การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าเหรียญทองโอลิมปิกของ "ริคาโกะ อิเคเอะ"
เมื่อความฝันอันยิ่งใหญ่สูญสลายไปเพียงชั่วพริบตา คุณจะทำอย่างไร?
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของ ริคาโกะ อิเคเอะ ปรากฎอยู่ในหน้าสื่อของแดนอาทิตย์อุทัย จากผลงานอันยอดเยี่ยมในการว่ายน้ำที่กวาดเหรียญทั้งในและนอกประเทศ ทั้งที่ยังอยู่ในวัยมัธยม
เธอยังสร้างปรากฎการณ์ด้วยการคว้าเหรียญ 6 เหรียญทองในกีฬาเอเชียนเกมส์ กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของการแข่งขันไปครอง และถูกตั้งความหวังว่าจะเป็นหัวหอกในการชิงเหรียญทองในโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ
ทว่าฝันของเธอและคนทั้งประเทศกลับพังลงเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
สาวน้อยมหัศจรรย์
อันที่จริงการประสบความสำเร็จในเส้นทางนักว่ายน้ำตั้งแต่อายุยังน้อยของ ริคาโกะ อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะดูเหมือนว่าชีวิตของเธอถูกปูทางมาให้เป็นอัจฉริยะตั้งแต่เธออายุยังไม่ถึงขวบ จากการปลูกฝังของคุณแม่ มิยูกิ อิเคเอะ
มิยูกิ ที่เป็นครูอนุบาล อ่านหนังสือเจอว่า การโหนบาร์จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาให้เด็กในวัยแรกเกิด จึงจับ ริคาโกะ ในวัยเพียง 6 เดือนให้โหนตัวโดยใช้นิ้วโป้งของแม่เป็นที่จับ และพอลูกของเธออายุ 1 ขวบ 6 เดือนก็ดัดแปลงพื้นที่ในบ้านให้เป็นบาร์โหน ให้ลูกของเธอใช้มันแทนการเคลื่อนที่ด้วยการเดินในบางครั้ง
“มันมีวิธีการกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการทางสมอง หนึ่งในนั้นคือการโหนบาร์ ด้วยเหตุนั้นฉันก็เลยเอาวิธีนี้มาลองทำดู มันเป็นบางอย่างที่ฉันพอทำได้ แต่ทำมากไปก็ไม่ดีเท่าไร จึงคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือพัฒนาการ” มิยูกิกล่าว
จากนั้นด้วยวัยเพียง 3 ขวบ ริคาโกะ ได้มีโอกาสรู้กับกับกีฬาว่ายน้ำเป็นครั้งแรก จากอิทธิพลของพี่ชาย และดูเหมือนว่าเธอจะหลงรักกีฬาชนิดนี้ จึงมุ่งมั่นฝึกฝนจนสามารถว่ายน้ำเป็นทั้ง 4 ท่าในระยะ 50 เมตรด้วยวัยเพียง 5 ขวบเท่านั้น
จากนั้นการว่ายน้ำก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอมาโดยตลอด เธอสามารถคว้าแชมป์ระดับประเทศเป็นครั้งแรกในวัยเพียง 13 ปี ก่อนจะก้าวขึ้นมาติดทีมชาติในระดับเยาวชน และคว้าเหรียญทองจากท่าผีเสื้อ 50 และ 100 เมตร ในรายการ FINA World Junior Swimming Championships เมื่อปี 2015 พร้อมทำลายสถิติของรายการ
ริคาโกะ มีส่วนสูงที่โดดเด่น ด้วยส่วนสูงถึง 170 เซนติเมตร และสามารถเอื้อมแตะได้ถึง 184 เซนติเมตร อันเนื่องมาจากการโหนบาร์ตั้งแต่เด็ก สรีระทางร่างกายบวกกับความสามารรถทำให้เธอเดินหน้าสร้างสถิติอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำลายสถิติของประเทศในท่าผีเสื้อ 100 เมตร เมื่อปี 2015 ด้วยเวลา 57.56 วินาที ด้วยวัยเพียง 15 ปี
เธอยังสามารถทำลายสถิติของประเทศในท่าฟรีสไตล์ 100 เมตร และ 50 เมตรในปี 2016 และทำลายสถิติของตัวเองในท่าผีเสื้อ 100 เมตร ด้วยเวลา 57.55 วินาที ในการคัดตัวไปเล่นโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล ก่อนจะมาทำลายสถิติของประเทศได้อีกครั้ง ด้วยเวลา 56.86 วินาที
แม้ท้ายที่สุด ริคาโกะ จะไม่สามารถคว้าเหรียญในโอลิมปิกมาคล้องคอได้ หลังทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 6 ในท่าผีเสื้อ 100 เมตร แต่ความผิดหวังในครั้งนั้น ได้เป็นแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับเธอในเวลาต่อมา
ราชินีเจ้าสระแห่งเอเชียนเกมส์
อิเคเอะ มุ่งมั่นฝึกซ้อมตัวเอง เพื่อเป็นนักกีฬาที่ดีขึ้น และหวังที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักว่ายน้ำแถวหน้าของโลก และเธอก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอแกร่งกว่าเก่าหลังสามารถคว้าได้ถึง 4 เหรียญในการแข่งขัน แพนแปซิฟิก เมื่อเดือนสิงคาคมปี 2018 โดยเอาชนะได้ทั้ง สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
จากนั้นในเดือนเดียวกันสาวน้อยมหัศจรรย์ ก็ถูกเลือกเป็นตัวแทนของทีมชาติญี่ปุ่น มาล่าเหรียญทองในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 ที่จาการ์ตา อินโดนีเซีย และที่นี่ก็กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของเธอ
อิเคเอะ ดาหน้ากวาดเหรียญทองมาได้ถึง 6 เหรียญ ตั้งแต่ท่าฟรีสไตล์ 50 และ 100 เมตร ท่าผีเสื้อ 50 และ 100 เมตร ฟรีสไตล์ 4x100 เมตร และ ท่าผสม 4x100 เมตร และยังคว้าอีก 2 เหรียญเงินในท่าฟรีสไตล์ 4x200 เมตร และทีมผสม 4x100 เมตร
จากผลดังกล่าวทำให้ อิเคเอะ กลายเป็นนักว่ายน้ำคนแรกที่คว้าได้ถึง 6 เหรียญทองในเอเชียนเกมส์ครั้งเดียว และมีสถิติตามหลัง โก ชินมัง นักยิงปืนเกาหลีเหนือที่คว้า 7 เหรียญทองในการแข่งขันที่ นิว เดลี เมื่อปี 1982 เพียงแค่เหรียญเดียว
“ฉันไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรมากมาย” อิเคเอะ ให้สัมภาษณ์หลังสร้างประวัติศาสตร์
“ฉันได้รับพลังจากแฟนๆ ที่ช่วยเชียร์ และจากแรงกดดัน ฉันคิดว่าฉันต้องพยายามให้มากขึ้น เพื่อให้ได้แแรงสนับสนุนมากขึ้น และมันก็กลายมาเป็นแรงกระตุ้นให้ฉัน”
ด้วยผลงานดังกล่าว ยังทำให้อิเคเอะ ได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬายอดเยี่ยมของ เอเชียน เกมส์ 2018 เป็นผู้หญิงคนแรก และชาวญี่ปุ่นคนที่ 4 ที่ได้รับรางวัลนี้ และยังคว้ารางวัลนักว่ายน้ำแห่งปีของญี่ปุ่นในปี 2018
“ฉันได้ยินว่ามันไม่มีรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม (เอเชียนเกมส์) มานานแล้ว ฉันจึงรู้สึกเสียใจมากในเรื่องนั้น แต่หลังจากมีการนำมาพิจารณาอีกครั้ง ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่นี้” อิเคเอะ กล่าวหลังรู้ว่าตัวเองได้รับเลือก
“ฉันใช้เวลามากกว่า 2 ปี และรู้ว่าต้องทำอะไร ฉันจะต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นด้วยความคิดนั้น ฉันจะพยายามเพื่อให้แน่ใจว่าฉันสามารถทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อประเทศของฉัน”
นอกจากนี้ เวลา 56.30 วินาที ในท่าผีเสื้อ 100 เมตรที่เอเชียนเกมส์ ยังทำให้ อิเคเอะ เข้าใกล้สถิติโลกของ ซาราห์ ซยอนสตอร์ม นักว่ายน้ำชาวสวีเดนที่ทำไว้ในเวลา 55.48 วินาที และการทำลายสถิติโลก ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของเธอ
“ฉันกำลังเข้าใกล้สถิติโลก แต่ฉันก็ยังทำไม่สำเร็จ นั่นคือเป้าหมายของฉัน และมันคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ฉันพยายามมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นในตอนนี้”
“ถ้าทุกอย่างไปได้สวย ฉันคิดว่าฉันน่าจะทำลายสถิติโลกได้ ฉันสามารถทำสถิติ 56 วินาทีได้ แต่ยังไม่สามารถทำได้ถึง 55 วินาที ฉันจะอดทนกับการพยายามให้หนักขึ้น ตอนที่ลงแข่งและฝึกซ้อม”
ในตอนนั้น อิเคเอะ มีเวลาอีก 2 ปีสำหรับการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่จะจัดขึ้นที่โตเกียว และเธอก็คือนักกีฬาความหวังสำคัญที่จะคว้าเหรียญทอง แน่นอนว่ามันการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ก็เป็นหนึ่งในความฝันของเธอ และคงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ฉลองต่อหน้ากองเชียร์ชาติเดียวกัน
แต่มันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้น เพียงเพราะข่าวร้ายเพียงข่าวเดียว
มะเร็งพรากความฝัน
เดือนกุมภาพันธ์ 2019 ในขณะที่อิเคเอะ กำลังเดินทางไปแข่งขันว่ายน้ำที่ออสเตรเลีย เธอรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย จึงขออนุญาตเดินทางกลับญี่ปุ่น และเข้ารับการตรวจกับโรงพยาบาลทันที
ในตอนแรกเธอเข้าใจว่าเธอคงป่วยเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงมันโหดร้ายกว่านั้น เพราะแพทย์วินิฉัยว่าเธอเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว และต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วน ทั้งที่โอลิมปิกที่รอคอยที่สุดในชีวิตกำลังจะมีขึ้นในอีกไม่ถึง 2 ปีข้างหน้า
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายและกลับจากออสเตรเลียมาบ้านทันที ฉันเข้าตรวจและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว” อิเคเอะ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว
“ฉันแทบไม่อยากเชื่อ มันเป็นสถานการณ์ที่สับสน แต่ด้วยการรักษา นี่เป็นโรคที่สามารถรักษาหายได้ ฉันจึงต้องพักสักระยะ และโฟกัสกับการรักษา”
เรื่องนี้ช็อคคนทั้งประเทศ เพราะเธอเธอเพิ่งอายุเพียง 18 ปี และเป็นนักกีฬาที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นความหวังของชาวญี่ปุ่นในการคว้าเหรียญโอลิมปิกในบ้านเกิด แต่บางทีมะเร็งก็ไม่เลือกว่าจะเกิดขึ้นกับใคร
“ผมรู้สึกช็อค เนื่องด้วยโตเกียว โอลิมปิกกำลังมาถึง ผู้คนอยากให้เธอหาย และลงแข่ง” ไดยะ เซโตะ นักว่ายน้ำแชมป์โลก 2 สมัยกล่าวในงานโคนามิ โอเพน เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมากล่าว
“แต่แน่นอนว่า ชีวิตคือสิ่งสำคัญมากกว่า ผมทำได้เพียงภาวนาให้เธอดีขึ้นเร็วๆ เราอยากจะเห็นรอยยิ้มที่น่ารักของเธออีกครั้ง สิ่งที่ทุกคนทำได้ในตอนนี้คือช่วยภาวนา”
หลังอาการเจ็บป่วยของเธอถูกเผยแพร่ออกไป ผู้คนทั้งในและนอกวงการได้ออกมาให้กำลังใจกับเธอ รวมไปถึง ซาราห์ ซยอนสตอร์ม เพื่อนและคู่แข่งของ อิเคเอะ ที่เป็นเจ้าของสถิติโลก ท่าผีเสื้อ 100 เมตร
“ตาของฉันเต็มไปด้วยน้ำตาตอนที่อ่านข่าวว่าเพื่อนของฉัน (อิเคเอะ) เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ฉันส่งใจและความรักให้เธอ”
เช่นเดียวกับ เคน วาตานาเบะ นักแสดงจากฮอลลีวูดที่โด่งดังในเรื่อง The Last Samurai ที่ต้องต่อสู้กับมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1990s ก็ให้กำลังใจเธอผ่านทางทวิตเตอร์
“คุณอาจจะรู้สึกสิ้นหวัง คุณอาจจะถามตัวเองว่า ‘ทำไมต้องเป็นฉัน?’ ผมอยากให้คุณมองโลกในแง่ดี และมีสมาธิกับการรักษา จงเชื่อในพลังในชีวิตของคุณ”
แน่นอนว่า อิเคเอะ ก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
เปิดเว็บไซต์แชร์ประสบการณ์
หลังจากเข้ารับการรักษา อิเคเอะ ก็หมั่นอัพเดทความเคลื่อนไหวของเธอผ่านทวิตเตอร์อยู่เป็นระยะ และในเดือนมีนาคม 2019 เธอได้ทวีตว่าการรักษาราบรื่นไปด้วยดี แม้จะต้องพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต
“มันยากกว่าที่ฉันคิดเป็น สิบ ร้อย หรือพันเท่า หลายครั้งที่ฉันไม่ได้กินครบ 3 มื้อ แต่ฉันก็จะไม่ยอมแพ้”
“ฉันมองไปข้างนอกทุกวัน และคิดว่าลมในฤดูนี้น่าจะทำให้รู้สึกดี ฉันอยากได้สัมผัสถึงฝน แต่นี่เป็นบางอย่างที่ฉันนึกถึงหากฉันได้ออกจากโรงพยาบาล”
“มันเป็นการอยู่ในโรงพยาบาลที่ยาวนาน เป็นการรักษาที่ยาวนาน แต่ฉันก็นึกถึงสิ่งที่ฉันอยากทำหากได้ออกไป ฉันยังมองโลกในแง่ดีอยู่”
“ด้วยความสัตย์จริง บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจจะแตกสลาย แต่พอทุกคนพูดให้กำลังใจฉัน และทำให้ฉันรู้สึกว่าอยากจะสู้ต่อไปและไม่ยอมแพ้”
อิเคเอะ ยังได้เปิดเว็บไซต์ (https://www.rikako-ikee.jp) เพื่อแชร์ประสบการณ์การรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว และอัพโหลดจดหมายที่เขียนด้วยลายมือเพื่อขอบคุณแฟนๆที่ส่งกำลังใจมาอย่างล้นหลามในการต่อสู้กับโรคนี้ เธอรู้สึกว่า “เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว”
“พูดตรงๆ บางครั้งฉันก็หมดกำลังใจ แต่มันก็กลับมาเมื่อได้เห็นข้อความให้กำลังใจจากทุกคน ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ยอมแพ้ และอดทนจนกว่าจะเอาชนะความเจ็บป่วยนี้ได้”
“การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น ฉันรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ฉันไม่สามารถทำได้ตอนว่ายน้ำ อย่างวาดภาพระบายสี เล่นปริศนา หรือดูภาพยนตร์”
“ฉันอยากจะเชื่อว่าตอนนี้ฉันเข้าใจ แม้ว่าจะยังไม่เต็มที่ก็ตาม ว่านักกีฬาหรือคนที่เจ็บป่วยหรือมีอาการแบบฉันเป็นอย่างไร”
“ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว และฉันอยากจะให้คุณทำเหมือนกัน เราจะสานต่อเรื่องนี้ไปด้วยกัน”
และเป็นข่าวดีที่ดูเหมือนว่า อาการของ อิเคเอะ กำลังดีขึ้นเป็นระยะ จิโร มิกิ โค้ชของเธอเผยว่าเธอก็ได้เริ่มออกกำลังกายเบาๆ อย่างการปั่นจักรยานในห้องออกกำลังกายของโรงพยาบาลมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายน
“เธอกำลังดีวันดีคืน เธอกำลังต่อสู้กับมันด้วยวิธีคิดในแง่บวก บางครั้งเธอก็เป็นกำลังใจให้ผม ผมรู้สึกประทับใจจริงๆ” มิกิกล่าวกับ Kyodo News
และล่าสุด อิเคเอะ เพิ่งได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเป็นการชั่วคราว เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์และใช้เวลากับครอบครัว ซึ่งถือเป็นการออกจากโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับการรักษาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019
“มันมีวันที่ฉันไม่ได้ดูรู้สึกดี ตอนที่ฉันโฟกัสอยู่ที่พยายามผ่านวันเหล่านั้นไปให้ได้” อิเคเอะ โพสต์ผ่านเว็บไซต์ของเธอ
“แม้ว่าฉันจะอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ฉันก็ยังมีกำลังใจด้วยการตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง หลังออกจากโรงพยาบาล”
“ตอนฉันอยู่นอกโรงพยาบาล ฉันรู้สึกอร่อยกับอาหารไปพร้อมกับครอบครัวของฉัน ได้ผ่อนคลายและได้เจอกับอากาศที่บริสุทธิ์”
“มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกว่าฉันไม่อยากที่จะกลับไปที่โรงพยาบาลอีก แต่ฉันก็พยายามให้กำลังใจตัวเองด้วยการคิดว่ามันก็แค่ไม่กี่เดือนในชีวิตของฉัน”
สิ่งที่เกิดขึ้นกับอิเคเอะนั้นโหดร้ายกับการที่เด็กอายุ 18 ต้องมาเผชิญกับโรคที่น่ากลัว ในช่วงที่เธอกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของเส้นทางนักกีฬา และเป็นความหวังของคนทั้งประเทศในการคว้าเหรียญทองในมหกรรมกีฬาระดับโลกที่จัดขึ้นในประเทศตัวเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของเธอ
จริงอยู่เหรียญทองโอลิมปิก อาจจะเป็นจุดสูงสุดในชีวิตของนักกีฬา แต่การต่อสู้ของเธอในตอนนี้ ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้การคว้าเหรียญทอง และแน่นอนเธอไม่มีวันยอมแพ้ ดั่งที่เคยประกาศไว้ในวันที่รู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง
“ฉันจะแสดงให้เห็น ริคาโกะ อิเคเอะ ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ให้เร็วที่สุดเท่าเป็นไปได้”
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ