[OPINION] ไปจบฤดูกาลกันที่ "มาดริด" (Road to Madrid)

[OPINION] ไปจบฤดูกาลกันที่ "มาดริด" (Road to Madrid)

[OPINION] ไปจบฤดูกาลกันที่ "มาดริด" (Road to Madrid)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผ่านค่ำคืนที่สุดแสนมหัศจรรย์ที่ยากจะสรรหาถ้อยคำมาเรียงร้อยเพื่อบรรยายทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่สนามแห่งนี้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล บนผืนหญ้าที่แอนฟิลด์ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศกับ บาร์เซโลน่า

นั่นคือแมตช์ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งของขุนพลนักเตะ เดอะ เร้ด แมชชีน ซึ่งต้องบอกว่านี่คือเกมที่เราได้ประสบการณ์ที่สุดแสนจะล้ำค่า

"สงครามยังไม่จบ อย่าพึ่งนับศพทหาร" ประโยคนี้สุดแสนจะคลาสสิค แต่เชื่อมั้ย? ว่าคำสั้นๆ แต่ความหมายยาวเกินจะพรรณนา

จงตระหนัก และพึงระลึกไว้อยู่เสมอว่า อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ อย่าเดินหันหลังให้กับทีมที่ตัวเองบอกว่ารักสุดหัวใจไปแบบหมดอะไรตายอยาก เพียงเพราะว่าสกอร์นัดแรกจบที่ 0-3

gettyimages-1142317291-594x59

เคยดูภาพยนต์เรื่อง อเวนเจอร์ กันมั้ยครับ? จอมเวทย์มหากาฬ ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ค้นพบเพียง 1 ใน 14 ล้านวิธีที่จะหยุดธานอส ในตอนอินฟินิตี้ วอร์ แต่สุดท้ายความมุ่งมั่นและพยายามของพวกเขาก็เป็นผลสำเร็จในตอนล่าสุด เอนด์ เกม

ตราบใดที่สงครามฟุตบอลยังไม่มีเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ก็จงอย่าล้มเลิกความพยายามเอาเสียง่ายๆ

ตราบใดที่หนทางยังพอมี แม้จะเพียง 1% ก็จงอย่าละทิ้งหนทางที่ว่านั้นเลยครับ

เพราะตราบใดที่พวกเรายืนยันจะสู้ต่อ เชื่อสิครับว่า "เราทำได้" ทางรอดอันน้อยนิดพร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างเราเสมอ

gettyimages-1142126900-594x59

อย่าให้ใครมองข้ามเราง่ายๆ จงสั่งสอนพวกเขาเหล่านั้นว่า นี่คือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมที่เคยเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์สุดแสนประทับใจเมื่อ 10 กว่าปีก่อน กับเวลาเพียง 45 นาทีที่อิสตันบูล ในครึ่งหลัง

แอนฟิลด์ สเตเดี้ยม สนามแห่งนี้เคยผ่านการคัมแบ็คแบบช็อกโลกมาแล้วในศึกยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

แล้วทำไมต้องหาเหตุผลด้วยว่า เรื่องราวทำนองแบบนั้นจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้?

หลายคนใช้คำว่า "ปาฏิหาริย์" ในเกมทำนองนี้ แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะผมยกความดีความชอบให้ความยอดเยี่ยมของเครื่องจักรสีแดงไปทั้งหมด เพราะทั้งหมดคือหัวใจนักสู้ที่พวกเขามี

gettyimages-1147632816-594x59

จงอย่าลืม อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่ช่วยปกป้องไม่ให้ทีมเสีย อะเวย์ โกล

จงอย่ามองข้ามความแข็งแกร่งของแนวรับที่ช่วยกันหยุดนักเตะที่อันตรายที่สุดในโลกอย่าง ​ลิโอเนล เมสซี่

จงอย่าเมิน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ที่ทุ่มเทวิ่งห้อเป็นม้าตลอด 90 นาที

จงอย่าละเลยทัศนคิตที่ยอดเยี่ยมของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ยอมปรับตัวเองเข้ากับทุกตำแหน่งที่ เยอร์เกน คล็อปป์ มอบให้

gettyimages-1142126723-594x59

อย่าริอาจแม้แต่จะลืมทุกประตูในฤดูกาลนี้ของ ดิว็อค โอริกี ที่มีความหมายเกินจะบรรยาย และ จอร์จินิโญ่ ไวจ์นัลดุม ด้วยอีกคน

และที่สำคัญไปกว่านั้น จงอย่าลืมว่าเขาคนนี้คือคนที่พาเรากลับมายืนอยู่ในจุดที่เราควรจะอยู่ เยอร์เก้น คล็อปป์

และที่สำคัญจงอย่าลืมตัวเองด้วยนะ แฟนบอล เดอะ ค็อป ที่ยังยืนอยู่เคียงข้างกันจนถึงทุกวันนี้ "ผมขอขอบคุณได้มั้ยในฐานะอะไรก็ได้"

เหลืออีกเพียงแค่สองเกม อย่างที่เคยบอกไปครับ เรื่องทำใจก็ทำไว้ส่วนหนึ่ง แต่บอกอีกครั้งเลยว่าผมไม่เคยหมดหวัง

gettyimages-1142126691-594x59

จงอย่ายอมแพ้ อย่าหมดหวัง อย่าหมดศรัทธา ถ้าคุณคือ เดอะ ค็อป [Never Give Up]

เพลง You'll never walk alone ยังดังก้องอยู่ในหัวใจผมเสมอ และท่อนนึงที่ปลุกใจได้ดีเหลือเกิน คือ With hope in your heart (ด้วยความหวังในหัวใจ) ผมจะหวังไม่ว่าจะความเป็นไปได้จะน้อยนิดแค่ไหน

ผิดหวังมาพอแล้ว ความผิดหวังมันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ

ตราบใดที่เปลวไฟคบเพลิงข้างตราสโมสรยังคงลุกโชน โชติช่วง ชัชวาล พลังกองเชียร์อย่างผมจะยังศรัทธาและเชื่ออยู่เสมอ ว่าเราทำได้

แล้วไปจบฤดูกาลกันที่มาดริดครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook