สงสัยกันบ้างไหม : เหตุใดนักฟุตบอลถึงทำสตั๊ด "ดำล้วน-ปิดแบรนด์?"

สงสัยกันบ้างไหม : เหตุใดนักฟุตบอลถึงทำสตั๊ด "ดำล้วน-ปิดแบรนด์?"

สงสัยกันบ้างไหม : เหตุใดนักฟุตบอลถึงทำสตั๊ด "ดำล้วน-ปิดแบรนด์?"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยิ่งวงการฟุตบอลเข้าสู่ยุคแห่งความทันสมัยมากขึ้นเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้เห็นอยู่เสมอคือ แฟชั่นของรองเท้าสตั๊ด ที่มากมายทั้งยี่ห้อ, ดีไซน์ และสีสัน ชนิดที่สามารถพูดได้ว่า มีรุ่นใหม่ออกทุกปี มีสีใหม่ออกทุกไตรมาส

ถึงกระนั้น เราๆ ก็มักจะได้เห็นภาพที่ดูไม่คุ้นชินอยู่เป็นระยะ เมื่อนักเตะดาวดังทั้งหลายหยิบสตั๊ดสี 'ดำล้วน' มาใส่ทั้งในสนามซ้อมและสนามแข่ง... ลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์, เปาโล ดีบาล่า หรือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ พวกเขาเหล่านี้เคยทำมาแล้วทั้งสิ้น

 

และนั่นนำมาซึ่งคำถามว่า เหตุใดพวกเขาถึงจำเป็นต้องใส่สตั๊ดสีดำล้วน หรือที่ภาษาอังกฤษนิยามศัพท์ไว้ว่า 'Blackout' กัน?

เปิดกว้างสู่การเปลี่ยนแปลง

เหตุผลแรกของการที่นักเตะต้องใส่รองเท้าสตั๊ดสีดำล้วนนั้น หากจะจำกัดความให้กระชับคงหนีไม่พ้นคำว่า 'ผลประโยชน์'

 1

เพราะว่าไปแล้ว สัญญาของผู้สนับสนุนที่ทำไว้กับนักกีฬา ก็ไม่ต่างอะไรกับสัญญาอาชีพที่ทำกับต้นสังกัด นั่นคือเมื่อใกล้วันสิ้นสุดสัญญา พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเจรจากับค่ายอื่นได้ ยิ่งเป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหากินอย่าง รองเท้า แล้ว มันก็ไม่แปลกที่เหล่าพ่อค้าแข้งจะต้องมีการทดลองใช้ก่อนว่าเข้ากับตัวเองหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า แม้อาจจะทดลองแล้วเกิดถูกใจจนอยากเปลี่ยนมาใช้เลย แต่การปฏิบัติตามสัญญาที่ได้เซ็นไว้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะหากไม่ทำตาม แน่นอนว่าย่อมต้องเกิดผลสืบเนื่องอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าปรับมหาศาลจากการละเมิดสัญญา เหมือนอย่างที่ เมซุต โอซิล เคยถูก ไนกี้ ฟ้องร้องเรื่องการเปลี่ยนมาใส่รองเท้า อาดิดาส ในช่วงต้นฤดูกาล 2012/13 ทั้งๆ ที่การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุป

 2

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้นักเตะที่กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาสัญญารองเท้าฉบับใหม่ จึงต้องทำสีรองเท้าให้เป็นสีดำล้วน ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการเลี่ยงบาลีเพื่อไม่ให้ละเมิดสัญญา อีกส่วนหนึ่งนั้น คือการส่งสัญญาณกลายๆ ว่า ขณะนี้มีบริษัทคู่แข่งยื่นสัญญามาแล้ว หากอยากจะให้ตนใส่ต่อ ขอให้รีบยื่นสัญญาฉบับใหม่มา

ส่วนเรื่องที่ว่าจะขอรองเท้าสีดำล้วนจากบริษัทผู้ผลิตมาใส่ หรือทำสีรองเท้าที่มีอยู่ตลอดจนได้มาจากบริษัทใหม่ให้เป็นสีดำล้วน ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและสถานการณ์เฉพาะหน้าของแต่ละคน

ลองของใหม่

แม้เรื่องการย้ายค่ายจะเป็นสาเหตุสำคัญของการที่ต้องทำ หรือหาสตั๊ดสีดำล้วนมาใส่ แต่สำหรับนักเตะบางคนที่เปรียบเสมือนเป็นหน้าเป็นตาของแบรนด์แล้ว เราก็ยังเห็นภาพพวกเขาใส่สตั๊ดสีเรียบๆ ไม่มีลวดลายให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

ซึ่งหากจะพูดแบบง่ายๆ ก็คือ มันเป็น 'คำขอจากบริษัทผู้สนับสนุน' นั่นเอง

 3

อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนแรกว่า รองเท้าสตั๊ดนั้นมีรุ่นใหม่ออกมาทุกปี และในทุกการพัฒนา ย่อมต้องมีการทดสอบเพื่อหาจุดบกพร่อง รวมถึงขอความเห็นจากผู้ใช้งานจริงเพื่อให้ผลงานสุดท้ายออกมาดีที่สุด ซึ่งคงไม่มีใครที่จะให้คำตอบได้ดีไปกว่า นักฟุตบอลอาชีพ ที่ต้องใช้มันทำมาหาเงินในทุกๆ วันอยู่แล้ว

ด้วยเหตุดังกล่าว เราจึงได้เห็นนักเตะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าสตาร์ผู้เป็นหน้าเป็นตาให้กับแบรนด์ต่างๆ ทดลองสวมสตั๊ดรุ่นใหม่ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ด้วยเหตุที่ว่าเมื่อรองเท้าสตั๊ดมีโฉมใหม่ หลายสิ่งก็ได้รับการพัฒนา ซึ่งบางครั้งการแต่งเติมสีสันให้รองเท้า ได้กลายเป็นการบอกถึงจุดเด่นหรือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

 4

5

แน่นอน แต่ละแบรนด์ผู้ผลิตก็ต้องการให้การพัฒนาเป็นความลับที่สุด และนั่นทำให้พวกเขาต้องทำรองเท้าสตั๊ดเป็นสีดำล้วน เพื่ออำพรางสิ่งใหม่ต่างๆ บนตัวรองเท้าให้มากที่สุดด้วยเช่นกัน

สร้างนิสัยแข้งดาวรุ่ง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเหตุผลของการที่นักเตะต้องใส่รองเท้าสีดำล้วนอีก ทว่าเรื่องนี้ดูจะเกิดขึ้นกับนักเตะดาวรุ่งเสียเป็นส่วนมาก

 6

ทั้งนี้ก็เนื่องจาก บางสโมสรนั้นได้ออกกฎข้อบังคับที่ชัดเจนว่า นักเตะดาวรุ่งที่อยู่ในอะคาเดมีของสโมสร สามารถใส่ได้แค่รองเท้าสีดำเท่านั้น ห้ามใส่รองเท้าที่มีสีสันฉูดฉาดโดยเด็ดขาด เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้พวกเขาโฟกัสกับการฝึกซ้อม ลงสนาม พัฒนาฝีเท้าเป็นหลัก อย่าเพิ่งใส่ใจกับเรื่องแฟชั่นหรือสิ่งต่างๆ จากนอกสนามที่จะทำให้พวกเขาเสียสมาธิ

หนึ่งในสโมสรที่มีกฎเรื่องนี้อย่างชัดเจนคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในสมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นผู้จัดการทีม ซึ่ง จอห์น โอเช อดีตนักเตะปีศาจแดงเคยกล่าวไว้ว่า "เรื่องกฎสีสตั๊ดนั้นมีอยู่จริงในทีมเยาวชน พวกเขาต้องใส่สตั๊ดสีดำเท่านั้น เมื่อคุณขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หรือทีมสำรอง ก็จะได้รับอิสระในเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณใส่สตั๊ดสีแสบตาแล้วทำผลงานไม่ดีขึ้นมาล่ะก็ เขาจะปฏิบัติกับคุณแตกต่างจากคนอื่นๆ จนแทบทนไม่ไหวเลยล่ะ"

ทว่าการอำลาตำแหน่งของเซอร์อเล็กซ์ บวกกับแฟชั่นฟุตบอลยุคใหม่ที่เราเริ่มเห็นสตั๊ดสีดำบนท้องตลาดน้อยลงเรื่อยๆ ก็ส่งผลให้กฎอันเข้มงวดในอดีตค่อยๆ ผ่อนคลายลงแล้วในปัจจุบัน โดยนักเตะรุ่นเยาวชนของทีมปีศาจแดงในขณะนี้ จะต้องใส่สตั๊ดที่สปอนเซอร์ของสโมสรส่งมาให้ รุ่นเดียวกัน สีเดียวกันทุกคน กระทั่งขึ้นชุด U18 ก็จะได้รับอนุญาตให้เซ็นสัญญากับบริษัทรองเท้าอย่างอิสระ

 7

อย่างไรก็ตาม แม้แฟชั่นของวงการฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคแห่งสีสันและเทคโนโลยี จนเราแทบไม่เห็นรองเท้าสีดำเท่าไหร่นักแล้วในตอนนี้ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่สุดแล้ว สตั๊ดสีดำก็ยังเป็นสิ่งที่แฟนลูกหนังต่างจดจำได้ขึ้นใจไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงไหน

เพราะความคลาสสิก คือเสน่ห์ที่รองเท้าสีดำมอบให้ จนกลายเป็นมนต์ขลังเหนือกาลเวลานั่นเอง

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ สงสัยกันบ้างไหม : เหตุใดนักฟุตบอลถึงทำสตั๊ด "ดำล้วน-ปิดแบรนด์?"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook