ชนเผ่าเซนทิเนลลีส กลุ่มคนที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก

ชนเผ่าเซนทิเนลลีส กลุ่มคนที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก

ชนเผ่าเซนทิเนลลีส กลุ่มคนที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไปทำความรู้จักกับชนเผ่าเซนทิเนลลีส กลุ่มคนที่โดดเดี่ยว ปฏิเสธโลกสมัยใหม่ และอาจจะเป็นชนเผ่าที่อันตรายมากที่สุดในโลก!

นึกไม่ถึงเลยว่าในโลกยุคปัจจุบันที่การเดินทาง ติดต่อสื่อสารและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้านั้นยังมีดินแดนลึกลับที่ยังไม่มีใครเข้าไปสัมผัส รวมถึงกลุ่มคนที่ปฏิเสธโลกสมัยใหม่อย่างสิ้นเชิง และไม่ต้องการที่จะติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกอีกด้วย!

เกาะเซนติเนลเหนือนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่ๆเข้าถึงได้ยากที่สุดในโลก โดยเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเกาะอันดามันและเกาะนิโคบาร์ในอ่าวเบงกอล และเป็นที่อยู่ของชนเผ่าเซนทิเนลลีส ซึ่งอพยพมาจากแอฟริกาและได้มาตั้งรกรากอยู่ที่เกาะแห่งนี้เป็นเวลากว่า 60,000 ปี จำนวนประชากรของชนเผ่าเซนทิเนลลีสนั้นไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนแต่คาดว่ามีประชากรอยู่เพียง 300-500 คน

 

ชนเผ่าเซนทิเนลลีสนั้นเป็นชนเผ่าเดียวที่ปลีกตัวออกมาได้สำเร็จในช่วงล่าอณานิคมของประเทศในแถบตะวันตกในอินเดีย โดยรัฐบาลอินเดียนั้นได้พยายามที่จะติดต่อผูกมิตรกับพวกเขามาตั้งแต่ช่วงปีค.ศ. 1960s แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆเลยนอกจากได้ทิ้งของขวัญเช่นมะพร้าว ตุ๊กตา เครื่องนุ่มหมไว้บนชายหาดเท่านั้น

 

ในปีค.ศ. 1981 เรือขนสินค้าจากปานามาซึ่งมีชื่อว่า Primrose ได้ประสบอุบัติเหตุและเกยตื้นที่เกาะเซนติเนลเหนือ โดยชนเผ่าเซนทิเนลลีสนั้นได้เตรียมยิงธนูและโจมตีผู้โดยสารบนเรือ กว่าหนึ่งอาทิตย์ที่พวกเขาต้องรอการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก โดยซากเรือ Primrose นั้นยังอยู่ติดชายฝั่งของเกาะเซนติเนลเหนือมาจนถึงวันนี้

 

ชนเผ่าเซนทิเนลลีสกลับมาอยู่ในหน้าสื่อปัจจุบันอีกครั้งในปี 2004 เมื่อทีมช่วยเหลือจากรัฐบาลอินเดียได้บินเฮลิคอปเตอร์เข้าไปใกล้เกาะเซนติเนลเหนือ เพื่อตรวจสอบความเสียหายของเกาะจากสึนามิแต่กลับได้รับการตอนรับจากชนเผ่าเซนทิเนลลีสโดยการยิงธนูใส่ และในปี 2006 ชาวประมงอินเดียสองคนถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากการเข้าไปใกล้เกาะแห่งนี้มากเกินไป รัฐบาลอินเดียประกาศให้ระยะทาง 3 ไมล์ทะเลจากเกาะแห่งนี้เป็นเขตหวงห้าม

ห้ามบรรดานักท่องเที่ยวและนักสำรวจเข้าไปใกล้เกาะขึ้นบนเกาะเซนติเนลเหนือโดยเด็ดขาด สุดท้ายแล้ว ประวัติศาสตร์และเรื่องราวของชนเผ่าเซนทิเนลลีสยังเป็นปริศนาสำหรับโลกปัจจุบันตราบจนทุกวันนี้

 อ้างอิง: Businessinsider Atlasobscura Forbes

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook