เหตุผลที่เรอัล มาดริด ไม่ยอมส่งทีมหญิงเข้าแข่งขัน?

ปี 2019 อาจเรียกได้ว่าเป็นปีที่ดีที่สุดของ “วงการฟุตบอลหญิง” เมื่อการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส กำลังได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก ไม่แพ้กับการแข่งขันชิงแชมป์ระดับทวีปของฟุตบอลชาย ที่กำลังขับเคี่ยวในช่วงหน้าร้อนนี้

นักเตะหญิงพรสวรรค์สูงมากมายลงแข่งขันในรายการดังกล่าว การต่อสู้ในสนามที่ตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้ฟุตบอลชาย แต่เชื่อหรือไม่ ไม่มีนักเตะคนใดในฟุตบอลโลกหญิง ที่สังกัดสโมสร “เรอัล มาดริด” แม้แต่คนเดียว

แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 13 สมัย อ่อนแอขนาดไหนบนเวทีฟุตบอลหญิง? เปล่าเลย ทัพราชันชุดขาวไม่ใช่ทีมรองบ่อน เพียงแค่พวกเขาไม่มีทีมฟุตบอลหญิงต่างหาก

เหตุใดสโมสรที่ว่ากันว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด บนเวทีลูกหนังยุโรปและโลก จึงไม่คิดและไม่เคยสนใจสร้างทีมฟุตบอลหญิงของตัวเอง

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดไปพร้อมกัน ...

ยุคทองของบอลหญิง

แม้ ลีกา อิเบร์ดอร์รา (Liga Iberdrola) หรือลีกฟุตบอลหญิงของประเทศสเปน จะไม่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกแบบ ลา ลีกา แต่สำหรับแฟนบอลจากแดนกระทิงดุแล้ว การแข่งขันทั้งสองรายการได้รับความนิยมในระดับใกล้เคียงกัน

Photo : en.as.com

ลีกา อิเบร์ดอร์รา ซึ่งได้บริษัทพลังงานชื่อดังของประเทศมาเป็นสปอนเซอร์ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1988 ปัจจุบันมี 16 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน นอกจากนี้ ลีกฟุตบอลหญิงของสเปนมีจำนวนทีมมากพอจะสร้างระบบเลื่อนชั้น-ตกชั้น โดยลีกรองมีอีก 32 ทีม ร่วมชิงชัยเพื่อตีตั๋วขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุด

จากบรรดาทีมมากมายเหล่านั้น สโมสรที่ครองความเป็นใหญ่ในลีกา อิเบร์ดอร์รา มีชื่อเสียงเรียงนามไม่ต่างจากทีมชื่อดังในศึกลา ลีกา เท่าใดนัก เมื่อ 8 ฤดูกาลหลังสุด 3 ทีมที่ก้าวมาเป็นแชมป์ประจำฤดูกาลได้ คือ บาร์เซโลน่า, แอธเลติก บิลเบา และ แอตเลติโก มาดริด ที่ล้วนเป็นทีมดังฝั่งฟุตบอลชายทั้งสิ้น

เมื่อทีมฟุตบอลหญิงประสบความสำเร็จ ไม่แพ้กับทีมฟุตบอลชาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากแฟนฟุตบอลของสโมสรใหญ่เหล่านั้น จะตามมาให้กำลังใจยามสโมสรรักลงแข่งขันในรายการ ลีกา อิเบร์ดอร์รา หรือ โคปา เดอ ลา เรย์นา (Copa de la Reina) อันเป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยของทีมหญิง

จุดพีคของฟุตบอลหญิงสเปนเดินทางมาถึงในปี 2019 เมื่อมีการทำลายสถิติยอดผู้ชมของฟุตบอลหญิงยุโรปถึง 2 ครั้ง ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มต้นที่เดือนมกราคม ในการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ รายการโคปา เดอ ลา เรย์นา แอตเลติโก มาดริด พบกับ แอธเลติก บิลเบา มีผู้ชมในเกมดังกล่าว 48,121 ราย

เวลาผ่านไปไม่นาน เข้าสู่เดือนมีนาคม แอตเลติโก มาดริด แชมป์ของลีกา อิเบร์ดอร์รา ฤดูกาล 2018/19 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บาร์เซโลน่า โดยมีผู้เข้าชมในเกมดังกล่าว 60,739 ราย เป็นการทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อสองเดือนก่อน

Photo : en.as.com

ยิ่งไปกว่านั้น สนามแข่งขันที่ใช้จัดเกมดังกล่าว คือสนามว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน ที่ไม่ใช่เพียงรังเหย้าของทีมฟุตบอลชายแอตเลติโก มาดริด แต่ยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018/19

ด้วยความนิยมในสนามที่เพิ่มขึ้น ค่าตอบแทนจากลิขสิทธิ์ทีวี ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย รูเบน อัลเคน (Rubén Alcaine) ประธานสมาคมฟุตบอลหญิงสเปน ออกแถลงอย่างเป็นทางการว่า ลีกา อิเบร์ดอร์รา ได้รับเงินจำนวน 9 ล้านยูโร เป็นค่าตอบแทนสำหรับสัญญาถ่ายทอดสดฉบับใหม่ ที่จะกินระยะเวลาไปจนถึงปี 2022

“มันคือวันประวัติศาสตร์ วันที่เต็มไปด้วยความสุข นี่คือผลลัพธ์ของการทำงานอย่างหนัก เราไม่เคยทำสิ่งใดโดยไม่เตรียมการมาก่อน และผลลัพธ์ของมันคือสิ่งนี้” รูเบน อัลเคน กล่าว

จากเรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ต้องสงสัยว่า นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฟุตบอลหญิงสเปน และเหมือนจะมีแต่ผลประโยชน์มากมายเข้ามาหลังจากนี้

แต่ถึงกระนั้น ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังอย่าง เรอัล มาดริด ยังคงนิ่งเฉยและไม่มีแผนส่งทีมฟุตบอลหญิงเข้าร่วมการแข่งขันเหมือนอย่างเคย ท่ามกลางแรงกดดันจากทั่วประเทศ ในฐานะจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย ที่หายไปจากฟุตบอลหญิงแดนกระทิง

เส้นทางไม่น่าเสี่ยง

ลองหลับตาและจินตนาการภาพว่า เรอัล มาดริด ประกาศเข้าร่วมแข่งขันรายการลีกา อิเบร์ดอร์รา และคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะสร้างผลดีแก่วงการได้แค่ไหน ความสนใจจากสื่อและแฟนบอลที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเม็ดเงินจากค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ กล่าวได้ว่า ทัพราชันชุดขาว คือชิ้นส่วนสำคัญที่หายไป ของวงการฟุตบอลหญิงสเปนอย่างแท้จริง

Photo : www.reddit.com

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นมุมมองของสโมสรที่ส่งทีมเข้าแข่งขันในลีกา อิเบร์ดอร์รา อยู่แล้ว และ เรอัล มาดริด ไม่ได้มองการเข้าร่วมลีกหญิงในแง่มุมนั้น ในทางกลับกัน พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็น “ส่วนเกิน” ของระบบฟุตบอลหญิงสเปน

ปัญหาของเรื่องดังกล่าว มาจากความเสถียรภาพของลีกา อิเบร์ดอร์รา เมื่อ 16 ทีมที่เข้าแข่งขันในรายการดังกล่าว ต้องผ่านการคัดเลือกจากระบบเลื่อนชั้น-ตกชั้น เหมือนการแข่งขันกีฬาระดับสากลทั่วไป ซึ่งนั่นหมายความว่า หาก เรอัล มาดริด ต้องการส่งทีมเข้าแข่งขัน พวกเขาต้องไปเริ่มในลีกรองเสียก่อน

ทัพราชันชุดขาวคงไม่มีปัญหาอะไร หากคู่ปรับตลอดกาลของพวกเขาทั้งสองทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด ไม่ได้เป็นทีมระดับแนวหน้าของลีกา อิเบร์ดอร์รา ในตอนนี้

แค่นึกภาพ เรอัล มาดริด กำลังดิ้นรนเพื่อเลื่อนชั้น ขณะที่ บาร์ซ่า และ แอตเลติโก กำลังลุ้นแชมป์ลีกอย่างสนุก สถานะที่แตกต่างกันสุดขั้วนี้ จะมีส่วนทำลายภาพลักษณ์สุดยอดสโมสรฟุตบอล ซึ่งเป็นเรื่องที่ เรอัล มาดริด ยากจะรับได้

แม้สหพันธ์ฟุตบอลสเปน จะแก้ลำเพื่อเปิดช่องว่างให้ เรอัล มาดริด เข้ามาแข่งขันใน ลีกระดับสองได้อย่างแนบเนียน ด้วยการเปิดลีกใหม่ชื่อว่า พริเมรา ดิวิชั่น เบ (Primera División B) ซึ่งจะเข้ามาแทนที่ เซกุนดา ดิวิชั่น หรือ ลีกรองเดิม พร้อมเปิดโอกาสให้ทีมใดก็ได้ที่สนใจเข้าร่วม เข้ามาอยู่ในลีกระดับนี้ได้ทันที

น่าเสียดายที่ข้อเสนอดังกล่าว ไม่ดึงดูดใจ เรอัล มาดริด มากพอ ทำให้พวกเขาปฏิเสธจะส่งทีมฟุตบอลหญิงเข้าแข่งขัน และหากต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนใจในอนาคต สิทธิพิเศษที่ได้ย่อมดีไม่แพ้กับสิ่งที่บาร์เซโลน่า ได้รับในขณะนี้

Photo : www.rfef.es

สิทธิพิเศษดังกล่าวที่บาร์เซโลน่าได้รับ คือการเป็นหนึ่งในสองทีมของลีกา อิเบร์ดอร์รา ร่วมกับแอธเลติก บิลเบา ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลหญิงสเปน และลอยตัวอยู่เหนือปัญหาการแทรกแซงของสมาพันธ์ฟุตบอลสเปน ต่อสมาคมฟุตหญิงสเปน ด้วยการเปิดลีกพริเมรา ดิวิชั่น เบ ดั่งที่กล่าวมา

ความไม่แน่นอนจากการต่อสู้ของสองขั้วอำนาจ ย่อมทำให้ เรอัล มาดริด ไม่ผลีผลาม เดินลงสู่สนามแข่งขันจนกว่าจะมั่นใจว่า พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์ตามที่ต้องการ จากการเดิมพันครั้งใหญ่นี้

เปี่ยมกำไร แม้ไร้ทีมหญิง

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ เรอัล มาดริด ไม่ส่งทีมฟุตบอลหญิงลงแข่งขัน มาจากการครองใจแฟนบอลเพศหญิงของสโมสร ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งที่มีแค่ทีมฟุตบอลชายเพียงอย่างเดียว

Photo : Pikram.com

จากข้อมูลที่เปิดเผยออกมา เรอัล มาดริด มีสมาชิกสโมสรเป็นผู้หญิง 19,682 ราย หรือคิดเป็น 21.1% เท่านั้นยังไม่พอ ทัพราชันชุดขาวยังมีพนักงานเพศหญิงในสโมสรถึง 39% จากจำนวนพนักงานทั้งหมด

ความโดดเด่นของการเป็นทีมฟุตบอลขวัญใจเพศหญิง ส่งผลดีโดยตรงต่อเรอัล มาดริด ทั้งในแง่ธุรกิจ และ ภาพลักษณ์สโมสร

สำหรับด้านธุรกิจ การผลักดันเพื่อขายสินค้าลิขสิทธิ์สโมสร ถือเป็นแนวทางที่ได้ผลของทัพราชันชุดขาว พวกเขามีผลิตภัณฑ์ 22 ชนิด ที่ผลิตมาเพื่อขายให้แก่ผู้หญิงโดยเฉพาะ รวมถึงชุดบิกินีที่สามารถแสดงความเป็นมาดริดิสต้าได้ แม้พักผ่อนอยู่ริมชายหาด

สำหรับภาพลักษณ์สโมสร เรอัล มาดริด ประกาศเป็นเจ้าภาพการประชุมฟุตบอลหญิงสเปน ครั้งที่ 13 โดยมีตัวแทนจากหลายสโมสรชั้นนำ เช่น แอตเลติโก มาดริด และ บาร์เซโลน่า เข้าร่วมประชุม พร้อมเปิดโอกาสให้เยี่ยมชมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายสโมสร แม้ไม่มีทีมฟุตบอลหญิง

Photo : www.realmadrid.com

การร่วมมือเป็นส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงสเปน โดยไม่ส่งทีมเข้าแข่งขัน แสดงถึงตัวตนของเรอัล มาดริด ว่าพวกเขาไม่ได้มองข้ามฟุตบอลหญิงไปเสียทีเดียว เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาที่พวกเขาจะลงสู่สนามเต็มตัว

ขณะเดียวกัน ผลประโยชน์ที่ได้รับจากแฟนบอลเพศหญิง แม้มีเพียงทีมฟุตบอลชาย ช่วยชะลอเวลาการส่งทีมฟุตบอลหญิงของเรอัล มาดริด ได้อีก พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขาดทุน หรือทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง เมื่อแนวทางที่เดินอยู่ในปัจจุบันคือ เส้นทางที่ใช่สำหรับสโมสรแล้ว

ความเป็นไปได้ที่เลือนราง

จากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา ทั้งเรื่องของระบบการแข่งขัน และปัจจัยภายในสโมสร เส้นทางของเรอัล มาดริด กับ ฟุตบอลหญิง ยังคงเป็นเพียงเส้นขนาน

Photo : www.90min.com

แม้จะมีความหวังเล็กๆ เมื่อ ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด ออกมาสัญญากับแฟนคลับราชันชุดขาว ว่าจะได้เห็นทีมฟุตบอลหญิงของสโมสรในไม่ช้านี้

“เราจะมีทีมของตัวเองแน่นอน แต่ตอนนี้เรายังทำไม่ได้ เพราะเราช้ากว่าทีมอื่นไปมาก แต่เราจะได้รู้กันว่าอะไรจะเกิดขึ้นในปีหน้า” เปเรซให้สัมภาษณ์ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2017

น่าเสียดาย เมื่อเวลาผ่านไปเกือบสองปี ยังไม่มีใครเห็นวี่แววความคืบหน้าของทีมฟุตบอลหญิงเรอัล มาดริด จึงมีแรงกดดันมากมายรุมเข้าหาพวกเขาอย่างรอบด้าน เริ่มที่ โมยา ด็อดด์ (Moya Dodd) อดีตสมาชิกสภาฟีฟ่าชาวออสเตรเลีย ที่ยืนยันชัดเจนว่า ทุกสโมสรฟุตบอลต้องมีทีมฟุตบอลหญิง เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เด่นชัดมากขึ้น

“สำหรับปี 2018 ดิฉันคิดว่าทุกองค์กรในโลกสมัยใหม่ ควรคำนึงถึงจุดยืนของตัวเองในเรื่องปัญหาทางเพศ และความเท่าเทียมทางเพศ” โมยา ด็อดด์ กล่าว

“เมื่อได้เห็นบางสโมสรใหญ่ ไม่มีการอำนวยความสะดวกใดให้กับนักฟุตบอลหญิง ดิฉันคิดว่ามันเป็นคำถามข้อใหญ่ที่พวกเขาต้องตอบ ประวัติศาสตร์จะตัดสินแนวทางของพวกเขา ไม่เช่นนั้น พวกเขาต้องแสดงออกเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”

Photo : www.forbes.com

การกดดันให้เรอัล มาดริด ส่งทีมหญิงลงแข่งขัน โดยมีเหตุผลทางการเมืองและสังคมมาเกี่ยวข้อง อาจเป็นเรื่องไกลตัวและเบี่ยงประเด็นมากเกินไปสำหรับบางแง่มุม

แต่การออกมาเรียกร้องจาก มาเรีย เตย์ซีดอร์ (Maria Teixidor) ผู้อำนวยการทีมหญิงบาร์เซโลน่า ให้คู่ปรับตลอดกาลอย่าง ทัพราชันชุดขาวส่งทีมฟุตบอลหญิงลงแข่งขัน คือเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เลย

“เราทุกคนจะได้รับประโยชน์ หากสโมสรที่ได้รับการกล่าวถึงโดยทั่วไปในลีกฟุตบอลชาย พิจารณาเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหญิงอย่างจริงจัง” มาเรีย เตย์ซีดอร์ กล่าว

“หากวันหนึ่ง ทีมอย่าง เรอัล มาดริด ตัดสินใจเสี่ยงเข้าสู่วงการฟุตบอลหญิง ดิฉันเชื่อว่าพวกเขาจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี”

คำกล่าวจากทีมดังอย่าง บาร์เซโลน่า อาจสวนทางความเห็นของ อนา รอสเซล กรานาดอส (Ana Rossell Granados) ประธานสโมสร ซีดี ทาคอน (CD Tacón) ทีมฟุตบอลหญิงขนาดเล็กในกรุงมาดริด ที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกา อิเบร์ดอร์รา เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

Photo : www.fotosybanquillo.es

ซีดี ทาคอน ได้รับการพูดถึงอย่างมาก ในฐานะสโมสรที่ประสบความสำเร็จ แม้ใช้งบเพียง 150,000 ยูโร ตลอดฤดูกาล เรื่องดังกล่าวช่วยให้ อนา รอสเซล กรานาดอส พูดอย่างเต็มปากว่า กรุงมาดริด และ วงการฟุตบอลหญิงสเปน ไม่ต้องการ เรอัล มาดริด อีกต่อไป

“ฟุตบอลหญิงมาถึงจุดนี้ได้โดยไม่มี เรอัล มาดริด เพราะฉะนั้นทีมของพวกเขาจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป”

“เราไม่ควรผูกมัดให้แต่ละสโมสรมีทีมฟุตบอลหญิง เรอัล มาดริด จะสร้างทีมของพวกเขาขึ้นมาในเวลาที่ใช่ และเห็นว่าฟุตบอลหญิงสามารถเป็นธุรกิจที่ดี มันไม่เกี่ยวกับปัจจัยทางสังคม เราแค่ต้องทำให้เห็นว่า ฟุตบอลหญิงสามารถสร้างกำไรได้”

ไม่ว่าวงการฟุตบอลหญิงจะต้องการ เรอัล มาดริด จริงหรือไม่? แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือชื่อเสียงของทัพราชันชุดขาว ที่จะยกระดับความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลกไปอีกขั้น

Photo : thissportingworld.com

ไม่แน่สถิติผู้ชมสูงสุดที่ แอตเลติโก มาดริด และ บาร์เซโลน่า ทำไว้ในปัจจุบัน อาจถูกทำลายอีกครั้งด้วยมือของทีมฟุตบอลหญิงสเปน

และมันจะน่าตื่นตาตื่นใจเพียงใด หากเกมดังกล่าว คือ “เอล กลาซิโก” ที่วงการฟุตบอลหญิงรอคอยมาแสนนาน