พิสูจน์ว่าไร้ปัญหา...?

สิ่งที่ตามมาหลังโปรแกรมทีมชาติ ทีมใหญ่ๆทั้งหลายมักจะได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าอยู่ที่ว่ามากน้อยแค่ไหน ระวังไว้ให้ดีครับกับผลกระทบดังกล่าวอาจจะได้เห็นบางคนเกิดอาการช๊อตไปดื้อๆก็ได้ ส่วนปัญหาที่ต้องเจอแน่นอนคือต้นสังกัดที่มีนักเตะกลับมาจากทีมชาติแล้วพกอาการบาดเจ็บติดตัวมาด้วย

หนีไม่ออกอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ เป็นเรื่องของโชคร้ายมากกว่า คงไม่ต้องไปโอดครวญอะไรเอาเวลาไปแก้ปัญหาดังกล่าวดีกว่า

รอย ฮอดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษแก้ปัญหาเรื่องศูนย์หน้าที่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ บาดเจ็บผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว คิวต่อไป เบรนแดน รอดเจอร์ส ต้องรับช่วงต่อ

เดี้ยงในทีมชาติ กรรมตกมาที่สโมสรทันที

อาการบาดเจ็บของ สเตอร์ริดจ์ จากการไปร่วมงานกับทีมชาติเกิดขึ้นบ่อยๆจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา ทว่าคราวนี้แตกต่างออกไปในส่วนของ รอดเจอร์ส หลายคนกำลังรอการพิสูจน์อยู่ว่า ซัมเมอร์ที่ผ่านมาซื้อนักเตะเยอะเพื่อการโรเตชั่นและทดแทนกรณีที่มีนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน

ประมาณว่ามีขุมกำลังที่ใหญ่ขึ้นเพื่อโอกาสที่มากขึ้นในจำนวนเกมที่ต้องลงทำศึก เผื่อเหลือเผื่อขาด เตรียมความพร้อมไว้แทบจะทุกตำแหน่ง นี่คือช่วงเวลาที่รอการพิสูจน์ว่าสามารถรับมือกับเรื่องราวดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

มาริโอ บาโลเตลลี่ รออยู่แล้ว ทว่า รอดเจอร์ส จะทำอย่างไรกับการขาดหายไปของ สเตอร์ริดจ์ คิดแบบง่ายๆไม่ต้องเปลืองสมองจัด ริคกี้ แลมเบิร์ต ลงไปจบทันที

ง่ายจริงๆครับ แค่ปล่อยตัวทดแทนโดยตรงลงไป แลมเบิร์ต ไม่ใช่ประเภทที่หวือหวาหรือมีความเร็วที่เหมาะสมกับเกมหลักของหงส์แดงเหมือน สเตอร์ริดจ์ ทว่า รอดเจอร์ส อาจจะมองประโยชน์ที่จะได้คือการช่วยดึงตัวประกบเพื่อเปิดให้ บาโลเตลลี่ มีทางเลือก มีช่องมากขึ้น

คูตินโญ่, ลัลลาน่า และ สเตอร์ลิ่ง น่าจะงานชุกกว่าเดิม

เรื่องที่คาดเดากันต่อไปและมีความเป็นไปได้มากก็คือกุนซือลิเวอร์พูลเติมตัวรุกอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่,อดัม ลัลลาน่า และ ลาซาร์ มาร์โควิช ลงไปทำงาน

บาโลเตลลี่ ต้องการตัวรายล้อมที่สามารถเซ็ตบอล สร้างโอกาสเพื่อการปิดฉาก ชื่อที่ว่ามาอาจจะเหมาะสมกว่า ถ้า รอดเจอร์ส มองว่า แลมเบิร์ต ช่วยดึงตัวประกบไม่พอต่อความต้องการ

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่งตัวรออยู่แล้ว ลาซาร์ มาร์โควิช พร้อมเช่นกัน ทว่ากรณีของ อดัม ลัลลาน่า ไม่แน่ใจว่าความฟิตเต็มร้อยหรือยัง

หากกุนซือหงส์แดงคิดใช้งานพวกมิดฟิลด์ตัวรุกเพิ่มขึ้น ประเด็นต่อไปก็คือยืนตำแหน่งกันอย่างไร จริงๆไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะพวกตัวรุกเหล่านั้นเล่นในตำแหน่งที่ค่อนข้างหลากหลาย

ลงพร้อมกันเลยป่ะ?

มีโอกาสที่จะได้เห็นเช่นกันว่าจัด ราฮีม สเตอร์ลิ่ง วิ่งคู่ บาโลเตลลี่ ในแดนหน้าไปเลย โดยให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังอย่างใกล้ชิด

รูปแบบการจัดตัวที่อาจจะได้เห็นอีกอย่างหนึ่งก็คือด้านหน้า 3 คน ลุยให้บ้ากันไปข้างหนึ่ง โดย มาริโอ บาโลเตลลี่ อยู่ตรงกลาง ฝั่งขวา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ประจำการ ส่วนทางซ้าย คูตินโญ่หรืออดัม ลัลลาน่า

มีตัวเลือกที่หลากหลายและใกล้เคียงกันมันดีแบบนี้ นี่คือเหตุผลที่ รอดเจอร์ส ต้องการขุมกำลังที่ใหญ่กว่าฤดูกาลที่แล้ว

วิธีสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในความเป็นไปได้กับการแก้ปัญหาของ รอดเจอร์ส เมื่อไม่มี แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ให้ใช้งานด้วยการกลับไปยึดระบบหัวหอกเดี่ยวในรูปแบบ 4-2-3-1

บีร็อด มีเหตุให้ต้องโชว์กึ๋นตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลซะแล้ว

ซึ่งรูปแบบนี้ต้องมีผู้เสียสละ จะต้องตัดมิดฟิลด์ตัวกลางออกไปคนหนึ่ง นั่นหมายถึง โจ อัลเลน อาจจะต้องนั่งดูไปก่อนเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับมิดฟิลด์ตัวรุกด้านหน้าลงมาทำหน้าที่มากขึ้น

สเตอร์ลิ่ง อยู่ตรงกลางเพื่อให้มีอิสระในการเล่นมากหน่อย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่หรืออดัม ลัลลาน่า อยู่ทางซ้าย ส่วนทางขวาให้ ลาซาร์ มาร์โควิช ทำหน้าที่

ทั้งหมดช่วยกันปั้น ช่วยกันสร้างโอกาสให้กับ มาริโอ บาโลเตลลี่ และพร้อมที่จะโฉบเข้าไปปิดฉากด้วยตัวเองอีกแรงหนึ่ง

ไม่ว่า เบรนแดน รอดเจอร์ส จะแก้ปัญหาอย่างไรไม่ใช่เรื่องใหญ่ สิ่งที่ทุกคนต้องการเห็นมากกว่าคือการพิสูจน์ให้เห็นว่าการลงทุนในซัมเมอร์ที่ผ่านมาเพื่อยกระดับขุมกำลังได้ผลแค่ไหน...

ดามัน