เก็บตก 5 ประเด็นร้อนหลังเกม เชลซี ได้แค่เสมอ เบิร์นลีย์ 2-2
5. อาซาร์ ยังร้อนแรง การผ่านบอลให้ เอ็นโกโล ก็องเต้ พังประตุในครึ่งแรกนับเป็นแอสซิสต์ลูกที่ 13 บนเวที พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ของเจ้าตัว มากกว่าผู้เล่นคนใดๆ ในลีกสูงสุดแดนผู้ดี
อาซาร์ ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นหัวใจของทีมอย่างไม่สามารถปฎิเสธได้จากการแบกรักหน้าที่สร้างอันตรายที่กราบซ้าย ซึ่งเจ้าตัวก็สามารถทำได้ต่อเนื่องตลอดทั้งเกม
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้อนาคตของสตาร์ชาว เบลเยียม ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ยังคงคลุมเครือเมื่อ เรอัล มาดริด กวักมือเรียกเขาอยู่ลิบๆ และเป็นการยากกับ สิงห์บลู สุดๆ ในการที่จะเฟ้นหาตัวแทนของ อาซาร์
4. บาร์นส กระสันต์สังหารใส่บิ๊กทีม จนถึงเวลานี้ แอชลีย์ บาร์นส พังประตูให้กับ เบิร์นลีย์ ไปแล้ว 11 ประตู นับว่าเป็นนักเตะ เดอะคลาเร็ตส์ ที่ทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ภายใน 1 ฤดูกาลของพวกเขา
อีกทั้งยังเป็นแข้งรายเดียวในซีซันนี้บนเวที พรีเมียร์ลีก ที่สังหารประตูใส่ อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ เชลซี สำเร็จ
3. อิกวาอิน vs ชิรูด์ กลายเป็นภาพที่เห็นจนชินตากับการเปลี่ยนตัวระหว่าง กอนซาโล อิกวาอิน และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ซึ่งเกมนี้มันก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง
เมาริซิโอ ซารืรี ตัดสินใจดร็อปเอา ชิรูด์ ออกจากทีมชุดตัวจริงแม้ว่าเพิ่งจะฟอร์มฮ็อตมาสุดๆ ในเกม ยูโรป้าลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาและส่งเอา อิกวาอิน ออกสตาร์ท
แม้จะขัดใจแฟนบอล สิงห์บลู อยู่บ้างแต่หัวหอก อาร์เจนไตน์ ก็สามารถใส่สกอร์ได้ในเกมนี้ ก่อนที่เครื่องจะดับไปในครึ่งหลัง
2. สิงห์บลู โดนบอมบ์ เบิร์นลีย์ ของ ฌอน ไดช์ ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นฟุตบอลแบบไดเร็กต์และเซ็ตพีซมาอย่างยาวนานโดยการวางทั้ง คริส วูด รวมทั้ง แอชลีย์ บาร์นส ในแดนหน้าแสดงให้เห็นถึงยุทธวิธีของ เบิร์นลีย์ ในเกมนี้อย่างชัดจน
วิธีการของพวกเขาไม่ได้มีความซับซ้อนนัก แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพเมื่อการวางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษของพวกเขาเป็นที่มาของการได้ทั้ง 2 ประตูในเกมนี้
1. ท็อปโฟร์หายใจรดต้นคอ การเก็บได้เพียง 1 คะแนนในเกมนึ้ของ สิงโตน้ำเงินคราม ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสที่จะแซง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ขึ้นไปรั้งอันดับที่ 3 และมีแต้มเท่ากับ ไก่เดือยทอง 67) และเหนือกว่า อาร์เซนอล (66) กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (64) ทว่าแข่งมากกว่าพวกเขาทั้งหมด 1 นัด
เกมหน้า สิงห์บลู คงจะต้องหวังให้คู่แข่งของในการแย่งชิงท็อปโฟร์ของพวกเขาฟอร์มหลุดกันบ้างเพื่อที่จะมีลุ้นกับเกมต่อไปที่พวกเขาลงเล่น
ซึ่งจนถึงเวลานี้ก็ยากที่จะคาดเดาว่าจะมีทีมใดบ้างที่ซิวตำแหน่งท็อปโฟร์สำเร็จ