5 ประเด็นร้อนหลังเกม! แมนฯ ยูไนเต็ด คืนฟอร์มบุกอัด เชลซี คาบ้าน 2-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถอนแค้นคืนจากนัดชิง เอฟเอคัพ เมื่อปีที่แล้วสำรเ็จ หลัง ปอล ป็อกบา ทำ 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์สุดสวย พา ปีศาจแดง บุกกำราย เชลซี ถึงถิ่น 2-0 ทะยานเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ วูล์ฟแฮฒป์ตัน วันเดอเรอร์ส ต่อไป
ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่สนใจเกิดขึ้นบ้างในเกมดังกล่าว
5. ป็อกบา แสดงให้ มูรินโญ เห็นแล้วว่าการให้อิสระกับเขามันช่วยทีมยังไง
ปอล ป็อกบา ยังเดินหน้าตอก มูรินโญ ให้หงายอย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าตัวโชว์ทักษะการเปิดบอลอันเหนือชั้นให้ เอร์เรรา โหม่งทำประตูตั้งแต่ในครึ่งแรก ก่อนที่เจ้าตัวจะตามขึ้นไปโถมโขกเป็นประตูที่ 2 ให้ทีมนำห่างก่อนหมดเวลา 45 นาทีแรก
การเล่นของเจ้าตัวเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ กล้าครองบอล กล้าเข้าทำ และแม้จะเสียบอลก็ไม่มีสายตาอาฆาตมาจากข้างสนามคอยรบกวนให้เขาเสียสมาธิอีกด้วย และการโถมเข้าไปโขกในประตูที่ 2 คือสิ่งที่เราจะไม่มีวันได้เห็น หาก โชเซ มูรินโญ ยังคุมทีมต่อไป
4. เอร์เรรา กับ สมอลลิง ปิดทองหลังพระ
แม้ว่า ปอล ป็อกบา จะมีส่วนร่วมกับ 2 ประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ แต่คนที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะอย่างสวยหรูในกรุงลอนดอนได้กลับเป็น คริส สมอลลิง กับ อันเดร์ เอร์เรรา นี่แหละที่ท็อปฟอร์มสุด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจับตาย เอเด็น อาซาร์
ตัวความหวังของเจ้าถิ่นอย่าง อาซาร์ พร้อมจะแผลงฤทธิ์ใส่ผู้มาเยือนอยู่ทุกเมื่อ แต่กระนั้นปีกซ้ายชาวเบลเยียมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัด เมื่อทางฝั่งของเขามี คริส สมอลลิง กับ อันเดร์ เอร์เรรา ที่ผนึกกำลังต้านอย่างแข็งขัน ไหนจะการสกัดบอลอันแม่นยำที่ปกติไม่ค่อยจะได้เห็นจาก สมอลลิง ไหนจะการเข้ามาคุมพื้นที่ในกรอบเขตโทษอีกคนของ เอร์เรรา ผลก็คือ อาซาร์ ได้แต่ถอนหายใจทุกครั้งที่เสียบอลไป
ยิ่งไปกว่านั้น เอร์เรรา นี่แหละคือคนที่จุดประกายให้กับ ยูไนเต็ด เมื่อเขาขึ้นไปโหม่งประตูขึ้นนำให้กับทีม และช่วยให้ทีมเข้ารอบไปแบบสบาย ๆ
3. เครื่องหมายคำถามกับ ลูกากู ยังดำเนินต่อไป
เมื่อ เจสซี ลินการ์ด กับ อ็องโตนี มาร์กซิยาล เจ็บพร้อมกัน โอกาสก็ตกมาถึง โรเมลู ลูกากู ที่ได้ออกสตาร์ทอีกครั้งในฐานะกองหน้าคู่กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด แต่ท้ายที่สุดกองหน้าร่างยักษ์ก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มที่น่าประทับใจได้ ก่อนโดนเปลี่ยนออกในช่วง 20 นาทีสุดท้าย
ในเกมนี้ ลูกากู ได้บอลบ่อยในช่วง 5 นาทีแรก เมื่อมีทั้งโอกาสได้เปิดบอลเรียดเข้าเขตโทษ แถมยังมีโอกาสวอลเลย์ในเขตโทษระยะไม่กี่หลา ซึ่งข้ามคานออกไป แต่หลังจากนั้น ลูกากู ค่อย ๆ หายหน้าไปเรื่อย ๆ และแม้ว่าครึ่งหลังจะมีโอกาสได้กดดันแนวรับเจ้าถิ่นบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก
สุดท้ายแล้วเกมนี้ก็ยังเป็นเพียงอีก 1 เกมที่น่าผิดหวังของเจ้าตัว แม้ว่าจะมีโอกาสได้กู้ชื่อบ้างแล้วก็ตาม
2. จอร์จินโญ โดนจับทางได้หมดแล้ว
หลังจากที่โชว์ฟอร์มเด็ดไปช่วงต้นฤดูกาล กับบทบาทที่ พรีเมียร์ลีก ไม่เคเจอมาก่อน ปัจจุบันไม่ว่าทีมเล็กหรือใหญ่ต่างก็จับทางของ จอร์จินโญ และแผนของ เมาริซิโอ ซาร์รี ได้หมดแล้ว และนั่นทำให้ เชลซี ของเขามีแต่จะถอยหลังลงคลองไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ขึ้นปีใหม่มา
ในเกมนี้เห็นได้ชัดเจนว่าห้องเครื่องชาวอิตาลีดูจะไร้ประโยชน์สุด ๆ ในการเล่นเกมรับ เพราะเขาไม่ได้ตามประกบตัวไหนเป็นพิเศษ แต่จะคอยเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ แทน ซึ่งทำให้ผู้เล่นของทีมเยือนมักจะมีตัวทีไ่ด้เปรียบยามเล่นเกมรุกอยู่ 1 คนเสมอ
ประตูแรกที่เสียไปก็มาจาก จอร์จินโญ ส่วนหนึ่ง เมื่อเห็นได้ชัดจากภาพช้าว่าเขาวิ่งไล่บอลมั่วไปหมด ผลคือ ฆวน มาต้า กับ ปอล ป็อกบา มีช่องให้เรียกบอลและเล่นบอลเพียบ ก่อนสุดท้ายบอลจะถูกโยนข้ามฟากอย่างเหนือชั้น และ เอร์เรรา ก็ปิดบัญชีได้อย่างหมดจด
1. ใครจะกู้สถานการณ์ให้ เชลซี ได้
นับวัน เมาริซิโอ ซาร์รี เริ่มจะมีแต่ความเครียดสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ เชลซี ที่เคยยิ่งใหญ๋เมื่อช่วงต้นฤดูกาล ตอนนี้พวกเขากลับต้องกระเสือกกระสนเพื่อเอาตัวรอดไปทีละนัดแบบไม่รู้ว่าจะชนะเมื่อไหร่ และถ้าหาก ซาร์รี โดนปลดจริง ๆ หลังจบฤดูกาลนี้ ใครกันล่ะที่จะมากู้สถานการณ์ของทีมได้
ไม่ต้องไปไกลถึงการหาโค้ชใหม่เลย แค่นักเตะที่จะเหลืออยู่ในฤดูกาลหน้าก็เต็มกลืนแล้ว เอเด็น อาซาร์ จ่อจะย้ายออกเต็มที โดยเฉพาะถ้า เชลซี อดไป แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ส่วนกำลังสำคัญอย่าง กอนซาโล อิกวาอิน กับ มาเตโอ โควาชิช ก็มีสิทธิ์ไม่โดนซื้อขาด หาก ซาร์รี โดนปลด ไหนจะยังปัญหาคาราคาซังกับดาวรุ่งของทีมอย่าง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย อีกคน
นั่นหมายความว่านอกจาก เชลซี อาจจะต้องหาโค้ชใหม่แล้ว โค้ชคนนั้นยังต้องรู้ด้วยว่าจะจัดการกับนักเตะที่เหลืออยู่ยังไงเพื่อให้พวกเขากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ไม่อย่างนั้นก็เหมือนเป็นการรับเผือกร้อน ที่สุดท้ายก็รอวันโดนไล่ออกไปอีกคน
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ