หายนะของ "บิวรี เอฟซี" : สโมสรอายุ 134 ปีที่มีมูลค่าแค่ 37 บาท

หายนะของ "บิวรี เอฟซี" : สโมสรอายุ 134 ปีที่มีมูลค่าแค่ 37 บาท

หายนะของ "บิวรี เอฟซี" : สโมสรอายุ 134 ปีที่มีมูลค่าแค่ 37 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บิวรี เอฟซี ทีมจากลีกวันของอังกฤษ กลายเป็นสโมสรแรกในรอบ 27 ปีที่โดนลีกฟุตบอลอาชีพอังกฤษ หรือ EFL ขับออกจากการแข่งขันเนื่องจากปัญหาด้านการเงินที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลีกได้ 

และนี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นของสโมสรเก่าแก่ที่มีอายุมาถึง 134 ปี ภายใต้การเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีที่ทำให้สโมสรเข้าไปอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งมา 

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า หายนะนี้ถูกสานต่อจากวันที่สโมสรเหลือค่าแค่ 1 ปอนด์ หรือ 37 บาท เท่านั้น

ทำไม บิวรี จึงถูกขับออกจากลีก? 

ก่อนที่เหตุการณ์ขับออกจากลีกจะเกิดขึ้นกับ บิวรี นั้น ครั้งล่าสุดที่เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้น ต้องย้อนกลับไปถึง 27 ปีที่แล้ว เมื่อสโมสร เมดสโตน ยูไนเต็ด ถูกขับออกจากดิวิชั่น 4 เดิมในปี 1992 ด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นคือเรื่องของ "เงินๆ ทองๆ"

ปัญหาเรื่องการเงินของ บิวรี เกิดจากสโมสรประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก และไม่สามารถหาเจ้าของใหม่เข้ามาโอบอุ้มสโมสรได้ทันเวลา เนื่องจากมีหนี้ก้อนโตจากการกู้ยืมมาลงทุนในสโมสร นอกจากนี้ยังไม่สามารถชำระค่าเหนื่อยของนักเตะและทีมงานสตาฟฟ์ในทีมได้อีกด้วย

จริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานจนกระทั่ง EFL ส่งสัญญาณเตือนว่าพวกเขาจะต้องหาเจ้าของใหม่มาเทคโอเวอร์เพื่อการันตีสถานะทางการให้ได้ในช่วงปลายฤดูกาล 2018-19 ที่ผ่านมา


Photo : Metro

สโมสรพยักหน้ารับเรื่องนี้ พวกเขามั่นใจว่าวิกฤติสามารถแก้ได้ด้วยการร่วมด้วยช่วยกัน และชัยชนะเปลาะแรกก็เริ่มขึ้นเมื่อในฤดูกาลที่ผ่านมา บิวรี จบอันดับสองลีกทูฤดูกาลที่แล้วและเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกวันได้สำเร็จ 

ทว่าสัญญาณดีเหล่านั้นก็กระพริบขึ้นแว่บเดียวแล้วจากไปตลอดกาล ...

ชายผู้มาพร้อมกับเงิน 1 ปอนด์

อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ บิวรี ประสบปัญหาการเงินมาตลอดในช่วงระยะหลัง และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถือว่าหนักที่สุดเพราะระบบเงินหมุนเวียนในสโมสรไม่เพียงพอต่อการจ่ายค้าจ้างในบุคลากร นั่นจึงทำให้ สจ็วร์ต เดย์ เจ้าของทีมที่เป็นนักธุรกิจสายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเข้ามาซื้อทีมในปี 2013 เริ่มตัดสินใจกู้เงินเพื่อนำมาหมุนให้เกิดสภาพคล่องให้สโมสรเดินต่อไปได้ก่อน

แต่ปัญหาก็คือการเล่นในลีกล่างๆ นั้นมันยากที่จะบริหารให้เกิดกำไรและประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กันได้ ทีมงานของ เดย์ พยายามที่จะใช้จ่ายให้น้อยและเอาเงินไปเคลียร์หนี้ที่มี แต่สุดท้ายก็ไม่เพียงพอ


Photo : Sky Sport

"เรานำเงินที่กู้มาชำระหนี้เก่าและเอามาหมุนเวียนในสโมสร แต่ความจริงคือหนี้ของเรายังมีอีกมาก" เดย์ กล่าวในปี 2013

"ตอนที่เราเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรนี้มีหนี้มากมาย ดังนั้นเราจึงไม่มีเงินในบัญชีเลย เราต้องอยู่ไปตามวิถีของเราเอง มันเป็นช่วงยากลำบากมากสำหรับ 12 เดือนแรกที่เข้ามา เพราะเราต้องมาไล่จ่ายเงินให้กับคนที่ไม่ได้อยู่ในสโมสรแล้วทั้ง เจ้าหน้าที่, พนักงานร้านค้า, สตาฟฟ์ และนักบอลด้วย นี่แหละคือส่วนหนึ่งของโลกฟุตบอลยุคใหม่ล่ะ"

อย่างไรก็ตาม เดย์ พยายามทุกทางที่จะหาเงินเข้าสโมสร ด้วยการหาสปอนเซอร์จากบริษัทกีฬา JD Sports มาสนับสนุนเรื่องเสื้อแข่ง นอกจากนี้ยังเปิดสนาม กิก เลน ให้เช่าสำหรับแสดงคอนเสิร์ตอีกราวๆ ปีละ 10 ครั้ง แต่สุดท้ายมันก็ทำได้แค่อยู่ไปวันๆ จนถึงทางตัน และเขาเลือกที่จะเอาสนาม กิก เลน ไปจำนองเพื่อกู้เงินมาบริหารทีมในปี 2017 นั่นเองที่เป็นจุดเปลี่ยนเพราะ บิวรี ต้องเสียดอกเบี้ยถึงวันละ 1,500 ปอนด์ (ราว 56,000 บาท) จนหนี้แค่ในส่วนนี้ทะยานเป็น 3.7 ล้านปอนด์ (ราว 138 ล้านบาท) ก่อนตามด้วยการจำนองแม้กระทั่งลานจอดรถของสโมสรด้วย

และในที่สุด เดือนธันวาคมปี 2018 สจ็วร์ต เดย์ ก็ยื้อไม่ไหว เขายอมแพ้และตั้งใจจะขายสโมสรให้กับคนที่พร้อมจะดูแลทีมมากว่าตัวเอง

หลังจากพิจารณาหาเจ้าของใหม่อยู่นานสองนาน ที่สุดแล้ว เดย์ ก็ตกลงขายทีมให้กับนักธุรกิจชาวอังกฤษที่มีธุรกิจในการดูแล้วกว่า 51 แห่ง เขาคนนั้นชื่อว่า สตีฟ เดล ชายผู้มากับเงินแค่ 1 ปอนด์ และความฝันผ่านลมปากที่ฝากไปบอกถึงแฟนบิวรีทุกคนว่า "ไม่ต้องกังวล"


Photo : Mopays.com

ใช่แล้ว! เมื่อได้คนดูแลที่เหมาะสม สจ็วร์ต เดย์ ตัดสินใจขายทีม บิวรี ให้ สตีฟ เดล ด้วยราคาเพียง 1 ปอนด์เท่านั้น (ราว 37 บาท) ซึ่งแน่นอนมันไม่ใช่การขายเพื่อทำกำไร แต่มันเป็นการส่งไม้ต่อและขอให้ เดล ทำเพื่อสโมสรที่เขารักก็แค่นั้นเอง

นักการเมืองโมเดล

แรกเริ่มเดิมที่ สตีฟ เดล เจ้าของใหม่พูดจาไว้สวยหรู เขาสัญญากับ สจ็วร์ต เดย์ ว่า จะทำงานและผลักดันสโมสรด้วยการรับฟังความคิดเห็นของผู้คนในชุมชนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งที่สุดแล้วเขาจะทำให้ยอดเงินสด ในบัญชีของ บิวรี สะพัดและกลับสู่งแสงสว่างที่ไม่เคยได้เห็นมานานหลายปี 

ทุกอย่างดีหมดตอนแรกเริ่ม วิสัยทัศน์ของผู้นำ, แฟนๆ เทใจให้ นักเตะพร้อมใจเล่น อีกทั้งยังเลื่อนชั้นสู่ลีกวันได้ มันควรจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่แล้ว เดล ก็ทำได้แค่พูดเท่านั้นเอง เพราะสุดท้ายทุกอย่างก็เหลว นอกจากจะชำระหนี้ให้ทีมไม่ได้แล้ว เขายังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายบุคลากรในสโมสรได้อีกด้วย ปัญหามันลุกลามยิ่งกว่าเก่าเสียอีกทั้งๆ ที่ บิวรี คาดหวังว่าจะได้คนใหม่ที่เข้ามาช่วยทีมให้พ้นวิกฤตินี้ 


Photo : MSN.com

สื่ออย่าง เดอะ ซัน ยังบอกอีกว่าถึงแม้ เดล จะมีธุรกิจในมือ 51 อย่าง แต่ก็มีถึง 43 ธุรกิจ ที่ขาดทุนและต้องการใช้เงินมาล้างหนี้ไม่ต่างกับ บิวรี เลย ซึ่งเมื่อลองประกอบทั้ง 2 ข่าวลือนี้เขาด้วยกันมันก็ช่างเหมาะ และมันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแฟนๆ บิวรี่ จึงเกลียดชัง สตีฟ เดล เจ้าของใหม่ที่ซื้อทีมในราคา 1 ปอนด์ทั้งๆที่บริหารธุรกิจตัวเองยังเกือบเอาตัวไม่รอบ ในแบบที่เผาพริกเผาเกลือไล่เลยทีเดียว

"นี่คือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น คุณทำให้สโมสรนี้ไปข้างหน้าไม่ได้ อย่างน้อยก็อย่าทำลายมันสิ สโมสร บิวรี คือทีมที่มีความหมายต่อแฟนๆ ที่นี่มากเลยนะผมจะบอกให้" นีล แดนส์ กัปตันทีมชุดเลื่อนชั้นจากลีกทูพยายามจะบอกกับทุกคนว่า เดล นี่แหละคือตัวการของเรื่องนี้ 

"ผมมีความผูกพันกับแฟนๆ และมีความทรงจำที่ดีกับสโมสรโดยเฉพาะปีทื่ผ่านมา ทุกครั้งที่ลงสนามมันเหมือนกับคุณลงไปเล่นโดยมีคนในครอบครัวเชียร์ ชุมชนนี้มีความหมายอย่างมาก ฟุตบอลมันไม่ได้เคลื่อนแค่คนในสนาม แต่มันคือทุกสิ่งรอบตัวที่ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้นจริง"


Photo : Forbes

ฟางเส้นสุดท้ายที่ สตีฟ เดล จะทำเพื่อรักษาทีมไว้ได้และไม่เจ็บตัวไปกว่านี้ เกิดขึ้นหลังจากโดนแจ้งคำเตือนเรื่องการขับออกจากลีกได้ไม่นาน เดล เลือกจะยอมแพ้และพยายามจะหากลุ่มทุนเข้ามารับเซ้งกิจการต่อ โดยเขาได้เจรจากับบริษัท C&N Sporting Risk เพื่อทำข้อตกลงให้ได้ก่อนกำหนด และเป็นอีกครั้งที่เขาบอกข่าวดีก่อนใคร ... แต่สุดท้ายเป็นการตีตนไปก่อนไข้อีกครั้ง

เดล รีบแจ้งกับ EFL ว่า "งานนี้สบาย" สโมสรจะได้เจ้าของใหม่แล้ว รอเรื่องให้สะเด็ดน้ำอีกนิดเดียว บิวรี จะกลับมาโลดแล่นในลีกวันได้อย่างแน่นอน

"เราได้รับแจ้งว่า สตีฟ เดล รับข้อเสนอจาก C&N Sporting Risk ในการเทคโอเวอร์สโมสรบิวรีแล้ว ตอนนี้เรากำลังรอข้อมูลจากเขาเพื่อให้คณะกรรมการของเราพิจารณา" โฆษกของ EFL กล่าวถึงข่าวดีที่แฟนๆ บิวรีรอมานาน ... รอเพียงสัญญาณชีพจรดังอีกครั้ง ทีมรักของพวกเขากำลังจะฟื้นจากความตาย

ไม่หมดเวลา แต่ไม่มีแวว

ตีตนไปก่อนไข้ ... ใช้คำนี้คงไม่ผิดนัก การเจรจาปากเปล่าลุล่วง สุดท้าย เดล นัดตัวแทนของ C&N Sporting Risk มาคุยรายละเอียดในเรื่องของเอกสารกัน ซึ่งนั่นเองเป็นตอนจบของเรื่องราวทั้งหมดนี้

C&N Sporting Risk เปิดบัญชีของ บิวรี ดูและพบว่าตัวเลขเป็นสีแดงจนเกินเยียวยา และพวกเขาเลือกที่จะไม่เอาตัวเองเข้าเสี่ยง ข้อเสนอทุกอย่างพังลงตรงนั้น และข่าวถูกส่งไปยัง EFL โดยไว ซึ่งตอนนี้หมดเวลาใจดีแล้ว บิวรี ไม่สามารถทำตามสัญญาที่กำหนดไว้ได้ สุดท้ายพวกเขาก็โดนขับออกจากลีก

แฟนบอล บิวรี จ้องจะจองล้างจองผลาญ เดล ทันทีเมื่อได้รับข่าวร้ายช็อคหัวใจ พวกเขาสาปส่งเพราะไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่านั้น แม้ชุมชนจะมีกิจกรรมเรี่ยไร จัดการขายเสื้อเพื่อการกุศล แต่เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าที่แฟนบอลจะจัดการได้ ยื้อเท่าไหร่ก็ไร้ผล ... บิวรี ตำนานแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัยถูกไล่ให้กลับไปเริ่มนับ 1 ใหม่ในลีกล่างสุดระดับกึ่งอาชีพ ขณะที่ ลีก วัน ถูกปรับให้เหลือแค่ 23 ทีมเท่านั้น 


Photo : Forbes

สตีฟ เดล เองก็ทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้นอกจากอธิบายในมุมของเขาบ้าง ซึ่งเขายอมรับว่าหนี้ที่มีของสโมสรนั้นยากต่อการล้างให้หมด ทว่าที่สำคัญคือเขาเองก็แอบดีใจที่เรื่องนี้ได้จุดจบเสียที เพราะเขาเบื่อมากที่ต้องเป็นแพะรับบาปในสายตาแฟนๆ เสมอ ทั้งที่จริงแล้วจุดเริ่มต้นมันมาจากยุคของ สจ็วร์ต เดย์ ที่เอาสนาม กิก เลน ไปจำนองและไม่มีเงินชำระดอกเบี้ยต่างหาก ซึ่งรายละเอียดนี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้ C&N Sporting Risk แทบยกเลิกการเจรจาทั้งหมด

"มันน่าผิดหวัง C&N Sporting Risk มาที่โต๊ะตัวนี้และดูหนี้สินของสโมสรตั้งแต่ยุค สจ็วร์ต เดย์ และข้อตกลงทั้งหมดก็พังทลาย" 

"อย่างที่คุณรู้กัน การเอาสนามไปจำนองเกิดขึ้นก่อนที่ผมจะเข้ามา 2 ปี มันคือหายนะ และผมเบื่อมากที่ต้องโดนแฟนบอลด่าอยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่ผมพยายามจะโทรหากลุ่มทุนรายอื่นๆ แล้วแท้ๆ"

"EFL ต่างหากที่ไม่ยอมอะลุ้มอล่วยในเรื่องนี้ บางทีพวกเขาน่าจะกำลังเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ทั้งๆ ที่ความจริงเรามีโอกาสจะทำได้ตามสัญญาที่ให้ไว้"

ไม่ว่าใครจะพูดอะไร หรือใครจะโทษใคร ถึงตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว สโมสรอายุ 134 อย่าง บิวรี ถูกสั่งให้กลับไปยังจุดเริ่มต้น และพวกเขาจะต้องสู้กันต่อไป ... แต่ที่สุดแล้วก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเงิน 1 ปอนด์ของ สตีฟ เดล ในวันนั้นคือจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างแท้จริง

หากพวกเขาได้เจ้าของใหม่ที่จริงจังและมีความสามารถมากกว่านี้ บิวรี อาจจะกำลังเตรียมตัวสนุกกับฤดูกาลใหม่และการลุ้นเลื่อนชั้นสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในปีหน้าก็เป็นได้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook