ถอดรหัสจากข้อเท็จจริง นักมวย "ถนัดซ้าย" เก่งกว่ามวยถนัดขวาจริงเหรอ?

ถอดรหัสจากข้อเท็จจริง นักมวย "ถนัดซ้าย" เก่งกว่ามวยถนัดขวาจริงเหรอ?

ถอดรหัสจากข้อเท็จจริง นักมวย "ถนัดซ้าย" เก่งกว่ามวยถนัดขวาจริงเหรอ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใครที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Southpaw (2015) น่าจะอินกับตอนจบที่ตัวเอกของเรื่อง “บิลลี่ โฮป” งัดอาวุธลับออกมาในการชก นั่นคือ หมัดซ้ายอันทรงพลัง ซัดใส่คู่ต่อสู้จนน็อคหงายกลางเวที ทวงศักดิ์ศรี และ เกียรติยศ ที่หายไปของเขากลับคืนมาได้หมด

 

จะว่าไป ชีวิตจริงก็ดูจะไม่แตกต่างไปเท่าใดนัก เมื่อนักมวยมากมายที่ประสบความสำเร็จ จนถูกจารึกชื่อในหอเกียรติยศ ไม่ว่าจะเป็น ออสการ์ เดอ ลา โฮยา, เฮคตอร์ คามาโช หรือ เขาทราย แกแลคซี ล้วนเป็นนักชกถนัดซ้ายด้วยกันสิ้น

ด้วยเหตุนี้ หมัดซ้ายจึงถูกนำเสนอให้เป็นสิ่งอันตรายที่สุดของกีฬามวยสากลอาชีพ แล้วเรื่องดังกล่าวคือ ความจริง หรือ มายาคติ ที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มความน่าสนใจของการต่อสู้กันแน่ Main Stand จะพาไปหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกำปั้นฝั่งซ้ายบนสังเวียนพื้นผ้าใบ

ถนัดซ้าย: พรสวรรค์ หรือ คำสาป

เชื่อว่าหลายคนคงเคยรู้สึกอิจฉาเพื่อนที่ถนัดซ้าย เพราะนอกจากจะแตกต่างไม่เหมือนใครแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ยังแฝงด้วยความสามารถบางอย่างอยู่ในตัว ทั้งทาง ศิลปะ และ กีฬา ที่คนถนัดขวาได้แต่มองตาปริบ

 1

แต่ความเป็นจริงคือ คนถนัดซ้าย พึ่งได้รับการยอมรับว่ามีสิทธิ และความเท่าเทียมในสังคมไม่ต่างจากพวกถนัดขวา เมื่อปี ค.ศ. 1976 เพราะก่อนหน้านั้น คนเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นลูกหลานของซาตาน ปีศาจ หรือ แม่มด คำว่า “Sinister” อันมีความหมายว่าอัปรีย์ หรือ อัปมงคล ในภาษาอังกฤษนั้น มีรากศัพท์ มาจากภาษาลาตินที่แปลว่า “ซ้าย”

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มคนถนัดซ้ายจึงต้องพยายามหลบซ่อนตัวเอง ด้วยการฝึกหนังสือด้วยมือขวา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองตัวประหลาดในสังคม ซึ่งสุดท้ายการเก็บกดและฝืนธรรมชาติตัวเองเช่นนี้ ทำให้คนถนัดซ้ายจำนวนมาก ต้องจบลงด้วยการเป็นผู้ป่วยทางจิตในท้ายที่สุด

“คนที่ถนัดซ้ายมีแนวโน้มที่จะเกิดมาโดยมีน้ำหนักน้อยกว่าทั่วไป ได้รับความคาดหวังในชีวิตน้อยกว่าคนทั่วไป พวกเขาอาจสุ่มเสี่ยงที่จะป่วยทางใจ หรือเป็นโรคจิตเภท เพราะว่า คนถนัดซ้ายได้รับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์อย่างรุนแรง คุณอาจคิดได้นะว่า ธรรมชาติพยายามกำจัดวัชพืชอย่างพวกถนัดซ้ายมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว” โธมัส ริชาร์ดสัน นักชีววิทยา และ นักศึกษาปริญญาเอกประจำมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง กับชีวิตคนถนัดซ้าย

หลังวิทยาศาสตร์เข้ามีบทบาทในการพิสูจน์ความจริง และลบล้างความเชื่อผิดๆทางศาสนาออก องค์กร Lefthanders International จึงตัดสินใจเลือกวันที่ 13 สิงหาคม ของทุกปี ให้เป็น “วันถนัดซ้ายสากล” เพื่อเฉลิมฉลองถึงการดำรงอยู่ของพวกเขา และเตือนให้โลกรู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่บนโลกแต่อย่างใด

เซาท์พอว์ ปะทะ ออร์โธดอกซ์

แม้จะได้รับการยอมรับจากวงกว้างไม่นานนัก แต่กลุ่มคนถนัดซ้ายได้รับการจดจำจากแวดวงกีฬามาตั้งแต่ช่วงปี 1880s เมื่อ ฟินลีย์ ปีเตอร์ ดันน์ นักพากย์ชื่อดังของ ชิคาโก เดลี ได้พากย์นักกีฬาเบสบอลทุกคนที่ถนัดซ้าย ด้วยคำว่า “เซาท์พอว์” (Southpaw) เนื่องจากว่า นักขว้างซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เมื่อทำการขว้างบอลออกไป มือซ้ายจะอยู่ในทิศใต้พอดี

 2

เซาท์พอว์ จึงมาจากคำว่า ทิศใต้ (South) + อุ้งมือ (Paw) รวมกันเป็นอุ้งมือจากทิศใต้ หมายถึงผู้เล่นที่ใช้มือซ้ายในการแข่งขันเบสบอล

หลังจากนั้นไม่นาน คำว่า เซาท์พอว์ ก็แพร่หลายไปทั่วทุกกีฬา หมายถึงผู้เข้าแข่งขันถนัดซ้ายในประเภทนั้น อย่างไรก็ตาม บริบทของคำว่า เซาท์พอว์ ในวงการมวย แตกต่างออกไปจากกีฬาประเภทอื่น เมื่อคำดังกล่าว ถูกนำมาใช้เรียกการตั้งท่าของนักมวยผู้ใช้หมัดซ้ายเป็นอาวุธหลัก โดยมีรายละเอียดคือ วางเท้าขวาเป็นเท้าหน้า และใช้หมัดขวาเป็นหมัดรองต่อยนำ ด้วยเหตุนี้ ท่ายืนแบบเซาท์พอว์ จึงกลายเป็นการตั้งท่ามาตรฐานของนักมวยถนัดซ้าย

ในทางกลับกัน ท่ายืนของนักมวยถนัดขวาจะเรียกว่า “ออร์โธดอกซ์” (Orthodox) มาจากภาษากรีกโบราณ หมายความว่า ดั้งเดิม และยังสื่อถึงศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งมีพิธีกรรมให้ความสำคัญแก่มือขวา เช่น การจุมพิตไปที่หัตถ์ขวาของบาทหลวง

ด้วยเหตุนี้ ท่ายืนแบบออร์โธดอกซ์ หมายความว่า การตั้งท่าแบบดั้งเดิม และ ใช้หมัดขวาเป็นอาวุธหลัก โดยมีลักษณะตรงข้ามกับเซาท์พอว์ทุกอย่าง ทั้ง วางเท้าซ้ายเป็นเท้าหน้า ใช้หมัดซ้ายเป็นหมัดนำ และหมัดขวาใช้เป็นอาวุธหลัก ท่ายืนแบบนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักมวยถนัดขวามากกว่า

 3

อย่างไรก็ตาม ท่ายืนทั้งสองรูปแบบไม่ได้ถูกจำกัดให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น นักมวยที่ถนัดมือซ้าย สามารถใช้ท่ายืนแบบออร์โธดอกซ์ได้ ในขณะที่นักมวยถนัดขวา สามารถใช้ท่ายืนแบบเซาธ์พอว์ ได้เช่นกัน

นักมวยชื่อดังที่ใช้ท่ายืนแบบเซาท์พอว์ ได้แก่ โจ คัลซากี, แมนนี ปาเกียว, เพอร์เนลล์ วิทเทเกอร์, เฮคตอร์ คามาโช, และ เขาทราย แกแล็คซี่ โดยนักมวยที่ถนัดขวา แต่สามารถใช้ท่ายืนเซาท์พอว์เป็นหลัก ได้แก่ เทอเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด และ มาร์เวลัส “มาร์วิน” แฮกเลอร์

ส่วนนักมวยที่ใช้ท่ายืนแบบออร์โธดอกซ์ คือ มูฮัมหมัด อาลี, ไมค์ ไทสัน, ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ และนักมวยถนัดซ้ายที่หันมาใช้ท่ายืนแบบนี้ คือ ออสการ์ เดอ ลา โฮยา และ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น

สมมติฐานนักสู้

ตำนานความได้เปรียบของนักสู้มือซ้าย ไม่ได้เริ่มขึ้นบนผืนผ้าใบ แต่ต้องย้อนไปถึงยุคโรมัน เมื่อจักรพรรดิกอมมอดิอุส ได้ลงประลองในสนามต่อสู้ที่อันตรายที่สุดในโลกอย่าง การประลองกลาดิเอเตอร์ โดยพระองค์ทรงเป็นนักสู้เพียงคนเดียวที่ใช้มือซ้ายจับดาบ ทำให้ทาสที่ถนัดขวาไม่ต่ำกว่า 12,000 คน กลายเป็นเหยื่อของพระองค์ในที่สุด

 4

จากเรื่องราวที่กล่าวมา ทำให้เกิดสมมติฐานหนึ่งขึ้นมา ชื่อว่า “สมมติฐานนักสู้” (Fighting Hypothesis) กล่าวว่า นักสู้ถนัดขวาคุ้นชินกับคู่ต่อสู้ที่ถนัดมือข้างเดียวกันมากกว่า และมีปัญหาในการรับมือกับคนซึ่งถนัดมืออีกข้าง ทำให้นักสู้ที่ถนัดซ้าย มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม

ด้วยเหตุนี้ บรรดานักชกหมัดซ้าย หรือ ใช้ท่ายืนแบบเซาท์พอว์ จึงกลายของแสลงสำหรับบรรดานักมวยทั่วไป ซึ่งมักถนัดขวา และใช้ท่ายืนแบบออร์โธดอกซ์ หากคุณนึกไม่ออกว่า การรับมือกับนักมวยหมัดซ้ายมันลำบากมากแค่ไหน ให้ลองนึกถึงตัวเองที่ขับรถพวงมาลัยขวามาทั้งชีวิต แล้ววันหนึ่งต้องไปขับพวงมาลัยซ้าย คุณอาจทำเรื่อง่ายที่เคยทำในทุกวันไม่ได้ เพียงเพราะทุกอย่างเกิดตาลปัตรผิดข้างไปหมด เปลี่ยนข้างไปทำนั้นอาจทำสิ่งเรื่องที่คุณทำอย่างคุ้นเคยเสียศูนย์ไปเลย

"เหตุผลหลักที่คนถนัดซ้ายยังมีอยู่บนโลกใบนี้ เป็นเพราะว่าบรรพบุรุษของพวกเขา ชนะการต่อสู้มากกว่าพวกไหน” โธมัส ริชาร์ดสัน ซึ่งเป็นคนถนัดซ้ายเช่นกัน กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

“ในกีฬามวย มันสามารถกลายเป็นการแข่งขันที่แตกต่างออกไปเลย หากคู่ต่อสู้ของคุณเป็นพวกถนัดซ้าย”

ชัยชนะของมวยหมัดซ้าย

สมมติฐานนักสู้ อาจเป็นเพียงเรื่องโกหก หากไม่มีประวัติศาสตร์คอยย้ำเตือนถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นบนพื้นผ้าใบ ซึ่งดูเหมือนว่านักชกหมัดซ้าย จะเป็นต่อเหนือคู่แข่งอยู่ร่ำไป

 5

วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 รอย โจนส์ จูเนียร์ ตำนานยอดแชมป์มวยโลก 4 ถูกน็อคเอาท์ครั้งแรก โดย อันโตนิโอ ทราเวอร์ นักมวยสายเซาท์พอว์ ปิดฉากสถิติไม่เคยแพ้น็อคยาวนานกว่า 15 ปี และเสียแชมป์โลก 5 เส้นในไฟต์เดียว และเมื่อเจอกันอีกรอบในปีถัดมา ยังเป็น ทราเวอร์ ที่เอาชนะไปได้อีกครั้งด้วยการนับคะแนน

เรื่องราวนี้ถูกพิสูจน์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2017 เจ้าแหลม ศรีสะเกษ หักปากกาเซียนทุกสำนัก ชนะ โรมัน กอนซาเลซ คว้าแชมป์โลก WBC มาครอง ทั้งที่เป็นรองด้วยราคา 14-1 หยุดสถิติชนะรวด 46 ไฟต์ของโรมัน และเป็นคนไทยคนแรกที่ชนะใน เมดิสัน สแควร์ การ์เดน

''บอกแล้วว่าโรมันแพ้มวยซ้าย มีคนมาสัมภาษณ์ผมก่อนชก ผมบอกไปว่าโรมันแพ้ทางมวยซ้าย ศรีสะเกษ ชกได้ดีมาก เขาต้องดังแน่ที่อเมริกา หมัดซ้ายหนักจริง แถมทีมงานแก้ทางมาดีด้วย ศรีสะเกษ เป็นตัวแทน เขาทราย ได้เลย'' เขาทราย กาแลคซี่ อดีตแชมป์โลก รุ่น 115 ปอนด์ เหมือนกับศรีสะเกษ ยืนยันถึงข้อได้เปรียบของการเป็นนักมวยถนัดซ้าย

 6

เหตุผลที่นักชกออร์โธดอกซ์ พ่ายแพ้ให้แก่นักชกเซาท์พอว์ อยู่เสมอ เพราะว่าพวกเขาไม่คุ้นชินที่จะต่อยคู่ต่อสู้ และป้องกันหมัด เมื่อท่ายืนของคู่ต่อสู้เปลี่ยนไปในรูปแบบที่แตกต่าง หมายความว่าเมื่อคู่ต่อสู้เป็นนักมวยถนัดซ้าย องศายามที่เผชิญหน้ากันย่อมเปลี่ยนไปด้วย การเหวี่ยงหมัดที่เคยได้มุมพอดีก็เปลี่ยนไป จะทำให้พลังและความแม่นยำไม่เหมือนเดิม เช่นเดียวกับการป้องกันที่มีประสิทธิภาพน้อยลง เพราะไม่เข้าใจจังหวะการต่อยของนักมวยถนัดซ้าย ทำให้นักมวยสไตล์ออร์โธดอกซ์ เสียเปรียบทั้งรุกทั้งรับ

ด้วยเหตุนี้ นักมวยแบบเซาท์พอว์จึงแข็งแกร่งกว่ามาก เมื่อต้องรับมือคู่ต่อสู้สไตล์ออร์โธดอกซ์ จนมีข้อสังเกตว่า แม้นักมวยรายนี้จะช้ากว่า, อ่อนแอกว่า และประสบการณ์น้อยกว่า แต่หากเขาเป็นพวกเซาท์พอว์ ก็มีโอกาสชนะคู่ต่อสู้มากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

“ผมว่า เกมดูจืดชืดมาก บางจังหวะไม่ลื่นไหล ความดุดันของเราดูด้อยลงไป นี่เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องแก้ไข การชกเมื่อวานนี้ บอกเลยว่า โชคดีที่ ศรีสะเกษของเราเป็นมวยซ้าย เพราะถ้าเกิดเป็นมวยขวาด้วยกันเหมือนดิอาซ ผมบอกได้คำเดียวว่าอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว” แสน ส.เพลินจิต อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต ชี้ให้เห็นถึงความได้เปรียบของนักชกหมัดซ้าย แม้สภาพร่างกายจะเป็นรองคู่ต่อสู้

เลือกเปลี่ยนข้าง ยังได้เปรียบ

เนื่องจากความเสียเปรียบที่เกิดขึ้นบนสังเวียน นักมวยถนัดขวาจึงเรียนรู้ท่ายืนแบบเซาท์พอว์ เพื่อปกปิดจุดอ่อนของตัวเอง ยามพบกับคู่ต่อสู้ แต่ขณะเดียวกัน นักมวยถนัดซ้าย มีโอกาสเลือกใช้ ท่ายืนออร์โธดอกซ์ เป็นไม้ตายลับสร้างความประหลาดใจให้คู่แข่ง เหมือนกับที่ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ ปิดบัญชี โรมัน กอนซาเลซ ในไฟต์ล้างตา ด้วยหมัดฮุคจากด้านขวา ซึ่งไม่ใช่มือข้างที่ตัวเองถนัด

 7

“อย่างล่าสุดที่ขึ้นชกแล้วได้แชมป์ ก็ฝึกซ้อมหมัดทีเด็ดของเรา เหตุผลก็เพราะผมถนัดทั้งสองหมัด ทั้งซ้ายและขวา สามารถใช้ได้หมด แต่ก่อนหน้านั้น จริงๆ เราใช้เพียงแค่หมัดขวาหมัดเดียว เรารู้ว่าเราต้องขึ้นชกกับเขา เราก็ซ้อมเพื่อให้คู่ต่อสู้งง” ศรีสะเกษเปิดเผยถึงเทคนิคการใช้ท่ายืนทั้งสองแบบ

เหตุผลที่บรรดาเหล่านักมวยถนัดซ้าย เลือกทิ้งข้อได้เปรียบมหาศาลของการยืนแบบเซาท์พอว์ มาใช้ท่ายืนแบบออร์โธดอกซ์ เพื่อฉวยประโยชน์จากการที่มีหมัดซ้ายหนักเป็นต้นทุน มาเป็นหมัดนำตามการยืนรูปแบบนี้ และฝึกฝนมือขวาให้เป็นหมัดหลักแทน เพราะฉะนั้น นักมวยถนัดซ้ายที่เลือกยืนแบบออร์โธดอกซ์ จะมีอาวุธหนักอยู่บนมือทั้งสองข้างของตัวเอง

“คุณจะรับมือกับคู่ต่อสู้ยากขึ้นไปอีก หากพวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนท่ายืนของตัวเองได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักสู้ถนัดซ้าย สามารถทำได้เป็นปกติ” โธมัส ริชาร์ดสัน ชี้ให้เห็นชัดถึงข้อได้เปรียบของคนถนัดซ้ายในวงการมวย

ด้วยเหตุนี้ เราจึงคุ้นตากับภาพที่คุ้นตา เมื่อ นักมวยดีกรีแชมป์โลก อย่าง ออสการ์ เดอ ลา โฮยา, มิเกล กอตโต หรือ เจ้าแหลม ศรีสะเกษ น็อคคู่ต่อสู้ร่วงลงพื้นด้วยหมัดขวาอันทรงพลัง ทั้งที่ในชีวิตจริง พวกเขาใช้มือซ้ายจับช้อนกินข้าวเหมือนกันทั้งหมด

ซ้ายดีกว่าขวา ข้อเท็จจริงหรือเรื่องหลอกเด็ก?

เพื่อศึกษาว่าสมมติฐานนักสู้ ใกล้เคียงความจริงมากเพียงใด มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ได้ทำงานวิจัยชื่อว่า “ความถนัดมือซ้าย และ ผลสำเร็จทางการต่อสู้” (Left-handedness and fighting success) จากข้อมูลของนักชกอาชีพกว่า 10,000 ราย และพบว่า บรรดานักสู้ถนัดซ้ายมีโอกาสชนะถึง 54 เปอร์เซนต์ หากต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่ถนัดขวา

 8

“มันเป็นผลกระทบเล็กน้อยแต่น่าสังเกตอย่างหนึ่ง” โธมัส ริชาร์ดสัน ผู้เริ่มต้นทำการวิจัยนี้กล่าว

ด้วยโอกาสชนะที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้บรรดาคนถนัดซ้ายเข้ามาสู่วงการมวยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีนักชกถึง 17.3 เปอร์เซนต์ ที่ถนัดซ้าย มากกว่าประชากรทั่วโลก ที่มีคนถนัดซ้ายเพียง 12.6 เปอร์เซนต์

ไม่เพียงแค่ความถนัดที่มาตั้งแต่กำเนิด ท่ายืนเองก็มีผลต่ออัตราชนะบนพื้นผ้าใบเช่นกัน งานวิจัยชื่อว่า “อิทธิพลของท่ายืน บนประสิทธิภาพในวงการมวยอาชีพ” (The Influence of the Boxing Stance on Performance in Professional Boxers) ของมหาวิทยาลัยวรอตสวาฟ ได้ศึกษาผ่านักมวย 340 คน แบ่งเป็นออร์โธดอกซ์ 75% และ เซาท์พอว์ 25%

ผลการวิจัยออกมาว่า นักชกเซาท์พอว์ มีโอกาสชนะสูงสุด 92 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้แบบออร์โธดอกซ์ ในกลับกันทางกลับกัน กลุ่มออร์โธดอกซ์มีโอกาสชนะเซาท์พอว์สูงสุด 88 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการจับคู่ที่มีโอกาสชนะน้อยที่สุด จากทั้งหมด 4 รูปแบบ

อย่างไรก็ตาม แม้งานวิจัยจะแสดงผลออกมาชัดเจนว่า นักชกหมัดซ้าย หรือ เซาท์พอว์ ได้เปรียบกว่า นักชกหมัดขวา หรือ ออร์โธดอกซ์ จริง แต่หากเทียบกับภาพแสดงของนักมวยซ้ายทะลวงไส้ จะเห็นว่าเกินจริงไปอยู่มาก เพราะจากงานวิจัยที่ออกมาทั้งสองชิ้น นักมวยเซาท์พอว์ มีโอกาสชนะมากกว่าคู่แข่งไม่เกิน 6 เปอร์เซ็นต์

ดังนั้น เราคงพูดได้ไม่เต็มปากว่า มวยหมัดซ้าย ได้เปรียบเหนือ มวยหมัดขวา อย่างเด็ดขาด เพราะสุดท้าย ผู้ชนะของทุกกีฬาบนโลกใบนี้ ล้วนเริ่มต้นมาจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก และทำงานเต็มที่แบบมืออาชีพ มากกว่าจะพึ่งแค่พรสวรรค์ ซึ่งอาจมาแล้วหายไป หากไม่ได้รับการขัดเกลาให้มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ ถอดรหัสจากข้อเท็จจริง นักมวย "ถนัดซ้าย" เก่งกว่ามวยถนัดขวาจริงเหรอ?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook