เงินที่มากไปและใจที่ไม่มากพอสำหรับ "เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว" และ "คาร์ลอส เตเวซ"

คาร์ลอส เตเวซ ค้าแข้งที่จีนเพียงแค่ 7 เดือน แต่เขาทำเงินมากกว่านักฟุตบอลอาชีพอีกครึ่งค่อนโลกที่ค้าแข้งมาตลอดชีวิต
ทว่าด้วยค่าตอบแทนที่มากมายมหาศาล และการได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ของสโมสร ทำไมเขาจึงทำแสบกับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ทีมที่ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ค่าเหนื่อยสูงที่สุดในโลกได้?
สร้างจีนให้เป็นหนึ่ง
ทุกสังคมล้วนมีกฎที่ทุกคนต้องเคารพ ไม่มีใครสูงศักดิ์และต่ำต้อยกว่าใคร... นี่คือโลกในอุดมคติของใครหลายคน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจไว้เสมอนั่นคือ การยอมรับว่าสิ่งที่อยู่ในโลกอุดมคตินั้นไม่ได้เป็นจริงอย่างหวัง และความเท่าเทียมคือสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะในบางประเทศ
ปี 2009 สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของประเทศจีน ได้ประกาศถึงความปรารถนาของของเขาที่อยากจะทำให้จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจในด้านฟุตบอล ซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ด้วยการผลักดันของภาครัฐทำให้เกิดความตื่นตัวครั้งใหญ่กับฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอย่าง ไชนีส ซูเปอร์ลีก อย่างจัง เพราะนักเตะฝีเท้าดี ดีกรีหนัก ระดับหัวถึงกลางแถวของยุโรปและอเมริกาใต้ ต่างพาเหรดกันเข้ามาโกยเงินหยวนทั้งจากค่าตัวและค่าเหนื่อยที่มากกว่าที่เคยได้รับตอนที่เล่นให้กับสโมสรเก่าถึง 2-3 เท่า
ถามว่าเหตุใดทีมในจีนถึงสามารถประเคนค่าเหนื่อยมากกว่าเดิมถึงขนาดนั้นได้? คำตอบก็มาจากความปรารถนาของท่านประธานาธิบดีนั่นแหละ เพราะลองให้ผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศพูดออกมาแบบนี้ บริษัท ห้างร้านต่างๆ ก็ต้องพร้อมสนองนโยบาย เพื่อที่มันจะได้เป็นใบเบิกทางสู่ความสะดวกในการดำเนินธุรกิจต่างๆ ด้วย มหาเศรษฐีชาวจีนมากมายจึงพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ไม่เพียงเท่านั้น การเข้ามาของนักเตะต่างชาติฝีเท้าดี ยังส่งผลให้ชื่อเสียงของลีกจีนเติบโตแบบก้าวกระโดด กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ หนึ่งในมหาอำนาจลูกหนังของประเทศสามารถทะยานถึงตำแหน่งแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จในปี 2013 และ 2015 ทำให้ทีมอื่นๆ ก็ต้องทุ่มซื้อนักเตะ ประเคนค่าเหนื่อยแข่งกัน ปัญหาเงินๆ ทองๆ มันน้อยกว่าการที่ทีมจะไม่มีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เยอะ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของดีลการนำเอา คาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงชาว อาร์เจนติน่า เข้ามาอยู่กับทีมเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในปลายปี 2016
ดีลครั้งนี้เป็นการนำพาเข้ามาของบริษัทที่บริหารสโมสร "ดอกไม้แห่งเซี่ยงไฮ้" ที่ชื่อว่า "กรีนแลนด์ กรุ๊ป" พวกเขาจัดการให้เสร็จสรรพปิดดีลนี้อย่างง่ายดายหลังมีข่าวแค่ไม่กี่วัน ค่าตัวอาจจะไม่มีการเปิดเผย แต่ค่าเหนื่อยที่หลายสื่อไปสืบมาได้นี่สิ พูดได้คำเดียวว่า "มหาศาล" เพราะมีรายงานว่าเขาได้ค่าเหนื่อยปีละ 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือหากคิดเป็นค่าเหนื่อยก็มากถึง 634,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์โดยประมาณ
กรีนแลนด์ กรุ๊ป และ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว หวังอะไรจากเขาบ้างคงไม่ต้องสงสัย มีการเปิดเผยเงื่อนไขสัญญาทื่ เตเวซ เซ็นกับทีม และพบว่า มีเงินมหาศาลซ่อนอยู่ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้อีก เช่น รับเงินเพิ่มอีก 788,000 ปอนด์ หากลงเล่นตัวจริงเกิน 70% ตลอดทั้งฤดูกาล, รับ 1.56 ล้านปอนด์ หากนำทีมคว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก, รับ 788,000 ปอนด์ หากนำทีมคว้าแชมป์ ”ไชนีส ซูเปอร์ ลีก”, รับอีก 390,000 ปอนด์ หากคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศ และรับ 390,000 ปอนด์ หากเป็นดาวซัลโวของสโมสร
ทุกคนเข้าใจดี แม้ว่ามันจะเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่การลงทุนครั้งนี้คือการซื้อคุณภาพและประสบการณ์ของนักเตะที่ผ่านเกมระดับสูงมาอย่างโชกโชน ดังนั้นต่อให้แพงก็ต้องทำเพราะ เตเวซ พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว แต่ปัญหาใหญ่คือพวกเขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เตเวซ จะทำตัวได้คุ้มค่ากับสิ่งที่ทีมต้องจ่ายไปบ้าง?
พลเมืองชั้นหนึ่ง
เตเวซ ไม่ใช่นักเตะต่างชาติคนแรกของทีมแต่อย่างใด ที่เสิ่นหัว มีนักเตะต่างชาติและเป็นชาวอเมริกาใต้ที่อยู่ก่อนหน้าอย่าง เฟร็ดดี้ กัวริน และ โจวานนี่ โมเรโน่ (โคลอมเบีย) ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้ทำตัวเป็นปัญหาแต่อย่างใด พวกเขาลงสนามในแบบของมืออาชีพและทำผลงานในสนามได้ดีเสมอ ดังนั้นทาง เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ก็มั่นใจอยู่ในระดับหนึ่งว่าพวกเขาสามารถดูแลเหล่าสตาร์จากอเมริกาใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจได้ดีพอสมควร
การทำให้นักเตะเหล่านี้อยู่ในร่องในรอยนั้น สโมสรในลีกจีน "ส่วนใหญ่" จะเน้นไปที่การให้บริการระดับพิเศษ VIP กับผู้เล่นเหล่านี้สโมสรจะหาทุกอย่างที่พวกเขาอยากได้ ดูแลอย่างดีทั้งตัวนักเตะและผู้ติดตามเพื่อหวังในสิ่งเดียวคือ "คุณจงเต็มที่ในการเล่นแค่นั้นพอ"
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ เตเวซ สามารถพาผู้ติดตามมาจากกรุง บัวโนสไอเรส มาอยู่ที่จีนด้วยถึง 20 คน (ไม่รวมครอบครัว) แน่นอนว่าทุกคนได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สโมสรยอมทุกอย่าง เพราะอยากให้เขาปรับตัวกับชีวิตการเป็นอยู่ในเซี่ยงไฮ้ได้ อยากกินอะไรบอก อยากทำธุระอะไรแจ้ง และขาดเหลืออะไรสั่งมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ... นี่คือชีวิตที่ใครก็ต้องอิจฉา แต่กลับยากเกินไปสำหรับคนอย่าง เตเวซ สิ่งที่ใกล้ตัวเขาที่สุดอย่าง "อาหาร" ก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขากระอักกระอ่วนมากที่สุดเช่นกัน เรียกได้ว่าเรื่องการปรับตัวและความพยายามมันเจ๊งตั้งแต่ต้นสำหรับเขา
"เตเวซ ลองพยายามดิ้นรนดูแล้ว แต่อาหารจีนคือสิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ทรมานแบบสุดๆ เราต้องพยายามหา บาร์บีคิว มาทำกินกันเอง ส่วนเมนูอาหารจีนเราแค่ต้องโยนมันทิ้งไปให้พ้นๆ หน้าเลย" กัส โปเยต์ กุนซือชาว อุรุกวัย ที่ย้ายมาคุมทีมเสิ่นหัวพร้อมๆ กับ เตเวซ ประสบปัญหาในเรื่องเดียวกันนั่นคือการปรับตัว
ตัวกุนซือแม้จะพยายามสู้ แต่ เตเวซ เองนั้นมีความพยายามในการปรับตัวน้อยมาก เพราะทุกอย่างมันง่ายสำหรับเขา เขามีเงินในกระเป๋าเป็นฟ่อนๆ แถมยังได้รับมันทุกๆ สัปดาห์ นั่นยิ่งทำให้แรงจูงใจในการ "พยายาม" น้อยลงไปอีก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร มีหลายคนกังวลไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทางเสิ่นหัวจะเสียเงินเปล่าเพราะ เตเวซ
ปูมหลังที่ต่างกันเกินไป
ทุกคนคงทราบว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มันยากที่คนต่างถิ่นจะพยายามทำตัวให้เคยชินเป็นปกติได้ แต่มันก็ไม่ยากมากเกินไปมิใช่หรือ? นักเตะอย่าง ดาริโอ กอนก้า, เปาลินโญ่ หรือแม้แต่ ริคาร์โด้ กูลาร์ท ก็เป็นชาวอเมริกาใต้ที่สามารถทำผลงานได้ดีและไม่มีเรื่องเสียๆ หายๆ นอกสนาม แต่สำหรับ เตเวซ ทำไมล่ะเขาจึงทำแบบนั้นบ้างไม่ได้
"การมาถึงของ เตเวซ คือสิ่งที่สื่อและแฟนบอลตั้งความคาดหวังเอาไว้มาก หลักๆ ก็คือเรื่องค่าเหนื่อยแพงระยับและชื่อเสียงที่ติดตัว" ไมเคิล เชิร์ช นักข่าวชาวฮ่องกงที่คลุกวงในฟุตบอลเอเชียมากกว่า 20 ปีกล่าวกับสื่อใหญ่อย่าง Bleacher Report
"เตเวซ คือนักเตะโปรไฟล์ดีที่สุดเท่าดีที่ลีกจีนมี เรื่องความสามารถไม่ต้องสงสัย แต่อีกสาเหตุที่ทำให้เขาโด่งดังคือ ปัญหาที่สร้างขึ้นกับต้นสังกัดเดิม อันที่จริงพวกเราหวังให้เขายิงระเบิดกระจุยกระจาย แต่ระเบิดที่เขาสร้างไว้ไม่เป็นผลดีกับวงการฟุตบอลจีนเลย"
ย้อนความกันไปสัก 10 ปี เตเวซ นั้นก็ไม่ใช่ผู้เล่นที่ควบคุมง่ายอยู่แล้ว เขาเคยแยกทางกับ โครินเธียนส์ ก่อนกำหนดจากการไม่เคารพสัญญา จากนั้นต่อมาเขาเคยหนีออกจากแคมป์ฝึกซ้อมของ แมนฯ ซิตี้ กลับไปอาร์เจนติน่า เป็นเวลาถึง 2 เดือนโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ในปี 2015 เขาก็เคยเป็นที่ไม่ถูกใจของแฟนบอล โบค่า จูเนียร์ส เพราะตอนที่ย้ายออกมาจาก ยูเวนตุส เขาเคยบอกว่าเงินไม่สามารถซื้อความสุขของเขาได้จึงย้ายกลับมาเล่นที่ โบค่า ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ย้ายไปเล่นที่ลีกจีนด้วยการเป็นนักเตะค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก
"แฟนๆ ของ โบค่า รู้สึกว่านั่นคือการหลอกลวง จริงๆ เขาเคยบอกว่าตัวเองทำเงินได้มากพอแล้ว และจากนี้เรื่องเงินไม่จำเป็น สุดท้ายเขาก็ไปอยู่จีนและทำเงินเป็นล้านๆ ดอลลาร์ นั่นคือเหตุผลที่แฟนของ โบคา เดือดดาล เตเวซ เดินเข้าประตูหน้าและเดินออกจากสโมสรทางประตูหลัง" บุสโต มิญ่า นักข่าวชาวอาร์เจนไตน์จากสำนักข่าว นาซิยง เล่าถึงเรื่องเก่าๆ ของ เตเวซ
เรื่องนี้มันมีที่มา เตเวซ นั้นเป็นคนที่ควบคุมยาก เพราะเกิดจากหลากหลายสิ่งหลอมรวมกัน เขามาจาก ฟูเอเต้ อาเปเช่ ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่ยากจนที่สุดของ บัวโนสไอเรส เขาไม่เคยได้เรียนหนังสือและภูมิหลังที่ย่ำแย่ ดังนั้นเรื่องวุฒิภาวะของเขาจึงมีไม่มากพอ เด็กจากสลัมอย่างเขาแก้ปัญหาเรื่องความประพฤติด้วยการยิงประตูและรอยยิ้ม ดังนั้นจึงทำให้ พฤติกรรมของเขาได้รับการยกโทษเสมอสมัยที่เล่นในอาร์เจนติน่า เขาเป็นเหมือนภาพสะท้อนของชนชั้นกลางค่อนไปทางล่างของประเทศ หัวแข็ง, ใจสู้ และมีความเป็นศิลปิน
"เตเวซ เป็นคนที่มีเสน่ห์ในตัวสูงมาก เมื่อเขายิงได้เขาจะเต้นรำ และมีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ เขาจะเป็นคนในแบบตรงกันข้ามกับ ลิโอเนล เมสซี่ อย่างชัดเจนเลย" มิญ่า กล่าวเสริม
"ตอนเขาขึ้นมาเป็นดาวรุ่งมีหลายคนถกเถียงถึงพฤติกรรมของเขา เขาไม่ยอมเรียนหนังสือ เขาเป็นคนหุนหันพลันแล่นและชอบมีปากเสียงกับโค้ช แต่สุดท้ายความสามารถของเขาเองนั่นแหละที่ตอบโจทย์ทั้งหมด เขาเชื่อว่าตัวเองสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ด้วยรอยยิ้มและเรื่องตลก นั่นล่ะคนอย่างเขา"
สุดท้ายแล้วเมื่อคนที่มีความหุนหันพลันแล่นและมีอารมณ์ศิลปินอย่าง เตเวซ ไม่ถูกใจอะไรขึ้นมา มันทำให้เขาเสียหลักง่ายกว่าคนปกติเป็นอย่างมาก และสิ่งที่เขาเจอในเมืองจีนมันทำให้ตัวของ เตเวซ นั้นหมดความตั้งใจที่จะเล่นฟุตบอลไปเลย
สวนทางความคาดหวัง
ทุกอย่างในการเริ่มต้นที่จีนผิดพลาดไปหมด และ เตเวซ ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความน่าผิดหวังในตัวเขาทีละนิดๆ สะท้อนผ่านผลงานของทีม
ในปี 2016 เสิ่นหัว สามารถทำอันดับผ่านเข้าไปเล่นรอบเพลย์ออฟฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ จนกระทั่งในปี 2017 กรีนแลนด์ กรุ๊ป นำพานักเตะอย่าง เตเวซ และ โค้ชใหม่อย่าง โปเยต์ มา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ผลงานนั้นแย่ลงทันทีแบบไม่น่าเชื่อ เพราะเกมแรกที่ลงสนามในศึกสโมสรชิงแชมป์เอเชียรอบเพลย์ออฟ เสิ่นหัว ก็แพ้ ไม่ได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มแล้ว
นอกจากจะผลงานของทีมจะไม่ดีแล้ว เตเวซ ยังออกลายเดิม เพราะหลังจากยิงประตูแรกให้ทีมในเกมเอาชนะ เจียงซู ซูหนิง ได้ เขากลับหายไปจากรายชื่อผู้เล่นของทีมถึง 2 นัด ซึ่งหลังจากไถ่ถามคนภายในสโมสรก็มีการยืนยันว่า เตเวซ ไม่พร้อมลงเล่นเพราะอาการบาดเจ็บ ... และเหตุผลนี้นำพาให้ดราม่าเกิด
หลังจากการให้ข่าวว่า เตเวซ เจ็บไม่กี่วัน สื่อจีนก็มีข่าวพาดหัวให้เล่นจนได้ พวกเขาได้ภาพถ่ายของ เตเวซ ที่พาครอบครัวไปเที่ยวใน ดิสนี่ย์แลนด์ ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเรื่องมันดราม่าเพราะมันเกิดขึ้นพร้อมๆ กับที่เพื่อนร่วมทีมของเขาช่วยกันสู้เพื่อเอาชนะทีม ฉางชุน ยาไถ
"จริงอยู่ที่เขาอาจจะบาดเจ็บตามข่าวว่า แต่หน้าที่ของเขาคืออะไร?" ไมเคิล เชิร์ซ กล่าวเริ่ม
"เขาเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงยังออกไปสนุกกับครอบครัวของเขาอยู่? เขาได้รับเงินเดือนมหาศาลและใครก็รู้ว่าสิ่งที่เขาควรทำคือการพักรักษาตัว รักษาความฟิตให้พร้อมตามที่ทีมคาดหวังไว้"
เชิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวสายวงใน ก็ต่อสายไปถึงผู้เล่นในทีม เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว พวกเขาคิดอย่างไรกับชายชื่อ คาร์ลอส เตเวซ ซึ่งคำตอบที่ตอบตรงกันหลายคนคือ "ไม่ชอบขี้หน้า"
"ผมได้คุยกับหลายคนในสโมสร และผมแทบไม่ต้องถามอะไรเลย แค่เอ่ยชื่อ เตเวซ ทุกคนก็หัวร้อนแล้ว พวกเขาโกรธมากที่ เตเวซ ทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ทำอะไรไม่จริงจัง และไม่เคยสนใจทีมเลยแม้แต่นิดเดียว" เชิร์ช ทิ้งท้าย
แม้หลายสื่อจะพร้อมใจกันเล่นประเด็นนี้ แต่สุดท้าย เตเวซ ก็ตอบกลับประมาณว่า แล้วไงใครแคร์? เขาไม่ตอบโต้ในตอนที่อยู่จีน แต่ทำในสิ่งที่แสบกว่านั่นคือการขอทีมไปพักรักษาตัวที่ อาร์เจนติน่า บ้านเกิดสักเดือนสองเดือน ... และทุกคนจงอย่าลืมว่าเขาไม่ได้ผ่าตัดใหญ่หรืออะไรทั้งนั้น เขายังเดินเล่นที่ดิสนี่ย์แลนด์ได้เป็นวันๆ อยู่เลย ดังนั้นการลากลับบ้านแบบนี้ยิ่งตอกย้ำถึงการไม่เคารพและคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าสโมสรอีกด้วย
หม่า เต๊ะ ซิง รองบรรณาธิการของ ไททัน สปอร์ตส์ บอกเล่าเรื่องราวในตอนนั้นว่า หลายคนรู้แล้วว่า เตเวซ นั้นหมดใจไปเรียบร้อย และ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว เตรียมตัวขาดทุนรอได้เลย
"ในระหว่างที่ เตเวซ อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ เขาพยายามหาข้อแก้ตัวมากมายที่จะกลับไปยังอาร์เจนติน่า ผมรู้ทันทีเขาไม่มีความสุขในการเล่นให้กับ เสิ่นหัว แล้ว ชัดเจนมากว่าที่เขามาที่นี่น่ะเงินล้วนๆ เลย"
จบลงแบบตั้งใจ
แม้จะสร้างปัญหาอยู่บ่อยๆ กับหลายสโมสร แต่ไม่มีที่ไหนเลยที่ เตเวซ สร้างปัญหาให้กับต้นสังกัดได้มากกว่าที่ เสิ่นหัว อีกแล้ว ในช่วงที่เขาหนีกลับไปที่ อาร์เจนติน่า ปากของเขาก็ไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะหลังจากที่เขาถูกสโมสรตำหนิว่าไร้ความมุ่งมั่นและทำตัวไม่มีความเป็นมืออาชีพจนน้ำหนักตัวอ้วนฉุเกินกำหนดและผลงานไม่เอาอ่าว ประโยคข้างต้นทำให้ เตเวซ ฉุนขาดและตอบโต้อย่างร้อนแรงถึงฟุตบอลจีนทั้งระบบ
"นักเตะชาวจีนไม่ได้มีทักษะเหมือนกับนักฟุตบอลอเมริกาใต้ หรือยุโรป พวกเขาเหมือนเด็กที่เรียนรู้ฟุตบอล พวกเขายังไม่ดีพอ แม้ในอีก 50 ปี พวกเขาก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับชาติชั้นนำได้" เตเวซ สวนกลับแบบชุดใหญ่ ซึ่งเขาแสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่กลัวใครเลยในสโมสรนี้
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมการเล่นที่จีนจึงทำให้ เตเวซ หลุดวงโคจรได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องที่เขาได้รับสิทธิพิเศษที่มากเกินไป และทัศนคติส่วนตัวของเขาที่ติดลบลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมา
"ฟุตบอลจีนมีความแตกต่างกับฟุตบอลในยุโรป ที่นี่อิทธิพลของแฟนๆ มีผลกับการตัดสินใจของสโมสรน้อยมาก เรื่องของ เตเวซ เนี่ยแฟนบอลไม่ได้หลับหูหลับตาอวยเขาอย่างเดียวแบบที่ใครเข้าใจ พวกเขาเองก็โกรธมาก แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จ่ายเงินให้ เตเวซ ก็คือสโมสรอยู่ดี" หม่า เต๊ะ ซิง พูดถึงกับการเอาใจนักเตะแบบสองมาตรฐานที่ทำให้ปัญหาลุกลาม และสุดท้าย เตเวซ ก็ยุติสัญญากับเสิ่นหัว และกลับไปเล่นให้กับ โบค่า จูเนียร์ส เป็นหนที่ 3 ในชีวิตค้าแข้งของเขา
เมื่อกลับไปถึง อาร์เจนติน่า นั้นก็ได้เวลาที่ เตเวซ จะพูดถึงสิ่งที่เขาคิดและมีต่อฟุตบอลจีนแบบไม่มีกั๊ก เขาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรเลยกับช่วงเวลา 7 เดือนที่เซี่ยงไฮ้ อย่างน้อยๆ เขาจะคิดเสียว่าเป็นช่วงหยุดพักผ่อนที่อยู่เฉยๆ แล้วได้เงินเท่านั้นเอง
"ค่อนข้างสบายทีเดียวเพราะเหมือนผมไปพักร้อนเป็นเวลา 7 เดือนด้วยกัน" เตเวซ ยิ้มให้สัมภาษณ์ "ตอนที่ผมแลนดิ้งถึงเมืองจีน ผมอยากกลับ โบคา มากเลย และเป็นเรื่องปกติที่โค้ชของ เซี่ยงไฮ้ กับประธานจะวิจารณ์ผมซึ่งเอาจริงๆ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมต้องทำอะไรบ้าง"
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาแค่ 7 เดือน ไม่มีนักเตะต่างชาติคนไหนจะแสบและไร้ความรับผิดชอบเท่ากับ เตเวซ อีกแล้ว จริงอยู่เขาอาจจะบอกว่าตัวของเขานั้นได้รับค่าตอบแทนมากมาย แต่ท้ายที่สุดแล้วหากเขาถูกเรียกว่านักเตะที่เอาตัวไม่รอดในลีกจีน เขาจะยังภูมิใจอยู่หรือไม่? ความแตกต่างของนักเตะและวัฒนธรรมรวมถึงการทุ่มซื้อโดยไม่ศึกษาให้ดีก่อนคือบ่อเกิดของเรื่องนี้ และจะเป็นบทเรียนที่ฟุตบอลจีนต้องจดจำไว้ให้ดี
หนึ่งปีให้หลังของการแยกทาง CFA (สมาคมฟุตบอลจีน) ต้องออกแถลงการณ์ดูแลเรื่องการซื้อตัวนักเตะอย่างเข้มงวด โดยหากมีการซื้อนักเตะต่างชาติ จะต้องจ่ายเงินจำนวนเท่ากับค่าตัวให้กับกองทุนพัฒนานักเตะเยาวชนของจีน (สมมติว่าซื้อนักเตะค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ก็ต้องจ่ายภาษีอีก 20 ล้านปอนด์) โดยเงินจากค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะใช้เพื่อพัฒนานักเตะเยาวชน สนับสนุนฟุตบอลระดับรากหญ้าและการกุศล
ไม่มีใครทราบว่าดีลของ เตเวซ กับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว เป็นต้นกำเนิดของกฎหมายข้อนี้หรือไม่ เพราะหากมองที่ภาพรวมก็จะเห็นว่า ทีมในลีกจีนต่างใช้เงินซื้อตัวนักเตะชนิดมือเติบจนรัฐบาลกลางกลัวว่า นักเตะท้องถิ่นจะไม่ได้รับโอกาสแจ้งเกิด แต่อย่างน้อยการเพิ่มภาษีแบบมหาโหดนี้จะทำให้หลายๆ ทีมที่คิดจะทุ่มซื้อนักเตะชื่อดังต้องกลับไปคิดให้รอบด้านว่าดีลจะตอบแทนด้วยความคุ้มค่าหรือไม่
และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องของ เตเวซ จะทำให้พวกเขาต้องคิดให้หนักๆ อย่างแน่นอน
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ