ยกเหล็กยุวชนโลก เส้นทางเด็กไทยสู่อลป.
แดง ตานี
ถือเป็นสมาคมกีฬาที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงการกีฬาเมืองไทย สำหรับสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ เจ๊บุษบุษบา ยอดบางเตย เพราะนับตั้งแต่สร้างปรากฏการณ์ยกน้ำหนักไทยคว้า 2 ทอง 2 ทองแดง ในโอลิมปิก 2004 ที่ประเทศกรีซ
รวมถึง 1 เหรียญทอง ในโอลิมปิก 2008 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อใด สมาคมยกน้ำหนักขยับหรือส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันรายการระดับไหน จะถูกจับตามองเสมอ
เช่นเดียวกับ ศึกอีแกทยกน้ำหนักยุวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 19-24 พ.ค.นี้ ที่จ.เชียงใหม่ แม้จะเป็นเพียงรายการระดับยุวชนโลก แถมเพิ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก
แต่มันก็มีความหมายที่จะมองข้ามไม่ได้อย่างเด็ดขาด
อย่าลืมว่า การแข่งขันรายการนี้ที่เชียงใหม่มันมีความหมายถึงเส้นทางของทัพนักกีฬาไทยกับผลงานในช่วงการแข่งขันยกน้ำหนักในกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 ในปี 2010 ที่ประเทศสิงคโปร์
การตัดสินใจส่งจอมพลังทั้งชายและหญิงของไทยรวม 19 ชีวิต(ชาย 10-หญิง 9) จึงมีความหมายอย่างยิ่ง
ไม่เพียงแค่การลุ้นโควตาในการเดินทางแข่งขัน ยูธโอลิมปิก 2010 เท่านั้น
แต่มันยังหมายถึงศักดิ์ศรี และหน้าตาของประเทศไทยเช่นกัน
ดังนั้น ถึงแม้ เจ๊บุษ จะไม่ตั้งเป้ากับจอมพลังทั้งชายและหญิงไทย ว่าจะต้องคว้า เหรียญทอง ได้หรือไม่ก็ตาม
โดยขอไปลุ้นโควตาในส่วนของสิทธิ์ที่จะได้ส่งนักกีฬาไปชิงชัยในยูธโอลิมปิก 4 ที่นั่งแทนก็ตาม
แต่ลึกๆ เชื่อเถอะว่า ยังไงงานนี้สมาคมยกน้ำหนักฯ ก็คาดหวังถึง เหรียญทอง ไม่น้อยไปกว่าโควตาที่ตั้งเป้าเอาไว้
เพียงแต่เบี่ยงเบนความรู้สึก ไม่ให้นักกีฬากดดันเท่านั้นเอง!!
ทั้งๆ ที่ใจจริงเป็นเจ้าภาพทั้งทีจะไม่มีเหรียญทองติดไม้ติดมือเลยก็ใช่ที่...
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การแข่งขันครั้งนี้ผลงานของจอมพลังไทยจะออกมาตามเป้าหรือไม่ แต่อย่างน้อยนี่คือเวทีสำคัญระดับโลกที่คนไทยและนักกีฬาไทยจะได้สัมผัส
และที่สำคัญมันคือเส้นทางของจอมพลังไทยที่จะก้าวไปสู่เวทีโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต