สัญญาลูกผู้ชาย : การล่าแชมป์โลกที่ต้องแข่งกับอายุขัยผู้เป็นแม่ของ "ชาร์ลี เอ็ดเวิร์ดส์"

สัญญาลูกผู้ชาย : การล่าแชมป์โลกที่ต้องแข่งกับอายุขัยผู้เป็นแม่ของ "ชาร์ลี เอ็ดเวิร์ดส์"

สัญญาลูกผู้ชาย : การล่าแชมป์โลกที่ต้องแข่งกับอายุขัยผู้เป็นแม่ของ "ชาร์ลี เอ็ดเวิร์ดส์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากเลือกได้ ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากจะให้ลูกทำมาหากินด้วยการเป็นนักมวยแน่ เพราะบนเส้นทางสังเวียนผ้าใบไม่มีนักมวยคนไหนที่ไม่เคยกินหมัดแทนข้าวเย็น ไม่เคยมีใครไม่เจ็บปวด และไม่เคยมีใครไม้ได้รับบาดแผล

ทว่าบางครั้งชีวิตก็ผลักคุณไปในที่ที่หลายคนไม่อยากให้ไป แม้ที่สุดแล้วมันอาจจะไม่ใช่ทางที่คนส่วนใหญ่เลือก แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว จาก "แรงต่อต้าน" กลายเป็นการตามให้กำลังใจที่อยู่ในกรอบของความเป็นห่วงในแบบทำด้วยความเต็มใจ เพราะ "พ่อแม่ย่อมเป็นห่วงลูก" เสมอ

นี่คือเรื่องราวของชายชาวอังกฤษที่มีส่วนสูงเพียง 165 เซ็นติเมตร คนตัวเล็กๆ คนนี้ แบกพ่อไว้บนไหล่ซ้าย และ แบกแม่ไว้บนไหล่ขวา 3 ครั้งเต็มๆ ที่เขาต้องบอกลาแม่หลังหมอวินิจฉัยว่างานนี้อย่างไรก็ไม่อาจรอดชีวิตจากโรคร้าย แต่มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ในระหว่างทาง ด้วยแรงขับและสัญญาลูกผู้ชาย ติดตามเรื่องราวที่เหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์ดราม่า พร้อมๆ กับ Main Stand ได้ที่นี่

เรื่องเล่า...จากวงเหล้าพ่อ

เย็นย่ำเมื่อหลายปีก่อน ณ ร้านเปลี่ยนยาง ใน ซัตตัน เมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของ ลอนดอน มีชาย 2 คนกำลังนั่งดวดเหล้าหลังเลิกงานตามสไตล์วิถีช่าง และมีไม่กี่เรื่องที่ผู้ชายนั้นจะคุยกันในช่วงของการร่ำสุรา "ผู้หญิง, รถ และกีฬา" คือ 3 ประเด็นหลักที่มักจะคุยกันเพื่อทำให้รสชาติของน้ำเมานั้นคล่องคอ และกีฬายอดฮิตของอู่เปลี่ยนยางรถยนต์แห่งนี้ไม่ใช่ฟุตบอลแต่เป็นการชกมวย


Photo : thegirlsun.com

แลร์รี่ เอ็ดเวิร์ดส์ เจ้าของอู่กำลังนั่งคุยถึงเรื่องวงการหมัดมวยอย่างออกรส เขากำลังกล่าวชมโคตรมวยในยุคสมัยของเขาผ่านแววตาที่เป็นประกาย และบรรยายจนเห็นภาพความยิ่งใหญ่ของการเป็นแชมป์โลก … ทว่าไม่ใช่แค่คู่สนทนาของเขาเท่านั้นที่รู้สึกได้ เสียงของเขาดังไปถึงหูของลูกชาย 2 คน วันแล้ววันเล่ามันวนไปเช่นนี้ จนสุดท้ายเด็กน้อยทั้งสองก็เกิดอาการอินและอยากจะได้เวทีมวยเล็กๆ ให้ได้ลองชกดูบ้างว่าความรู้สึกมันเป็นอย่างไร

เรื่องมันเริ่มขึ้นหลังจากนั้น ภาพที่ผู้คนย่านซัตตันจะพบเห็นเสมอคือเด็กน้อย 2 คนพี่น้องกำลังลงนวมกัน บนเวทีไม่ได้มาตรฐานที่ผู้เป็นพ่อขึงไว้ให้ลูกชายมีอะไรทำในระหว่างที่เขาต้องทำงานตลอดทั้งวัน ทว่าการชกของเด็ก 2 คนนี้แปลกไปสักหน่อย สำหรับเด็กทั่วไปแล้วหากได้ลองสวมนวมคงไม่แคล้วจะต้องว่ายน้ำจ้วงกันโดยไร้แบบแผน แต่ลูกบ้านนี้ไม่ใช่แบบนั้น เมื่อคนหนึ่งสวมนวม อีกคนหนึ่งจะต้องทำอีกหน้าที่ล่อเป้า พี่ของเขาจะออกหมัดซ้ายที ขวาที และน้องชายรอรับหมัดนั้นตามจังหวะ เหมือนกับที่เด็กๆ ได้เห็นจากทีวี ... เห็นได้ชัดว่าเด็กพวกกำลังทำอะไรที่เกินตัว

"คุณต้องเห็นไอ้เด็กพวกนี้มันซ้อมกันซักทีเถอะผมจะบอกให้ ไอ้สองคนนี้มันต่อยกันเอาจริงเอาจังมาก ถ้าคุณได้เห็นกับตารับรองได้ผมว่าคุณจะอายม้วนเลย" ไรอัน เบนเน็ตต์ อดีตนักชกจากเวที เชอร์ด็อกซ์ ว่าไว้ถึง 2 พี่น้องตระกูล เอ็ดเวิร์ดส์ ที่มีฝันเดียวกันนั่นคือการอยากจะเป็นแชมป์โลก

คนพี่ชื่อว่า ชาร์ลี ส่วนคนน้องนั้นชื่อ ซันนี่ พวกเขาห่างกัน 4 ปี ไม่มากไม่มายจนแทบจะเป็นเพื่อนกันได้ และอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น พวกเขาไม่ได้อยากเรียนหนังสือ ไม่ได้อยากเป็นหมอ และมีหน้ามีตาในสังคม จริงอยู่ที่ความฝันแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกคนได้ในช่วงวัยรุ่นที่เป็นวัยแห่งความฝัน ทว่าเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ชีวิตบีบให้ต้องเลือก หลายคนไม่แข็งแกร่งพอจนต้องออกจากความฝันเพื่ออยู่ให้ได้ในโลกแห่งความจริง แต่อิทธิพลจากคำบอกเล่าของพ่อนั้นส่งผลมหาศาล ชาร์ลี และ ซันนี่ มีพลังใจที่เหลือล้นและพวกเขาเอาจริงเอาจังกับการไปให้ถึงฝันที่ตั้งไว้อารมณ์ประมาณว่างานนี้ "ไม่ได้ไม่เลิก"

พ่อของเขาพอมีทักษะทางมวยอยู่บ้าง ดังนั้นเรื่องการสอนพื้นฐานเบื้องต้นในวัยเด็กจึงไม่มีปัญหา ชาร์ลี ผู้เป็นพี่ต้องเริ่มทำตามโปรแกรมที่พ่อของเขาวางไว้ก่อน เพราะมีอายุและความพร้อมที่มากกว่าน้องชาย โดยมี เทอร์รี่ เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้เป็นแม่แอบมองอยู่ห่างๆ เสมอ

ฝันของแกยิ่งใหญ่ที่สุด

ความเอาจริงเอาจังยังเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดตามอายุ ชาร์ลี และ พ่อของเขา ตัวติดกันตลอด ต่างจากแม่ที่ใช้เวลาด้วยกันน้อยมากนั่นอาจจะเป็นเพราะความเข้าใจในแบบของวัยรุ่น เพราะแม่ของเขาไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับความฝันของลูกชายที่อยากจะเป็นแชมป์โลก ดังนั้นนี่คือเรื่องของลูกผู้ชายที่ ชาร์ลี คิดว่าแม่ไม่มีทางเข้าใจ เขากับพ่อเดินทางไปชกตามที่ต่างๆ และรวมถึงการเทิร์นโปรเป็นนักชกอาชีพด้วย


Photo : www.boxingnewsonline.net

"พ่อของผมเคยเป็นเจ้าของธุรกิจเปลี่ยนยาง แต่ธุรกิจนั้นไม่สามารถทำให้ผมฝึกฝนได้ เพราะเราต้องเดินทางบ่อย งานดูแลผมเลยกลายเป็นงานประจำของเขาไปแล้ว แม้ผมจะเป็นคนที่โดนฝึกและต้องตื่นเช้ามาออกวิ่ง แต่พ่อลุกขึ้นมาและวิ่งขึ้นเขากับผมทุกวัน แม้ตอนนั้นผมจะทำให้พ่อภูมิใจไม่ได้ แต่ก็ต้องขอบคุณพ่อมากๆ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง"

กาลเวลาผ่านไป พ่อ รวมถึง ชาร์ลี เริ่มรู้แล้วว่าโลกนี้กว้างใหญ่ และเขาเองต้องออกไปอยู่กับครูฝึกอาชีพที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์มากพอที่จะผลักดันเขาก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่พ่อสอนมีประโยชน์มาก และมันทำให้เขาล้ำหน้ากว่าเด็กรุ่นเดียวกันพอสมควร ชาร์ลี สามารถทดสอบและเข้าสู่ทีมมวยสมัครเล่นของสหราชอาณาจักรได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี เท่านั้น

เรื่องทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็นเขากำลังไต่อันดับเพื่อเป็นแชมเปี้ยน ทว่าอยู่ดีๆ เทอร์รี่ เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้เป็นแม่ก็ล้มลงโดยไม่ทันตั้งตัว พ่อของเขารีบนำแม่ไปที่โรงพยาบาลและเมื่อถึงมือหมอก็ได้ผลการวินิจฉัย ... ละครชีวิตเรื่องนี้มีเรื่องดีและเรื่องรายเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน เรื่องร้ายคือแม่ของเขาเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ อย่างไรก็ตามยังพอมีข่าวดี เพราะเธอถึงมือหมอเร็วทันเวลา

ความอันตรายของโรคเส้นเลือดในสมองตีบนั้นถือว่าอาจจะไม่ได้อยู่ในระดับที่ทำให้ถึงตาย ทว่ามันเหมือนการตายทั้งเป็นดีๆ นี่เอง เพราะหากถึงมือหมอช้า เซลล์ในสมองจะหยุดทำงานจนสมองส่วนที่ได้รับผลกระทบตายสนิทไม่มีทางกู้คืนกลับมาได้ และถ้าโชคร้ายยิ่งกว่านั้นแม่ของเขาจะเป็นอัมพาตต้องนอนเฉยๆ เหมือนผักไปตลอดชีวิต หรือย่างดีที่สุดต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อหวังปาฎิหาริย์ ซึ่งไม่รู้ว่ามีจริงไหมในโลกใบนี้

การไปถึงมือหมอเร็วทำให้ เทอร์รี่ พอจะกลับมาพูดได้บ้าง สมองยังสั่งการได้แม้จะช้าลงไปสักหน่อย แต่สิ่งที่หนักที่สุดในกรณีนี้คือเธอต้องนั่งรถวีลแชร์ไปตลอดชีวิต ...


Photo : @CEdwardsBoxing

ลูกชายคนโตรีบเดินทางกลับมาถึงบ้าน ในช่วงวัยรุ่นที่อาจจะมัววิ่งตามจนลืมว่าทิ้งใครไว้เบื้องหลังบ้าง ชาร์ลี รู้ว่าเขามีสิ่งที่พลาดไป เขาไม่เลิกล้มจะเป็นแชมป์โลก เพียงแต่ว่าเขาจะกลับมารับบทบาทเด็กดีของแม่บ้างในช่วงเวลาที่ท่านต้องการกำลังใจ และถ้าจำเป็นจริงๆ เขาอาจจะต้องยอมทิ้งบางไฟต์เพื่ออยู่ดูแลผู้หญิงที่รักเขาที่สุดคนนี้ อย่างไรก็ตามแม่ที่เคยต่อต้านเรื่องการชกมวยมาตลอด กลับพูดด้วยท่าทางที่ลำบากเพราะปากเธอเบี้ยวจากอาการของโรคดังกล่าว เธอบอกกับลูกชายว่าเท่าที่จะมีแรงบอกได้ว่า "สัญญากับแม่นะ แกต้องเป็นแชมป์โลกให้ได้"

เท่านั้นเองความลังเลที่เกิดขึ้นมาตลอดรวมถึงการโทษตัวเองที่ไม่ได้ใช้เวลากับแม่มากนักของ ชาร์ลี ก็ยุติลงทันที "แน่นอน ถ้าแม่อยากจะเห็นแบบนั้นเดี๋ยวผมจะทำให้แม่ดู แล้วแม่อย่าหนีไปไหนนะ"

ความจริงคือ...

คำพูดสั้นๆ ที่ไม่ชัดถ้อยชัดคำกลายเป็นแรงผลักดันชั้นดี ชาร์ลี เริ่มพยายามเทิร์นโปรเพื่อเป็นนักชกชิงแชมป์โลกให้ได้


Photo : www.ringnews24.com

เมื่อผ่านการซ้อมหนักและเอาจริงเอาจังมาติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2 ปีตอนนี้ ชาร์ลี เก่งขึ้นแแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืม เวลาไม่ค่อยท่า เพราะแม่ของเขากำลังแย่หนัก โรคมะเร็ง ตามซ้ำเธออีกในอีก 1 ปีต่อมา ตอนนี้เขาต้องรีบแล้ว เวลาสำหรับการรักษาสัญญาลูกผู้ชายเหลือน้อยลงไปทุกขณะ เพราะแม่ต้องหาหมอเป็นประจำทั้งอาการมะเร็งที่ลุกลามและการทำสแกน MRI สมองอยู่บ่อยๆ เธอเหนื่อยล้าเต็มที แต่ก็รู้ว่าถ้ายอมตายตอนนี้ลูกชายของเธอคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

"ตอนแม่ล้มป่วย เธอย้ำนักย้ำหนาว่าขออย่างเดียว ผมห้ามล้มเลิกความตั้งใจเด็ดขาด ไม่ว่าอาการของเธอจะแย่แค่ไหนก็ตาม จงมีสมาธิในสิ่งที่ทำ" เขาจำคำนี้ได้เป็นอย่างดี ในระหว่างนั้น เทอร์รี่ เอ็ดเวิร์ดส์ ผ่าตัดมาแล้วถึง 2 ครั้ง … ความจริงก็คือความจริง แม่ของเขาอ่อนแรงไปอย่างน่าใจหาย

ชาร์ลี ขึ้นชกไฟต์อาชีพครั้งแรกกับ เคร็ก ดาร์บีเชียร์ ในปี 2015 ก่อนที่เขาจะไม่แพ้ให้ใครเลยในปีนั้น เส้นทางสู่แชมป์โลกอยู่ไม่ไกล หากเขายังเดินหน้าต่อไปแบบที่เคยเป็น และเริ่มเป็นแชมป์รายการเล็กๆ ในประเทศได้บ้างแล้ว ความมั่นใจโจนทะยานถึงขีดสุดในช่วงเวลานี้ การทำตามสัญญาแบบแข่งกับเวลาทำให้ไล่น็อกคู่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ แบบไม่หยุดหย่อน 8 ไฟต์รวด เขากำลังมองถึงการไร้พ่ายและลุยไปถึงไฟต์ชิงแชมป์รุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ แบบม้วนเดียวจบ ทว่าเขาลืมนึกไป … โลกนี้ไม่ใช่เขาคนเดียวที่อยากจะเป็นนัมเบอร์วัน


Photo : www.zimbio.com

เดือนกันยายนปี 2016 เขาต้องขึ้นชิงเข็มขัดของ IBF กับ จอห์นเรียล กาซิเมโร่ จาก ฟิลิปปินส์ นี่คือการขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งแรกของ ชาร์ลี เขาอยากให้แม่มาอยู่ข้างเวทีเพื่อให้ได้เห็นกับตาว่าลูกชายคนนี้ทำได้ แต่ความจริงคือเธอต้องเข้าผ่าตัดและอ่อนแรงเกินจะเดินทางมาชมไฟต์สำคัญของลูกชายได้ ...และโชคดีที่เธอไม่มา เพราะไฟต์นี้เป็นไฟต์ที่ ชาร์ลี แพ้เป็นครั้งแรก เขาถูกนักชกชาวปินอยสอยปลายคางและน็อคเอาต์ทันที นี่คือการแพ้ครั้งแรก, การถูกน็อกครั้งแรก และมันเกิดขึ้นในการชิงแชมป์โลกครั้งแรกของเขาด้วย 

เพื่อแม่แพ้ (อีก) ไม่ได้

ความพ่ายแพ้ทำให้เขามาถึงจุดเดือด เขาอยากจะเก่งกว่านี้และต้องเป็นการเก่งแบบก้าวกระโดดโดยที่ไม่กินเวลานานด้วยเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าแม่ของเขาจะมีชีวิตได้อีกสักเท่าไหร่


Photo : www.mirror.co.uk

ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามยิ่งขึ้นสำหรับเรื่องนี้ด้วยการทิ้งความสบายที่ลอนดอน และย้ายไปเมืองเชฟฟิลด์ เพื่อพบกับเทรนเนอร์ที่ชื่อว่า อดัม บูธ จอมยุทธ์แห่ง สตีล บ็อกซิ่ง ยิม การอยู่กับคนที่เก่งจริงทำให้หลายสิ่งเปลี่ยนไป อดัม บูธ จัดการยกเครื่องของ ชาร์ลี ใหม่ เขาทุบสไตล์เดิมๆ ของ ชาร์ลี ทิ้งไปหมดและสร้างพื้นฐานในแบบฉบับของเขา

"ผมรู้ว่าไอ้หมอนี่เป็นแชมป์โลกได้ มีบางอย่างที่เราเห็นในตัวเขา" อดัม บูธ กล่าว

ชาร์ลี กลับมาอีกครั้งด้วยการทำน้ำหนักขึ้นไปชกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ และมันได้ผล เขาคว้าแชมป์บริติชด้วยการน็อค แอนโธนี่ เนลสัน อย่างไรก็ตามความสำคัญไม่ได้ที่ผลการแข่งขัน แต่มันคือช่วงก่อนขึ้นชกต่างหาก เพราะแม่ของเขาต้องเข้าผ่าตัดอีกครั้งและหนนี้หมอบอกว่ามันจะเจ็บปวด และมีโอกาสรอดตายแค่ 50-50 เท่านั้น ชาร์ลี รู้ว่าการล่าฝันของเขาทำให้แม่ต้องสู่กับความทรมาน เขายอมลดทิฐิในใจ และเดินไปกระซิบแม่ที่นอนอยู่บนเตียงว่า "แม่ … ถ้าถึงเวลาที่แม่ต้องไป แม่ก็อย่าฝืนสู้อีกต่อไปเลยนะ" เขาพูดจบบุรุษพยาบาลก็เข็นรถเข้าสู่ห้องผ่าตัดขณะที่ ชาร์ลี รีบบึ่งไปยัง เมโทร เรดิโอ อารีน่า เพื่อคว่ำแชมป์สหราชอาณาจักรดังที่ได้กล่าวไป

ชาร์ลี ลงจากสังเวียนและได้รับคำยืนยันจากพี่สาวว่าปาฎิหาริย์มีจริง แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ นั่นทำให้เขาโล่งใจได้อีกเปราะหนึ่ง เพราะ ณ ตอนนั้นหลังจากที่เขาได้เป็นแชมป์รุ่นฟลายเวทเเล้ว MTK Global ซึ่งเป็นผู้จัดการของเขาอยากจะจัดให้ ชาร์ลี ได้ขึ้นชิงแชมป์โลก

ทว่ารุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ ในตอนนี้ กลับอุดมไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรดที่ล้วนเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น "เจ้าแหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกขวัญใจชาวไทย, เจอร์วิน อัลคาฮาส ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ในสังกัดของ แมนนี่ ปาเกียว และ คาห์ลิด ยาฟาย แชมป์โลกคนบ้านเดียวกับเอ็ดเวิร์ดส์  

เพื่อทำให้เส้นทางการเป็นแชมป์ของ ชาร์ลี สะดวกขึ้น เขาต้องลดน้ำหนักกลับมาชกรุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ ซึ่งที่สุดแล้ว ทาง MTK กับ Matchroom Boxing โปรโมเตอร์ ก็ดีลให้ขึ้นชิงแชมป์กับ คริสโตเฟอร์ โรซาเลส นักชกจากนิคารากัว

แม้การวัดคมกับมวยต่างแดนจะไม่ค่อยถูกโฉลกกับเขานัก ทว่าโอกาสนี้ปฎิเสธไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเป็นแค่บันไดให้ โรซาเลส ป้องกันแชมป์โลก แต่บันไดขั้นนี้จะสู้เต็มที่เพื่อเขี่ยคนที่จะก้าวเหยียบขึ้นไปให้หล่นข้างทางให้ได้ และไฟต์นี้แม่ของเขาจะมาด้วย ซึ่งจะเป็นไฟต์ที่ 2 ของ เทอร์รี่ เอ็ดเวิร์ดส์ ที่เธอจะได้เห็นลูกชายชกแบบชิดขอบเวที


Photo : www.express.co.uk

นี่คือไฟต์สำคัญที่สุดในชีวิตดังนั้น ชาร์ลี จึงกลับไปศึกษาเกมที่เขาแพ้ให้กับ กาซิเมโร่ อย่างละเอียด เขาพบว่า จงหลีกเลี่ยงการเดินเข้าใส่คู่ชก แผนคือเขาต้องอยู่ห่างจากโรซาเลสราวครึ่งก้าวและเซอร์ไพรส์นักชกต่างแดนด้วยหมัดแย็บทุกครั้งที่ โรซาเลส ก้าวเท้าเข้ามาในขอบเขตของเขา และหากเขาเสียจังหวะเขาจะถอยกลับไปให้ติดเชือก และเริ่มกลับสู่แผนใหม่อีกครั้ง เขาจะไม่ผลีผลามเหมือนไฟต์ที่แพ้ล่าสุดอีกแล้ว เขาพร้อมจะมีสติอยู่ตลอด … เพราะคำที่แม่บอกยังไม่จากไปไหน "สัญญานะว่าลูกจะเป็นแชมป์โลก คำนั้นติดอยู่กับผมตลอดและผมขนลุกทุกครั้งที่คิดถึงมัน"

"ไฟต์นั้นผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นแชมป์จริงๆ ผมพยายามมากที่จะเดินไปให้ถึงตอนสุดท้ายเพื่อรับเข็มขัด จังหวะของผมเข้าที่เข้าทางมาก แผนของผมทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายเดินใส่ และนั่นทำให้แต่ละหมัดของผมที่ปล่อยไปชัดเจนกว่า"

หลังจบครบทุกยก คะแนนก็ถูกอ่าน 116 ต่อ 112,118 ต่อ 110 และ 117 ต่อ 111 "ผู้ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ และเป็นแชมป์โลกคนใหม่ ชาร์ลี เอ็ดเวิร์ดส์ส์ส์ส์" สิ้นสุดเสียงของ เดวิด เดียมานเต้ โฆษกสนาม ชาร์ลี ก็ล้มลงกับพื้นและร้องไห้ทันที พันธนาการที่ติดอยู่กับตัวมาตลอดหลายปีถูกปลดเปลื้องออกในวันนั้น เขาเป็นแชมป์โลกแล้ว!


Photo : www.express.co.uk

ทุกอย่างถูกปลดปล่อยออกมา แม่ของเขาร้องไห้ ครอบครัวที่มาด้วยในวันนั้นรู้สึกถึงความหมายของชัยชนะนัดนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา แม้ชาร์ลี รู้ว่าก่อนขึ้นชกไม่นานครอบครัวพยายามปิดบังว่าแม่ป่วยเพิ่มขึ้นและหนักขึ้น ทุกคนบอกว่าแม่ของเขาจะมาดูไฟต์นี้แน่ และชาร์ลี รู้ดีว่าด้วยโรคภัยที่ติดตัวและแทรกซ้อนมาเยอะขนาดนี้ แม่ของเขาจะต้องทรมานมากกับการเดินทางมายังที่ที่ผู้คนแออัด และหนำซ้ำยังไม่รู้ว่าลูกชายคนนี้จะโดนต่อยร่วงคาสังเวียนต่อหน้าต่อหน้าเธอหรือไม่ ...

"พี่สาวของผมเก็บความลับบางเรื่องไว้ ก่อนที่จะชิงแชมป์โลกแม่ของผมมีอาการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ เธอต้องนอนโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ ไม่มีใครบอกผมเลยแม้แต่คนเดียว เพราะพวกเขาอยากจะให้ผมมีสมาธิกับการชก แต่จะบอกอะไรให้ผมรู้หมดแล้วแหละ ผมคือเด็กชายตัวใหญ่ที่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้" เขาอธิบายถึงความกดดันมหาศาล เพราะหากเขาแพ้ไฟต์นี้ แม่ของเขาอาจจะไม่ได้มาดูเขาขึ้นชกอีกเลย ...

"3 ครั้งแล้วนะที่แม่อยู่บนเส้นทางที่กำลังจะถูกตัดสินว่าเป็นหรือตาย มันเป็นเรื่องน่าเศร้าก็จริงแต่มันก็เป็นแรงบันดาลใจที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมเหมือนกัน ผมทำเรื่องนี้ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีความแข็งแกร่งของแม่เป็นแบบอย่าง ไม่มีอะไรจะปลาบปลื้มไปกว่าการได้ทำตามคำที่เคยให้สัญญาไว้ นั่นและคือเหตุผลที่ทำไมผมต้องร้องไห้ขนาดนั้น … ทุกอารมณ์มันทะลักออกมาทั้งหมดหลังการต่อสู้จบลงโดยไม่อาจจะหยุดมันไว้ได้"


Photo : www.badlefthook.com

ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นแรงบันดาลใจที่แท้จริงสำหรับเรื่องนี้ เทอร์รี่ มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการไล่ล่าแชมป์ตามสัญญาของ ชาร์ลี ผู้เป็นลูก ขณะที่ที่ ชาร์ลี เองก็มีแรงถีบตัวเองจนถึงแชมป์เพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับผู้เป็นแม่

ตอนนี้สัญญาฉบับเก่าถูกฉีกทิ้งไปแล้วหลังจาก ชาร์ลี ทำสำเร็จ แต่เขาได้เพิ่มสัญญาลูกผู้ชายฉบับใหม่กับแม่ว่าเขาจะต่อยอดความฝันนี้อีกด้วยการเป็นแชมป์โลกอีกหลายรุ่น เขาพร้อมจะทำน้ำหนักเพิ่ม และสร้างตำนานให้แม่ได้ภาคภูมิใจ


Photo : www.thesun.co.uk

"การเป็นแชมป์โลกคือความฝัน แต่ความฝันอีกหนึ่งประการคือการได้เป็นแชมป์โลกหลายๆ รุ่น หลายๆ สถาบัน และสร้างตำนานฝากไว้ในวงการนี้" ชาร์ลี กล่าวหลังถูกเรียกว่าแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทแบบเต็มภาคภูมิ ส่วนคู่ชกในแมตช์ชิงที่เขาอยากจะเจอที่สุดก็ไม่ใช่ใคร ซันนี่ เอ็ดเวิร์ดส์ น้องชายของเขาที่กำลังทำอันดับสะสมฝีมืออยู่ในเวลานี้

ความฝันนี้อาจจะมาจากก้นบึ้งของหัวใจของเขาเอง และเขาอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปในวันนี้ จะกลายเป็นการทำให้แม่ของเขาอยากจะสู้กับโรคร้ายต่อไปแบบไม่ยอมแพ้ เพื่อจะได้เห็นตำนานที่ลูกชายของเธอสร้างขึ้นเอง


Photo : www.mirror.co.uk

"ผมเป็นแชมป์โลก ผมโชคดีที่กลับบ้านพร้อมแม่ … แม่อวยพรให้ผม แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคืออะไรรู้ไหม ผมเห็นเธอยิ้มด้วยความสุขยังไงล่ะ" ชาร์ลี เอ็ดเวิร์ดส์ กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะออกวิ่งตามความฝันต่อไปที่จะทำให้ผู้หญิงที่รักที่สุดคนนี้มีความสุขอีกครั้ง เหมือนเช่นวันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook