"นิวัฒน์ธำรง" เล็งขอกู้งบกลางเพิ่ม 20,000 ล้านบาท จ่ายชาวนา
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) สำนักงานงบประมาณ กระทรวงการคลัง เพื่อหารือจัดทำรายละเอียดการกู้ยืมเงินงบกลาง 20,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในการจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนา ซึ่งปัจจุบันยอดเงินคงค้างจ่ายจำนำข้าวประมาณ 90,000 ล้านบาท และจะสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสัปดาห์หน้า ก่อนขอความเห็นชอบคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป
"คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กรอบคืนเงินยังเหมือนครั้งแรกโดยการระบายข้าวและคืนภายใน 2 เดือน เพราะครั้งแรกที่ขอยืมสามารถคืนภายในเดือนครึ่ง กระทรวงการคลังและ ธ.ก.ส.ก็หาเงินได้อีก 1-2 หมื่นล้านบาทในเดือนมิถุนายนนี้ โดยยังให้ความสำคัญต่อการระบายข้าวและหาเงินจ่ายชาวนาให้เร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้จ่ายชำระค่าจำนำข้าววันละ 4,000 ล้านบาท" นายนิวัฒน์ธำรงกล่าว
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาได้อนุมัติขายข้าวสต๊อกรัฐบาลไปอีก 2 แสนตัน เป็นข้าวทุกชนิดรวมถึงข้าวเปียกและข้าวหัก มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาทให้เอกชนที่เสนอซื้อผ่านการประมูลทั่วไปและเสนอซื้อโดยตรงตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเจรจากับมาเลเซียเพื่อขายข้าวปริมาณ 6 แสนตัน ซึ่งราคาและเงื่อนไขก็ต้องรับได้ ส่วนการส่งมอบจะให้เอกชนดำเนินการไหม เรื่องนี้ยังอยู่การหารือ ผลการเจรจาซื้อขายคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนการเจรจาจีทูจียังดำเนินอยู่กับประเทศที่แสดงความสนใจซื้อข้าวไทย เช่น อินโดนีเซีย และจีนที่สนใจซื้อข้าวไทยเพิ่มจากไทย และก่อนหน้านี้ที่ได้ลงนามซื้อข้าวปริมาณ 1 ล้านตันไปแล้ว
ปัจจุบันรัฐบาลมีข้าวในสต๊อกที่พร้อมขายรวม 13 ล้านตัน ในจำนวนนี้ต้องส่งมอบให้ผู้ซื้อรวม 4 ล้านตัน และยังคงเหลือ 9 ล้านตัน แบ่งเป็นปลายข้าว 3 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่ได้สูงมาก แต่จะยังคงเดินหน้าระบายข้าวต่อไปตามแผน คาดว่าทั้งปีไทยจะส่งออกข้าวประมาณ 8-10 ล้านตัน โดยรัฐบาลจะรักษาระดับราคาข้าวสารไม่ให้ตกต่ำลง และการระบายข้าวแต่ละครั้งต้องได้ตามราคาตลาดที่เหมาะสม หากมีความพยายามกดราคาลงจะยกเลิกการเจรจานั้น ๆ ทันที
ขณะที่ราคาข้าวเปลือก ทางรัฐบาลคงไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลืออะไรได้ คงต้องปล่อยไปตามกลไกตลาด โดยราคาข้าวเปลือกในปัจจุบันเฉลี่ยที่ตันละ 6,000-7,000 บาท และรัฐบาลรักษาการขณะนี้ไม่สามารถดำเนินโครงการรับจำนำ หรือโครงการรูปแบบอื่น ๆ ได้ คือ ใช้เงินช่วยเหลือไม่ได้อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นความพยายามหาเสียง เพราะจะผิดมาตร 181 ตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนผลการตรวจสอบข้าวถุง ทั้งจากกรมการค้าภายใน หรือองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. เรื่องนี้ยังไม่ทราบเรื่อง ยังคงอยู่ในคณะทำงานพิจารณาอยู่