ทั่วโลกต้องรู้ : กติกาใหม่ 4 ข้อที่ FIFA จะบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนนี้

ทั่วโลกต้องรู้ : กติกาใหม่ 4 ข้อที่ FIFA จะบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนนี้

ทั่วโลกต้องรู้ : กติกาใหม่ 4 ข้อที่ FIFA จะบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอลนั้นคือศาสตร์ที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นผู้ร่างกฎและกติกาสากลอย่าง International FA Board (IFAB) จึงต้องปรับตัวกติกาขึ้นมาบางข้อเพื่อลบช่องโหว่ที่อาจจะเกิดความเหลื่อมล้ำกับบางทีม หรือกฎบางข้อที่ไม่ชัดเจนจนสามารถเจอพวกหัวหมอใช้วิธีเลี่ยงบาลีได้

ณ ตอนนี้ IFAB ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่านับตั้งแต่เดือน มิถุนายน นี้โลกลูกหนังจะต้องปรับตัวอีกครั้ง เมื่อพวกเขาจะเพิ่มกฎและกติกาใหม่ 4 ข้อ และเหนือสิ่งอื่นใดคือกติกาทั้ง 4 ข้อนี้จะถูกบังคับใช้พร้อมกันทั้งโลกเลยที่เดียว

กฎ 4 ข้อมีอะไรบ้าง? ติดตามกับ Main Stand ได้ที่นี่

1. แฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ

mamamama33
เถียงกันไม่รู้จักจบจักสิ้นสำหรับเรื่องของการยิงประตูแบบแฮนด์ออฟก็อด นั่นคือการใช้มือตบบอลเข้าประตูไปโดยตรงเลย และนี่คือปัญหาที่มักจะมีการเถียงกันว่าให้ดูที่เจตนาของผู้ยิงประตู (แบบใช้มือเป็นส่วนร่วม) ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเรื่องเจตนาและความตั้งใจเป็นแค่นามธรรมเท่านั้น ไม่มีใครรู้ 100% เต็มว่าแท้จริงแล้วคนยิงเขาคิดอย่างไร

แม้ปัจจุบันจะมีการใช้ VAR มาช่วยตัดสินทว่าหากกรรมการเห็นว่าจังหวะเอามือโดนบอลลูกนั้นเป็นการไม่ตั้งใจ มันก็จะกลายเป็นข้อถกเถียงกันไม่หยุดอยู่ดี ดังนั้นกฎใหม่ของ IFAB คือไม่นับทุกกรณีหากนักเตะคนใดใช้มือเป็นส่วนช่วยในการยิงประตู ไม่ต้องดูเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น หากบอลโดนมือ=ไม่เป็นประตู สรุปง่ายๆ เช่นนี้เอง อ้อ และกฎนี้ยังครอบคลุมถึงการใช้มือปัดบอลแอสซิสต์ให้กับเพื่อยิงด้วยเช่นกัน

2. ใกล้ตรงไหนออกตรงนั้น

mamamama22
หมดสิทธิ์ถ่วงเวลากันเลยทีเดียว เพราะกฎใหม่จาก IFAB มุ่งเน้นไปยังเรื่องของการเปลี่ยนตัวที่มักจะมีลูกเล่นหลายอย่างตบตากรรมการ ทั้งการทำเป็นไม่เห็นป้าย, การเดินออกแบบย่องเบาที่กินเวลาได้เป็นนาทีๆ หรือกระทั่งการแกล้งเจ็บใกล้ๆ กับเส้นข้างสนามบ้าง เส้นหลังบ้าง เพื่อให้เปลสนามมาหามออกไปยังเส้นกลางสนามที่เป็นจุดเปลี่ยนตัว

กฎใหม่ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าหากมีสัญญาณเปลี่ยนตัวเกิดขึ้น นักเตะคนที่โดนเปลี่ยนสามารถเดินออกจากจุดไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมาสัมผัสมือกับคนที่จะโดนเปลี่ยนลงมา ซึ่งกฎนี้น่าจะทำให้เกมไม่ขาดช่วงจนเกินไป อันเป็นปัญหาที่เห็นได้บ่อยๆ ในระยะหลัง

3. โค้ชก็มีสิทธิ์โดนใบเหลือง-ใบแดง

mamamama55
เอาล่ะ ก่อนหน้านี้เราอาจจะได้เห็นผู้จัดการทีมหลายคนโวยแหลกไม่ยอมรับคำตัดสินจนกรรมการต้องไล่ให้ไปนั่งบนอัฒจันทร์ ทว่ากฎใหม่ของ IFAB คือโค้ชมีสิทธิ์โดนใบแหลือง-ใบแดง และสะสมโทษเหมือนกับนักเตะที่ลงเล่นในสนามไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้นกฎนี้อาจจะทำให้เหล่าโค้ชสายโวยสายแอ็คชั่นเยอะสงบปากสงบคำลงได้บ้าง

4. ห้ามผู้เล่นทีมบุกเข้ามายืนในกำแพง

mamamama44
เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงเกิดความรำคาญเล็กๆ เกิดขึ้นเมื่อมีทีมใดทีมหนึ่งได้ฟรีคิกในระยะอันตราย ก็มักจะมีผู้เล่นของทีมนั้นเข้าไปสอดแทรกตัวในกำแพงของฝั่งคู่ต่อสู้ ทว่าเรื่องราวมันมักไม่จบแค่นั้น นักเตะทั้ง 2 ฝั่งมักจะยื้อกันไปผลักกันมาจนกรรมการต้องเดินเข้ามาห้ามทัพอยู่บ่อยๆ จนที่สุดแล้วฟรีคิกลูกหนึ่งบางครั้งต้องเสียเวลาไป 2-3 นาที แถมคนยิงยังมีโอกาสที่สติกระเจิง เพราะกว่ากรรมการจะเป่าให้ยิงก็คิดฟุ้งซ่านไปไหนต่อไหน

ปัญหาแบบนี้จะหมดไปเมื่อกฎล่าสุดบอกว่าทีมรุกทีได้ฟรีคิก ไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปแทรกตัวในกำแพงของคู่ต่อสู้อีกแล้ว ดังนั้นปัญหาเรื่องการรบกวนสมาธิของทั้งคนยิงและคนเซฟ รวมถึงปัญหาการเสียเวลาจากจังหวะกระทับกระทั่งคงจะหมดไปไม่ได้น้อยเลยทีเดียว

นี่คือ 4 ข้อที่กำลังจะเพิ่มเข้าในฟุตบอลทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่ามีการแก้กฎในการยิงจุดโทษระหว่างเกมว่าเมื่อยิงไปแล้วและถูกโกลเซฟ หรือชนเสา-คาน ทีมรุกจะไม่มีสิทธิ์เข้าไปซ้ำ แต่นั่นก็เพียงแค่ข่าวลือเท่านั้นเพราะตอนนี้สื่้อใหญ่อย่าง สกาย สปอร์ตส์ และ บีบีซี ก็ออกมายืนยันแล้วว่า "กฎข้อนี้ไม่มีจริง"

ส่วนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะดีขึ้นหรือแย่ลงก็มีแต่เวลาเท่านั้นที่จะตัดสินได้ เชื่อว่าที่สุดแล้วจากการกวาดๆ สายตาอ่านดู ก็นับว่าเป็นกติกาที่ดูเป็นเหตุเป็นผลไม่น้อยเลยทีเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook