น้ำใจของคนกีฬา

น้ำใจของคนกีฬา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เลาะลนาม

เปาแป๊ก

ถ้าจะเขียนถึง ศ.เจริญ วรรธนะสิน ที่เป็นนายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ คนปัจจุบัน เด็กรุ่นใหม่ๆ ในวงการกีฬาคงรู้ว่าหน้าที่ท่านมีแค่บริหารองค์กรแบดมินตันของไทย หรือเป็นพ่อของศิลปินชื่อดังถึงสองคน

แต่สำหรับคนสูงวัยที่ให้ความสนใจเรื่องกีฬาแล้ว ศ.เจริญ วรรธนะสิน ในอดีตคือนักแบดมินตันที่ยิ่งใหญ่คับวงการขนไก่อาเซียน เอเชีย และระดับโลก

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีโอกาสสนทนาภาษากีฬากันดั่งเคยปฏิบัติมาเมื่อเจอะเจอกันทุกครั้ง ต้องยอมน้อมรับแนวคิดของนายกขนไก่ไทยที่ให้ความสนใจกับการพัฒนากีฬาทุกชนิด ไม่ใช่เฉพาะกีฬาแบดมินตันที่ตนรับผิดชอบอยู่เท่านั้น

นายกขนไก่ไทยเล่าว่า ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ มีคิวเดินทางไปประชุมสภากีฬาแห่งเอเชีย (Asian Sport Congress) ในฐานะสมาชิกของพัฒนาคณะกรรมการบอร์ด และจะเป็นคนไทยคนแรกที่ขึ้นบรรยายพิเศษ ในวันที่ 12 มี.ค.2552

หัวข้อที่เตรียมไปขึ้นบรรยายฟังแล้วน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะท่านจะพูดเรื่อง กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา

จากนั้นท่านร่ายยาวให้ฟังว่า การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงล่าสุด มีชาติสมาชิกจำนวน 204 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน มีอยู่ 81 ประเทศ ที่ได๏ฟฝสัมผัสกับเหรียญรางวัลในการแข่งขัน ส๏ฟฝวน 123 ประเทศไม๏ฟฝเคยสัมผัสเหรียญรางวัลใดๆเลย

ในขณะที่เอเชี่ยนเกมส์ มีสมาชิก 46 ชาติ มีอยู่ 20 ชาติที่ไม่เคยประสบความสำเร็จเช่นกัน

ทำอย่างไรให้ชาติที่ไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันมีโอกาสชื่นชมกับความสำเร็จบ้าง

ผมจะบรรยายวิธีการฝึกกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ โดยยกตัวอย่าง ประเทศ เล็กๆ อย่างเมืองไทย แต่สามารถส่งเสริมกีฬาบางประเภทขึ้นไปเทียบเคียงกับนานาชาติ จนประสบความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์หลายครั้งหลายหนและต่อเนื่อง ในขณะที่งบประมาณไม่ได้ใช้มากมายอะไร พอสู้ได้ตามอัตภาพความเป็นจริง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาเกินคุ้ม

นายกขนไก่ไทยย้ำว่า ความสำเร็จหากเกิดขึ้นกับนักกีฬาคนใด เงินทองสิ่งของจะไหลมาเทมาเองเช่นที่เห็นกันอยู่เป็นประจำ ชาติเหล่านั้นก็เช่นกัน ลองประสบความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ซักครั้ง ตนมั่นใจว่างบประมาณจะไหลมาเอง

พร้อมกับย้ำว่า ตนรู้สึกห่วงประเทศที่ไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันจะเริ่มท้อถอยท้อแท้และในที่สุดจะหยุดการส่งเสริมด้านกีฬาของชาติอย่างจริงจัง รวมทั้งการถอยห่างจากการแข่งขันระดับนานาชาติไปทีละก้าว จนสุดท้ายกู่ไม่กลับ

นี่คืออีกหนึ่งของ น้ำใจของคนกีฬา ที่ไม่ได้ห่วงแค่การพัฒนาในบ้านตัวเอง แต่ห่วงเพื่อนร่วมโลก...ที่มีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน

ขอคารวะ.......กับน้ำใจและแนวคิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook