โด้ฟรีคิกผีชนะกุหลาบไฟ2-1 หนี หงส์แดง เป็น8แต้มสมใจ

โด้ฟรีคิกผีชนะกุหลาบไฟ2-1 หนี หงส์แดง เป็น8แต้มสมใจ

โด้ฟรีคิกผีชนะกุหลาบไฟ2-1 หนี หงส์แดง เป็น8แต้มสมใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด หนี หงส์แดง ลิเวอร์พูล เป็น 8 แต้มได้สมใจในการลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ จากการเปิดบ้านเฉือน กุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น 2-1 คริสเตียโน โรนัลโด้ อัดฟรีคิกเป็นประตูชัย แต่ เฟอร์กี้ เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน เจอข่าวร้าย จอนนี อีแวนส์ เจ็บไปอีกคนต้องปรับทัพวุ่นก่อนเจอ อินเตอร์

ขณะที่ กุส ฮิดดิงค์ นำ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ลงสนามนัดแรกบุกชนะ "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า แซงขึ้นที่ 3 ชี้หัวใจสำคัญอยู่ที่เกมรับ ส่วน อาร์แซน เวนเกอร์ สุดเซ็งกองหน้าเกร็งได้แค่เจ๊า "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ แต่ยังพอใจฟอร์ม อังเดร อาร์ชาวิน นักเตะใหม่

ศึกพรีเมียร์ชิพนัดวันที่ 21 กุมภาพันธ์ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โดยเกมนี้เจ้าถิ่นต้องการชัยชนะเพื่อทิ้งห่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ออกไปเป็น 8 แต้ม แต่ "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน มีการพักตัวหลักอย่าง เนมันยา วิดิช และ เอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ ขณะที่ทีมเยือนก็ต้องการแต้มเพื่อลุ้นหนีการตกชั้น จึงส่งชุดใหญ่ลงเต็มที่ให้ โรเก้ ซานตาครูซ ยืนหัวหอกคู่กับ เอลฮัดจิ ดิยุฟ

เริ่มเกมขึ้นมา แมนฯ ยูไนเต็ด เดินเกมรุกตามคาดนาทีที่ 23 ก็ได้ประตูออกนำเมื่อ นานี แทงบอลเข้าเขตโทษบอลหลุดไปถึง เวย์น รูนีย์ จึงจิ้มบอลจากระยะไม่กี่หลาเข้าไปเป็น 1-0 แต่นาทีที่ 32 แบล็คเบิร์น ก็ตามตีเสมอได้หลังจากที่ อังเดร ออยเยอร์ ผ่านบอลเข้าเขตโทษให้ โรเก้ ซานตาครูซ แตะบอลหนี โทมัส คุสแซกซ์ ก่อนยิงเข้าไปง่ายๆ เป็น 1-1 เป็นการเสียประตูแรกในรอบ 15 นัดของ ปีศาจแดง และนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก อีแวนส์ โหม่งบอลจากลูกเตะมุมเข้าไปได้ แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ก่อน จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1


ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเดินหน้าเต็มตัว และนาทีที่ 59 ก็ได้ประตูนำอีกครั้งเมื่อได้ลูกฟรีคิกมุมกรอบเขตโทษทางซ้าย คริสเตียโน โรนัลโด้ วิ่งเข้ามาอัดเข้าไป และจากนั้นแม้ว่า แบล็คเบิร์น จะพยายามสู้ให้แฟนบอลเจ้าถิ่นได้หวาดเสียว แต่ก็ไม่สามารถตีเสมอได้ จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงชนะไป 2-1 มีเพิ่มเป็น 62 แต้ม หนี ลิเวอร์พูล เป็น 8 แต้มได้สำเร็จ

หลังจบการแข่งขัน "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ต้องเจอกับข่าวร้าย เมื่อ จอนนี อีแวนส์ กองหลังดาวรุ่งที่ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งหลังและให้ เนมันยา วิดิช ลงมาแทนนั้นได้รับบาดเจ็บและส่อแววว่าจะไม่สามารถลงเล่นในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องไปเยือน อินเตอร์ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ทำให้ต้องปรับทัพกันวุ่นอีกครั้ง เนื่องจาก 3 กองหลังอย่าง เนมันยา วิดิช, แกรี เนวิลล์ และ เวส บราวน์ ก็ไม่สามารถลงเล่นได้เช่นกัน

ด้าน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่มี กุส ฮิดดิงค์ คุมทีมลงสนามเป็นนัดแรกออกไปเยือน "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า โดย ฮิดดิงค์ ตัดสินใจส่ง 3 กองหน้าอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา, นิโกลาส์ อเนลก้า และ ซาโลมง คาลู ลงสนามพร้อมๆ กัน ขณะที่แดนกลางยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็ถือว่าได้ผลในระดับหนึ่งเมื่อบุกไปเอาชนะได้ 1-0 เมื่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด จ่ายทะลุให้ อเนลก้า หลุดไปยิงประตูชัยในนาทีที่ 19 ทำให้ เชลซี แซงขึ้นมาอยู่อันดับ 3 อีกครั้ง

กุนซือชาวดัตช์ให้ความเห็นถึงเกมนี้ว่าหัวใจสำคัญที่ทำให้ทีมได้ 3 แต้มก็เพราะเกมรับที่ดี จากการที่ผู้เล่นทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง ซึ่งแม้แต่กองหน้าชั้นยอดของทีมอย่าง อเนลก้า กับ ดร็อกบา ยังลงมาช่วยเกมรับ และเมื่อมีความเหนียวแน่นแล้วทำให้เกมรุกเล่นได้จนได้ประตูในที่สุด แต่สิ่งเดียวที่ยังผิดหวังก็คือเกมในครึ่งแรกน่าจะยิงได้ขาดไปแล้ว ส่วนการปรับปรุงทีมในช่วงที่ผ่านมานั้น ฮิดดิงค์ เผยว่ามีการเร่งเรื่องความฟิต และมีการปรับแท็คติกใหม่ และจากการที่นักเตะทุกคนเป็นมืออาชีพจึงทำผลงานออกมาดี

ขณะที่ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ส่ง อังเดร อาร์ชาวิน ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกรับการมาเยือนของ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ในการพยายามทำแต้มไล่ แอสตัน วิลล่า เพื่อลุ้นเป็นอันดับ 4 ซึ่งตลอดเกม อาร์เซนอล มีโอกาสมากมายหลายครั้งโดยเฉพาะ อาร์ชาวิน ที่เกือบจะทำประตูให้ทีมได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทำประตูได้จบเกมจึงเสมอกันไป 0-0

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลชี้ความผิดพลาดของทีมในช่วงหลังที่ทำประตูไม่ได้เป็นเพราะนักเตะมีอาการเกร็งเมื่ออยู่หน้าประตู โดยเกมนี้ทีมมีลุ้นอยู่ตลอดตั้งแต่ต้นเกมจนถึงท้ายเกม แต่สุดท้ายเกมที่เล่นมาดีๆ ไม่สามารถจบด้วยการเป็นประตูได้ ขณะที่การไล่หลัง แอสตัน วิลล่า อยู่ 6 แต้มนั้น กุนซือปืนใหญ่เชื่อว่ายังมีโอกาสลุ้นอยู่มาก เรพาะ วิลล่า จะต้องเจอกับโปรแกรมที่หนักกว่า และการเปิดตัวของ อาร์ชาวิน ในนัดนี้ถือว่าทำผลงานได้ดีทั้งๆ ที่สภาพร่างกายยังไม่พร้อมเต็มที่ และนัดนี้หัวหอกรัสเซียก็น่าจะยิงได้แล้ว 2 ประตูในช่วงครึ่งแรก

สำหรับผลคู่อื่นๆ โบลตัน ชนะ เวสต์แฮม 2-1, มิดเดิลสโบรช์ เสมอ วีแกน 0-0 และ สโต๊ค เสมอ ปอร์ทสมัธ 2-2

ตารางคะแนนพรรีเมียร์ชิพ

แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม

แมนฯ ยูไนเต็ด 26 19 5 2 46 11 62

ลิเวอร์พูล 25 15 9 1 42 17 54

เชลซี 26 15 7 4 45 15 52

แอสตัน วิลล่า 26 15 6 5 40 25 51

อาร์เซนอล 26 12 9 5 38 25 45

เอฟเวอร์ตัน 25 11 7 7 34 28 40

วีแกน 26 9 8 9 26 24 35

เวสต์แฮม 26 9 6 11 32 34 33

แมนฯ ซิตี้ 25 9 4 12 42 34 31

ซันเดอร์แลนด์ 26 8 7 11 27 33 31

ฟูแล่ม 24 7 9 8 22 22 30

โบลตัน 26 9 3 14 29 38 30

ฮัลล์ ซิตี้ 25 7 8 10 31 46 29

ปอร์ทสมัธ 26 7 7 12 29 43 28

นิวคาสเซิล 25 6 9 10 33 42 27

สเปอร์ส 25 6 7 12 26 31 25

สโต๊ค 26 6 7 13 23 42 25

แบล็คเบิร์น 25 5 8 12 28 42 23

มิดเดิลสโบรช์ 26 5 8 13 18 36 23

เวสต์บรอมวิช 25 6 4 15 24 47 22

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook