แนะนำ เพียงแต่ว่าเราต้องวางแผนและพิจารณาให้ดีๆ ก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้งด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าเห็นว่าสินค้าลดราคาปุ๊บ ซื้อแบบไม่ยั้งเลยอันนี้ก็ไม่แนะนำค่ะ

เราควรวางแผนว่าเราจะใช้จำนวนเท่าไหร่ และสินค้าที่ลดราคานั้นมีตำหนิอะไรหรือเปล่า ใกล้หมดอายุหรือไม่ เพราะในหลายๆครั้งสินค้าลดราคาจำพวกอาหารต่างๆ จะใกล้หมดอายุ เราจึงควรเช็ควันหมดอายุให้ดีก่อนการตัดสินใจซื้อนะค่ะ หากตัดสินใจซื้อก็ต้องมีการวางแผนไว้แล้วว่าเราจะสามารถกินให้หมดก่อนหมดอายุได้ และควรซื้อในปริมาณที่พอดีกับที่เราต้องการค่ะ ไม่ควรซื้อตุนไว้มากจนเกินไป เพราะอาจจะเป็นการสิ้นเปลืองเงินแทนการประหยัดค่ะ

3.อาหารต่างๆ

เรื่องใกล้ตัวที่สุดสำหรับเราคือการกินค่ะ เพราะเราต้องกินทุกวันนั้นเอง และการกินนี่แหล่ะที่จะสามารถช่วยเราประหยัดเงินก็ได้หรือจะทำให้เราหมดเงินก็ได้ค่ะ

- กินให้ประหยัดคือกินแต่พอดี ซื้อแต่พอดี กินอาหารดีๆ พอมีราคาบ้างแต่ไม่บ่อยและอยู่ในงบที่เราวางไว้เสมอ
- กินให้เงินหมดคือกินไม่พอดี ซื้อมาเกินที่จะกิน กินอาหารแพงๆ ขยันบุฟเฟ่ห์บ่อยๆ และไม่เคยสนใจงบที่วางไว้หรือไม่เคยวางไว้เลยค่ะ
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการกินเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันเลยค่ะ ซึ่งเราควรระวังในส่วนนี้ด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้มากระทบกับเงินออมของเรานั้นเอง และอย่าลืมที่จะกินอาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อสุขภาพที่ดีของเราด้วยนะคะ

4.รถยนต์ มือถือ ที่พักอาศัย ค่าเดินทาง

นอกจากเรื่องที่กล่าวมายังมีอีกกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทบต่อเงินออมของเรานั้นคือ รถยนต์ มือถือ ที่พักอาศัย และค่าเดินทาง ทำไมถึงเสี่ยง? เพราะหากมองในแต่ละอย่างแล้วนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวอยู่พอสมควร เช่น ตัวอย่าง
รถยนต์ ข้อดี สะดวกในการเดินทาง ใช้เป็นพาหนะในการขนย้ายสิ่งของเพื่อส่วนตัวหรือเพื่อค้าขาย ฯลฯ
ข้อเสีย ค่าน้ำมัน ค่าดูแลรักษา ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ค่าประกัน ฯลฯ

จะเห็นได้ว่า ข้อเสียนั้นคือรายจ่ายจิปาถะที่จะตามมาหลังมีรถยนต์นั้นเอง ต้องพิจารณาความเหมาะสมและความจำเป็นของเราให้ดีก่อนการซื้อรถยนต์มาใช้คะ ว่ามันจะเป็นการเพิ่มรายได้หรือเพิ่มรายจ่ายของเรากันแน่

และมาในส่วนของโทรศัพท์มือถือนั้น หากต้องการประหยัดก็ขอแค่ใช้ให้พอดีกับตัวเราก็พอค่ะ และไม่จำเป็นต้องซื้อที่มีราคาแพงๆหรือ เปลี่ยนตามแฟชั่นค่ะ ซื้อตามความจำเป็นในการใช้งานของเรา และเลือกให้เหมาะสมกับราคาที่ต้องการก็ใช้ได้แล้วละค่ะ

ที่พักอาศัยและค่าเดินทาง ส่วนนี้มีผลกระทบโดยตรงกับเงินออมเราเลยค่ะ เพราะหากเราต้องเช่าที่พักราคาแพงและยังมีค่าเดินทางที่สูงอีก ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ และอย่าถามถึงเงินออมเลยค่ะ ถ้าเงินเดือนไม่เยอะจริงๆ ปัจจัย 2 อย่างนี้ทำร้ายเงินออมเราแน่ๆ แต่ต่อให้เงินเดือนเยอะๆ หากต้องเช่าแพงๆ แนะนำให้ลองมองการซื้อคอนโดเป็นตัวเลือกดูก็ได้คะ เพราะหากต้องจ่ายค่าเช่าแพงๆ ฟรีๆ เราควรนำเงินส่วนนี้มาให้เกิดประโยชน์กับตัวเราดีกว่าค่ะ ไหนๆก็ต้องจ่ายแล้วทั้งที ดังนั้นเราควรเลือกที่พักอาศัยที่สะดวกต่อการเดินทางและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากคะ จะช่วยให้เราประหยัดได้

5.สินค้าฟุ่มเฟือย

ข้อนี้ข้อสำคัญเลยค่ะ สินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ เช่น เกม หูฟัง ตุ๊กตา หรือสิ่งอื่นๆที่นอกเหนือจากความจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ควรใช้จ่ายกับส่วนนี้อย่างระมัดระวังให้มากที่สุดค่ะ เพราะเป็นส่วนที่เหมือนจะยากในการตัดสินใจซื้อแต่พอเอาจริงนั้น ตัดสินใจง่ายกว่าการซื้อของจำเป็นบางอย่างซะอีก นั้นก็เพราะสินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้มีแรงขับจากความอยากได้ อยากมีของเรานั้นเอง หรือคือการใช้อารมณ์ล้วนๆในการตัดสินใจ ไม่เกี่ยวกับเหตุผลเลย

ฉะนั้นเราควรที่จะมีการวางแผนให้ดีในส่วนนี้ ซื้อได้ใช้ได้ ซื้อเพื่อให้กำลังใจในการทำงานตัวเองบ้างก็ได้นะคะ แต่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับรายได้ของเรา และไม่กระทบต่อเงินออมของเราเองด้วยค่ะ

นอกจากที่เราหยิบยกมานี้ ยังมีสิ่งอื่นๆอีกที่ยังเป็นตัวร้ายสำหรับเงินออมของเราอยู่อีกนะคะ เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ที่เราว่ามาเป็นสิ่งใกล้ๆตัวของมนุษย์เงินเดือนทั่วไปค่ะ หวังว่าจะช่วยให้เราๆมนุษย์เงินเดือนทุกคน เก็บรักษาเงินออมของเราไว้ให้ได้ค่ะ เพื่ออนาคตของเราเองในวันหน้านั้นเอง

ขอบคุณข้อมูล จาก : www.Masii.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook