"น้องก้อย" ประกาศลาทีมชาติ แต่ขอสู้รายการในประเทศ

"น้องก้อย" ประกาศลาทีมชาติ แต่ขอสู้รายการในประเทศ

"น้องก้อย" ประกาศลาทีมชาติ แต่ขอสู้รายการในประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ ประกาศอำลาทีมชาติทันที หลังหลุดโผอดไปแข่งเอเชี่ยนเกมส์ บอกไม่เสียใจเพราะเตรียมใจมานานแล้ว แต่การแข่งในประเทศยังขอสู้ต่อ เตรียมมุ่งมั่นเรียนปริญญาโท คณะพลศึกษา ที่มศว. ประสานมิตร เพื่อสร้างอนาคตต่อไป

ความคืบหน้ากรณีหลังจากที่ "บิ๊กชา" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อจอมเตะฝีเท้าดีทั้ง 10 คนชุดลุยศึกกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้  

ประเภทประกอบด้วย ชาย รุ่นนน. 54 กก. "จูเนี่ยร์" รามณรงค์ เสวกวิหารี, รุ่นนน. 58 กก. "เจ้าไอ" เป็นเอก การะเกตุ, รุ่นนน. 63 กก.อัครินทร์ กิจวิจารณ์, รุ่นนน. 68 กก.เชษฐรพี ต่างใจ, รุ่นนน. 74 กก.พีระเทพ ศิลาอ่อน, รุ่นนน. 87 กก."เจ้าโก้" ณัฐภัทร ตันตรามาตย์  

ประเภทหญิง รุ่นนน. 46 กก."น้องนิด" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ, รุ่นนน. 49 กก."น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ, รุ่นนน. 53 กก."น้องหยิน" สริตา ผ่องศรี กับ รุ่นนน. 57 กก."น้องจูน" รังสิญา นิสัยสม แต่ไม่ปรากฏรายชื่อของ "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ รุ่นนน. 62 กก.และเพื่อนคู่หูอย่าง คาสซานดร้า ฮาลเลอร์ รุ่นนน.67 กก. โดยต้องรอให้ทาง "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจเท่านั้น
 
ล่าสุด "น้องก้อย" รุ่งระวี เปิดเผยว่า "ตัวเองรับทราบข่าวนี้แล้วรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้เสียใจ หรือกังวลอะไรมากนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีความเครียดและกดดันจากสังคมมามากแล้ว"

"ส่วนตัวก็ได้เตรียมทำใจเอาไว้แล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ต่างๆจนลุกลามใหญ่โต การที่ไม่มีชื่อตัวเองในทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ 17 นั้น ก็จะทำให้มีเวลาตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในระดับปริญญาโท คณะพลศึกษา ด้านภาควิชาการจัดการกีฬาต่อให้เต็มที่ เพราะตัวเองต้องการความมั่นคงให้กับชีวิตและอนาคต"

"อย่างไรก็ตามเมื่อไม่มีชื่อติดทีมชาติก็คงจะขอยุติบทบาทของตัวเองเอาไว้เพียงแค่นี้ แต่ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ, การแข่งขันในระดับสโมสร หรือ ในระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ภายในประเทศต่างๆ ตัวเองยังพร้อมและมีไฟลงทำการแข่งขันอยู่ แต่ในส่วนของการรับใช้ชาติคงต้องขอจบกันแค่เพียงเท่านี้"
 
"ทั้งนี้เวลาที่เหลือส่วนใหญ่ก็จะเอาไปทุ่มเทให้กับการศึกษาดีกว่า เพราะตัวเองอายุยังน้อย 23 ปียังมีโอกาสพัฒนาตัวเองไปสู่ความท้าทายต่างๆอีกมาก แต่ก็ยังคงมีใจรักกีฬาเทควันโดที่ทำให้ตัวเองได้ก้าวมาติดทีมชาติถึง 2 ครั้ง คือ ศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน และ กีฬาม.โลก ที่จีน แม้ว่า มันจะเป็นระยะเวลาแค่เพียงสั้นๆ แต่ก็มีความรู้สึกที่ดีกับพี่ๆน้องๆและเพื่อนทุกคน"

"หากไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่แน่อนาคตของตัวเองคงไปไกลกว่านี้แน่ แต่ทุกอย่างไม่คิดอะไรมากแล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันย้อนกลับคืนมาไม่ได้ เราต้องเดินหน้าสู้ต่อไป"

"เวลานี้ก็เริ่มสบายใจมากขึ้นแล้ว จากเดิมไปไหนมาไหนลำบาก แต่ได้กำลังใจที่ดีจากคนในครอบครัว รวมไปถึงเพื่อนฝูงก็เลยทำตัวเป็นปรกติ"
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 5 ส.ค.เวลา 13.00 น.งานแถลงข่าวมีทเดอะเพรสยูธโอลิมปิกเกมส์ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย จะเดินทางไปชี้แจงรายละเอียดในเรื่องนี้ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook