วัฒนธรรมที่หยั่งรากลึก : "ซน ฮึง มิน" กับวิถีชีวิตที่ยังแต่งงานไม่ได้

ซน ฮึง มิน (Son Heung Min) คือหนึ่งในบุคคล จากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ในฐานะนักฟุตบอล ที่ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทีมระดับหัวแถวอย่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

ด้วยชื่อเสียง และเงินทองที่เขาได้รับ อาจบอกได้ว่า เขาสามารถมีทุกอย่าง เท่าที่ตัวเองต้องการ เขามีทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 25 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 927 ล้านบาท มีรถหรูคู่ใจ มีอะคาเดมีขนาดยักษ์ เป็นของตัวเอง ในประเทศบ้านเกิด

แต่ดูเหมือนจะมีสิ่งหนึ่ง ที่เขายังไม่สามารถมีได้ คือภรรยาแบบเป็นตัวเป็นตน เมื่อเขาได้รับคำสั่ง ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ คือการห้ามแต่งงาน จนกว่าเขาจะแขวนสตั๊ด เลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการ

 

Main Stand จะพาไปดูเรื่องราวและเหตุผล ที่ ยอดแข้งรายนี้ ไม่สามารถมีชีวิตคู่ ในฐานะนักฟุตบอล ผ่านเรื่องราวของครอบครัวซน และวัฒนธรรมที่ฝังลึก ในสังคมเกาหลีใต้

คุณพ่อสุดโหด

หนึ่งในบุคคล ที่มีส่วนสำคัญ กับการผลักดัน ซน ฮึง มิน จนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะแถวหน้าของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คือ ซน อึง จอง (Son Woong Jung) คุณพ่อบังเกิดเกล้า ของ ซน ฮึง มิน

 

อึง จอง เป็นอดีตนักฟุตบอล ที่ค้าแข้งในช่วงยุค 80’s ผ่านการค้าแข้งให้กับหลายสโมสร ในเกาหลีใต้ รวมถึงเคยติดทีมชาติ เกาหลีใต้ชุดบีอีกด้วย 

เมื่อเขาให้กำเนิดลูกชาย ซนผู้พ่อจึงตั้งตนเป็นอาจารย์คนแรก สอนวิชาฟุตบอล ให้กับลูกชาย ด้วยประสบการณ์ ในฐานะอดีตกองหน้า ควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมที่เข้มข้น ตามแบบฉบับเกาหลีใต้

“พ่อผมมีบททดสอบเยอะมาก” ซน ฮึง มิน กล่าว “เขาให้ผมเดาะบอล 4 ชั่วโมง ติดต่อกัน ห้ามตกพื้นเด็ดขาด ผมจำได้แม่นตอนเข้าสู่ชั่วโมงที่ 3 ผมเห็นลูกบอล เป็นสามลูก ผมเห็นพื้นเป็นสีแดง เพราะเลือดออกในดวงตา”

“ถ้าผมแสดงอาการเหนื่อยล้า ให้เขาเห็น เขาจะโกรธมากๆ เลย” ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันหนักแน่นว่า สามารถเดาะบอลต่อเนื่อง 4 ชั่วโมงโดยที่ไม่ตกพื้นได้จริงๆ

 

No Pain No Gain (ไม่เจ็บปวด ไม่เรียนรู้) เหมือนจะเป็นคติที่ ซน อึง จอง ใช้สอนลูกชายของตัวเอง ... ซน ฮึง มิน เปิดเผยกับ เดอะ การ์เดี้ยน (The Guardian) สำนักข่าวชื่อดังว่า คุณพ่อสอนตัวเขา เล่นฟุตบอลทันที นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มเดินได้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ซนผู้พ่อได้วางแผนในทุกย่างก้าวของชีวิต ให้กับซนผู้ลูก เพื่อให้เติบโต เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่ประสบความสำเร็จ

“ตอนผมอายุประมาณ 10 ถึง 12 ขวบ พ่อของผม มาสมัครเป็นโค้ชฟุตบอล ในโรงเรียนของผม” ซน ฮึง มิน เล่าอีกประสบการณ์ฟุตบอลกับคุณพ่อ “เราจะมีโปรแกรมซ้อม อยู่รูปแบบหนึ่ง คือให้ทุกคนในทีม เดาะบอลไว้ 40 นาที ห้ามหล่นลงมาเด็ดขาด”

“คุณรู้ไหม ถ้าเพื่อนผมทำบอลตก เขาไม่ว่าอะไรเลยนะ แต่ถ้าผมทำบอลตก เขาจะสั่งให้ทุกคน เริ่มเดาะบอลใหม่อีกครั้ง ย้อนไปในตอนนั้น มันไม่ง่ายเลย กับเรื่องแบบนี้”

“สำหรับผมเขาเป็นโค้ชที่เข้มงวดมาก น่ากลัวมากๆ ด้วยครับ”

เหตุผลที่ไม่อาจแต่งงาน

ตั้งแต่เล็กจนโต ซน อึง จอง ยังคงอยู่เคียงข้างลูกชาย เพื่ออบรมสั่งสอนไม่เคยขาด แม้ในวันที่ ซน ฮึง มิน ก้าวเป็นผู้เล่นระดับโลก ซนผู้พ่อเดินทางไปกลับ ระหว่างเกาหลีใต้ กับอังกฤษอยู่เสมอ เพื่อบอกกล่าวข้อกำชับ การเป็นนักฟุตบอลที่ดี ไม่ต่างจากในวันวาน

 

ท่ามกลางกฎระเบียบมากมาย ที่ซนผู้พ่อ วางไว้ให้ลูกชายปฏิบัติตาม มีกฎข้อหนึ่ง ที่ได้รับความสนใจจากสื่อฟุตบอลที่อังกฤษ หลังจากซนผู้ลูก ให้สัมภาษณ์ว่า พ่อสั่งห้ามเขาแต่งงาน จนกว่าจะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ

“ซน สามารถแต่งงานได้ทันที ตามที่เขาต้องการ หลังจากที่เขาเลิกเล่นฟุตบอล” ซน อึง จอง กล่าว “ผมเป็นคนบอกเขาเอง ให้ทำแบบนี้ ผมพูดชัดเจน ยื่นคำขาดเลย”

“ผมเห็นดาวรุ่งมากมาย ที่เคยมีฝีเท้าที่เก่งกาจ พอมีครอบครัว ผลงานก็ตกลง ไม่มีใครจดจำชื่อพวกเขาได้อีกต่อไป ประสบการณ์ที่ผมเห็นมา ผมนำไปวางแผนให้กับลูก การแต่งงานหลังจากเลิกเล่นฟุตบอล เป็นเรื่องที่เหมาะสม”

“ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อบอกผม” ซน ฮึง มิน กล่าวเสริม “ผมอาจจะเลิกเล่น ตอนอายุ 33 หรือ 34 ปี หลังจากนั้นค่อยมีครอบครัว ยังเหลือเวลาอีกเยอะ ที่ผมจะใช้เวลาในจุดนั้น”

อย่างไรก็ตาม ถึงปากของ ซน ฮึง มิน จะบอกว่าการไม่แต่งงาน ก่อนเลิกเล่นฟุตบอล เป็นสิ่งถูกต้อง แต่จากพฤติกรรมของเขา ดูสวนทางกับคำพูดอยู่ไม่น้อย

ย้อนไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2014 ซน ถูกสื่อเกาหลีใต้จับได้ว่า เขากำลังออกเดตกับ มินอา (Minah) ไอดอลสาวจากวง เกิร์ล เดย์ (Girl’s Day) 

และในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 เป็นอีกครั้งที่ซน ถูกเปิดเผยข่าวเดต กับอดีตไอดอล ของวง อาฟเตอร์ สคูล (After School) ยู โซ ยอง (Yoo So Young)

 

ทั้งสองครั้ง ที่ข่าวเดตถูกเปิดเผยออกมา ข่าวการเลิกรา ระหว่างซนกับแฟนสาว จะตามมาอย่างรวดเร็ว จนเคยถูกสื่อเกาหลีใต้ นำไปตีกระแสข่าวว่า ที่ซนต้องเลิกกับไอดอลสาวที่คบหากัน มาจากคำสั่งโดยตรง ของคุณพ่อ ซน อึง จอง

อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ซนต้องเลิกกับแฟน ต้นเหตุอาจไม่ได้มาจาก ซน อึง จอง เสียทีเดียว เพราะในวงการไอดอลเอง ข่าวการเดตที่หลุดออกมา ไม่ใช่เรื่องดีต่อศิลปินเท่าไหร่นัก

ถึงจะไม่ได้เป็นกฎต้องห้าม เหมือนกรณีไอดอลญี่ปุ่น แต่หากไอดอลถูกจับได้ว่าออกเดต ความนิยมของศิลปินอาจจะลดลงได้ ดังนั้นการออกข่าว ถึงการเลิกรากัน จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี สำหรับไอดอล ในการรักษาความนิยมเอาไว้ 

โดยเฉพาะ ในเคสของ ซน ฮึง มิน กับ มินอา ที่ไอดอลสาว กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เมื่อปี 2014 ทำให้ข่าวการเลิกราของทั้งสองคน ถูกปล่อยออกมา หลังจากข่าวเดตหลุดออกไป ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น

Do Your Job

ทุกพื้นที่ของโลกใบนี้ มีหลักแนวคิดทางปรัชญา เป็นพื้นฐานที่ฝังรากลึกยาวนาน ในการใช้ชีวิต ก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ในแต่ละพื้นที่ ทั้งทางการเมือง และสังคม

 

สำหรับสังคมเอเชียตะวันออก แนวคิดปรัชญาแบบขงจื๊อ มีบทบาทอย่างมาก ในการบ่มเพาะความคิด ของคนในประเทศ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 

หนึ่งในคำสอนของขงจื๊อ ที่ใช้บอกกล่าว การเป็น “บุคคล” ที่ดี คือการทำงานหนัก ทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ ด้วยความนอบน้อม ถ่อมตน 

การทำงานหนัก ทำหน้าที่ของตัวเอง ให้ดีที่สุด จึงฝังอยู่ในชุดความคิดของคนเกาหลีใต้ รวมถึง ซน อึง จอง เขาต้องการให้ลูกชายของเขา มุ่งมั่นกับการเป็นนักฟุตบอลให้มากที่สุด ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น รวมถึงการแต่งงานด้วยเช่นกัน

“ผมบอกเขาตลอดว่า นักบอลเก่งๆ มีเยอะแยะมากมาย เก่งแบบเมสซี่ เก่งแบบโรนัลโด้ เพียงแต่พวกเขาไม่มีโอกาส ดังนั้นในเมื่อเรามีโอกาส ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด” ซน อึง จอง กล่าว

ไม่ใช่แค่ซนผู้พ่อที่คิดแบบนั้น ซน ฮึง มิน เองก็มีความคิดที่เชื่อมั่น ในการทำงานหนักเช่นเดียวกัน แม้เขาจะจากวัฒนธรรมในบ้านเกิด มาอยู่ในสังคมยุโรปยาวนาน ถึง 11 ปี นับตั้งแต่ย้ายเข้าสู่อะคาเดมีของ ฮัมบูร์ก ในปี 2008 ตอนอายุเพียง 16 ปีแล้วก็ตาม

 

“ผมต้องการแน่ใจว่า ผมจะเล่นฟุตบอลในระดับสูงไปอีกนาน ดังนั้นผมให้ความสำคัญกับฟุตบอลมากที่สุด ผมไม่ดื่ม ผมไม่ออกไปปาร์ตี้ ผมแค่มุ่งมั่นเล่นฟุตบอลเท่านั้น ผมเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด กับการสร้างความสุขให้ตัวเอง และคนรอบข้าง”

“พ่อผมบอกเสมอว่า ต้องอ่อนน้อม กับทุกโอกาสที่เราได้รับ ผมเองก็รู้สึกแบบนั้น ผมขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา และมันทำให้ผมทำงานหนัก เพราะนี่คือสิ่งสำคัญกว่าเรื่องของความสามารถ” ซน ฮึง มิน เล่าถึงคำสอนของพ่อ

เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี ที่ ซน ฮึง มิน ปราศจากข่าวเดตกับหญิงสาวคนไหน เส้นทางฟุตบอลของเขา กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากการคว้าเหรียญทอง ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ และพาต้นสังกัดท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ รายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในปี 2019

ครอบครัวสำคัญที่สุด

อีกหนึ่งแนวคิด ของขงจื๊อ ที่มีความสำคัญ ต่อวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก คือความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ความรัก ความสัมพันธ์ ระหว่างคนในครอบครัว คือเรื่องที่สำคัญที่สุด มากกว่าสิ่งใดในโลกนี้ 

 

มีบทคำสอนของขงจื๊อ หนึ่งเรื่องที่กล่าวว่า “หากพ่อเป็นขโมย แล้วลูกไปแจ้งความจับพ่อ ถือเป็นเรื่องที่ผิด เพราะเป็นการกระทำ ที่ทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว” สะท้อนให้เห็นว่า ครอบครัวมีความสำคัญมากแค่ไหน ในความคิดของขงจื๊อ และชุดความคิดนี้ ถูกส่งต่อ เป็นรากฐานของคนในสังคมเกาหลีใต้

“ผมเป็นคนให้กำเนิดเขา ผมมีหน้าที่ต้องสอนเขา” ซนผู้พ่อเปิดใจกับสื่อในประเทศ “ผมไม่มีทางรู้เลยว่า เมื่อเขาเกิดมาเขาจะมีความสามารถติดตัวมาแค่ไหน ผมถึงต้องสอนเขา วางแผนชีวิตให้กับเขา”

“ผมตีลูกบ่อยมาก ตอนเขาเป็นเด็ก มันเป็นเรื่องจำเป็น ผมรู้ดีว่า คนยุโรปไม่มีทางเข้าใจความคิดแบบนี้”

กฎระเบียบ วินัยที่เคร่งครัด การลงโทษสุดโหด คือสิ่งที่ ซน ฮึง มิน พบเจอตลอดชีวิตวัยเด็ก แต่สิ่งเหล่านี้ คือเครื่องมือที่บ่มเพาะ ให้เขาเเข็งแกร่ง ในฐานะนักฟุตบอล จนทำให้เขากลายเป็นแข้งที่ดีที่สุด ของทวีปเอเชีย ในปัจจุบัน

“มันอาจจะยากในอดีต แต่ถ้าคิดจากมุมมองในปัจจุบัน มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเขา”

คุณพ่อของ ซน ฮึง มิน ไม่ได้มีอิทธิพล ต่อแข้งไก่เดือยทอง เฉพาะในแค่ในสนามฟุตบอล แต่เรื่องนอกสนามฟุตบอล เขาได้ซึมซับมาด้วยเช่นกัน บทบาทของพ่อที่ดี ซึ่งเขาได้เห็นจาก ซน อึง จอง ทำให้เขารู้ซึ้ง ถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว

“ถ้าคุณแต่งงาน ครอบครัวของคุณต้องสำคัญที่สุด ภรรยาและลูก สำคัญกว่าสิ่งไหน แน่นอนว่า ต้องสำคัญกว่าฟุตบอล”

“มันมีความคิดหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน ระหว่างคนเอเชียกับคนยุโรป หลายคนไม่เข้าใจว่า ทำไมผมต้องอยู่กับครอบครัวตลอด (ปัจจุบันซนอายุ 27 ปี ซึ่งเป็นวัยที่คนส่วนใหญ่ในยุโรปจะแยกจากพ่อแม่ ไปมีครอบครัวของตัวเองแล้ว)”

“ทำไมผมถึงมีวันนี้? เพราะครอบครัวทุ่มเทให้กับผม พวกเขาเสียสละอะไรเยอะแยะมากมาย ถึงเวลาที่ผมต้องตอบแทนพวกเขา”

 

ความรักอาจเป็นเรื่องที่ห้ามได้ยาก แต่บางครั้ง เราต้องยอมเสียสละบางสิ่ง เพื่อเป้าหมายในชีวิตที่สำคัญกว่า

สำหรับ ซน ฮึง มิน การมีคู่ชีวิตเป็นตัวเป็นตน เป็นสิ่งที่เขาต้องรอต่อไป โดยไม่รู้จะมาถึงตอนไหน ตราบใดที่เขายังหวดลูกหนังบนผืนหญ้าอยู่ ตามคำบอกกล่าวของคุณพ่อ และความเชื่อของเขา 

แต่หากมองถึงชีวิต ของแข้งชาวเกาหลีใต้ รายนี้ เขายังดูมีความสุขดี ต่อให้ไม่มีคู่ชีวิตข้างกาย เพราะเขามีความรักจากครอบครัว คอยอยู่เคียงข้าง เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา ตลอด 27 ปี