"เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส" : รร.ฟุตบอลรากหญ้าที่ "แมนฯ ยูไนเต็ด" เป็นลูกหนี้

"เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส" : รร.ฟุตบอลรากหญ้าที่ "แมนฯ ยูไนเต็ด" เป็นลูกหนี้

"เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส" : รร.ฟุตบอลรากหญ้าที่ "แมนฯ ยูไนเต็ด" เป็นลูกหนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรที่มีขนบธรรมเนียมมายาวนาน และหนึ่งในสิ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจคือการสร้างนักเตะที่เป็นคนท้องถิ่นหรือ "แมนคูเนี่ยน" ขึ้นมาจนกลายเป็นคนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของทีม

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าอคาเดมี่ของทีมปีศาจแดง แข็งแกร่งและสามารถป้อนนักเตะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ (ตลอดจนที่ไปเติบใหญ่กับทีมอื่น) ได้อย่างมากมาย ในชุดปัจจุบัน เจสซี่ ลินการ์ด และ มาร์คัส แรชฟอร์ด คือ 2 นักเตะที่เติบโตจากอคาเดมี่ก่อนจะกลายเป็นกำลังหลักในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

 

สำหรับเรื่องนี้ ปีศาจแดง ติดหนี้โรงเรียนเล็กๆ ในท้องถิ่นอย่าง เฟล็ทเชอร์ มอสส์ โรงเรียนที่ให้นักฟุตบอลเล่นทั้งกีฬาและเรียนไปด้วยกัน และโรงเรียนแห่งนี้นี่เองคือจุดกำเนิดของแข้งท้องถิ่นในทีมปีศาจแดง นักเตะที่พร้อมจะทุ่มให้ทีมหมดทั้งหัวใจ

โรงเรียนฟุตบอลเพื่อสังคม

เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เอฟซี คือโรงเรียนฟุตบอลขนาดเล็ก มีใบประกาศจาก FA ให้สามารถฝึกสอนฟุตบอลกับเด็กๆได้ แต่ไม่ได้อยู่ในนิยามของคำว่า “ทีมอคาเดมี่อาชีพ”

 1

โรงเรียนฟุตบอลแห่งนี้ตั้งอยู่กลางใจเมืองแมนเชสเตอร์ พวกเขาไม่ได้เป็นทีมอคาเดมี่เด็กที่ทำทีมจริงจังถึงขั้นลงแข่งขันในระดับที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษรองรับ เพียงแต่ว่าจุดประสงค์ในการจัดตั้งโรงเรียนสำหรับการเตะฟุตบอลแห่งนี้คือการมอบโอกาสให้กับสังคมมากกว่า

"เราหวังผลลัพธ์ที่ดีก็จริง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการเห็นรอยยิ้มของเด็กๆ และกลุ่มคนด้อยโอกาส" เดฟ ฮอร์ร็อค หัวหน้าฝ่ายพัฒนากล่าวและผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับทีมนี้มากว่า 28 ปีเผยถึงแก่นของ เฟล็ทเชอร์ มอสส์

โรงเรียนกึ่งอคาเดมี่แห่งนี้เปิดรับสอนเด็กๆ ให้เริ่มเล่นฟุตบอลอย่างถูกต้องตั้งแต่ 3-4 ขวบ และยังมีการเปิดสอนให้กับผู้พิการด้วย ซึ่งเป้าหมายเช่นนี้ทำให้บ่อยครั้งพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะสามารถขับเคลื่อนการทำงานในองค์กรได้ พวกเขาเปิดรับอาสาสมัครเข้ามาสอนฟุตบอลเด็กๆ และคนพิการในช่วงวันหยุด เพราะจะมีคนให้ความสนใจเยอะมาก และสำหรับช่วงคลินิคเพื่อชุมชนนั้น เฟล็ทเชอร์ มอสส์ คิดค่าธรรมเนียมในการเรียนและการใช้บริการถูกมาก เพียงแค่ 2 ปอนด์เท่านั้น

"เด็กๆ ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ มีพ่อคนเดียว หรือ มีแม่คนเดียว หรือไม่ก็เป็นครอบครัวที่มีลูกเยอะ บางคนมาที่นี่ยังไม่มีรองเท้าสตั๊ดใส่เลยด้วยซ้ำ เราเลยต้องมีระบบรีไซเคิลรองเท้าเก่าๆ เพื่อให้เด็กๆ พวกนี้ได้มีใช้เตะบอลกัน ถ้าพวกเด็กๆ พวกนี้เขาสู่ระบบของสโมสรดังๆ คุณจะต้องจ่ายเงิน 150 ปอนด์ต่อเดือน ขณะที่ของเรานั้นแค่ 2 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (เดือนละไม่ถึง 10 ปอนด์) เท่านั้น"

 2

นี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขามักจะได้รับการช่วยเหลือจากทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกครั้งที่ขาดทุนทรัพย์หรือขาดบุคลากร ทัพปีศาจแดงจากเข้ามาให้ความช่วยเหลือทันที แม้ในการช่วยเหลือแต่ละครั้งทางยูไนเต็ดจะไม่ได้เรียกร้องอะไรตอบแทน นอกจากนี้ยังมีการส่งนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์เข้ามาพบเด็กๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น เวย์น รูนี่ย์, เจสซี่ ลินการ์ด และ ฆวน มาต้า

ทุกอย่างเกื้อกูลกันหมด เฟล็ทเชอร์ มอสส์ กลายเป็นแหล่งที่ ยูไนเต็ด สามารถเข้ามาช้อนเอานักเตะที่ดีที่สุดของทีมอคาเดมี่แบบกึ่งมาตรฐานในเมืองแมนเชสเตอร์แห่งนี้นี้ และนั่นคือเหตุผลที่ว่าพวกเขาได้ 2 กำลังหลักอย่าง ลินการ์ด และ แรชฟอร์ด ขับเคลื่อนทีมชุดปัจจุบัน

 3

เดฟ ฮอร์ร็อค ภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เด็กอย่าง แรชฟอร์ด คือคนที่เขาพยายามดันสุดตัว เพราะรู้ว่าเก่งจริงตั้งแต่สมัยที่เล่นกับทีมตอนอายุ 7 ขวบ ครั้งหนึ่งเขาเคยออกปากให้สัมภาษณ์ติติง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พยายามจับแรชฟอร์ดนั่งอยู่แต่ม้านั่งสำรอง ซึ่งผิดกับธรรมชาติของนักเตะคนนี้ที่เขาเห็นมาโดยตลอด

 4

สิ่งที่เขาหวังอยากจะเห็นคือเด็กในทีมตอนนี้ก้าวตามรอยเท้าของ แรชฟอร์ด ให้ได้ เพราะเมื่อมีคนที่เป็นเหมือนไอดอลและแรงบันดาลใจ นั่นเท่ากับว่าชุมชนจะมีแบบอย่างที่ดีและสามารถขับเคลื่อนกลายเป็นสถานที่ที่มีคุณภาพได้

คนจนผู้ยิ่งใหญ่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงดูดนักเตะเด็กฝีเท้าดีจากทั่วโลกมามากมาย ทว่าที่สุดแล้วของดีก็อยู่ใกล้ตัว นั่นคือ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ ที่เสิร์ฟของดีให้กับพวกเขาอยู่ๆทุกๆ ปี

"เด็กเก่งๆ มีอยู่ทั่วโลก และเรามีหน้าที่นำพวกเขามาจัดวางโชว์ในหน้าร้านค้าที่ถูกต้องเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ ทำ"

 5

อะไรที่ทำให้ทีมบ้านๆ ที่ยากจนทีมนี้พัฒนาเด็กเล็กได้ดีชนิดที่ว่าเมื่อเข้าสู่ระบบอคาเดมี่ของทีมฟุตบอลอาชีพ พวกเขาก็ตะเกียกตะกายเอาตัวรอดไปได้ไกลกว่าที่เด็กเก่งจากแดนไกลทำได้?

จริงๆแล้วโรงเรียนเฟล็ทเชอร์ มอสส์ เป็นสโมสรที่มองภาพรวมที่กว้างมาก แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะเป็นทีมที่พวกเขาชื่นชอบ แต่พวกเขามองไปถึงการสร้างเยาวชนที่ประเทศจะได้ผลประโยชน์เลยทีเดียว

สิ่งแรกที่พวกเขาใส่ให้กับเด็กๆ คือการมีความสุขเมื่อได้เล่นฟุตบอล และในวัยขนาดนี้เรื่องผลแพ้ชนะไม่ใช่เรื่องตำเป็นของที่นี่

"ผู้ปกครองหลายคนหลงคิดว่าการที่ทีมชนะคือสิ่งที่จะทำให้ของลูกๆ ของพวกเขาเก่ง แต่เราไม่สนใจเลย ไม่สนใจทั้งการยิงประตูและการเอาชนะ การพัฒนานักเตะต่างหากล่ะคือชัยชนะที่แท้จริง"

 6

แม้จะโด่งดังกับการส่งนักเตะดีๆ ให้ปีศาจแดง แต่พวกเขาไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กันโดยตรง ไม่มีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นว่านักเตะทุกคนของที่นี่จะต้องเข้าเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทีมเดียวเท่านั้น

การเซ็นสัญญาผูกกับสโมสรใหญ่ๆ อาจจะทำให้พวกเขาไม่ขาดทุน และหมดเรื่องปวดหัวไปอีกหนึ่งเรื่อง ทว่า พวกเขาอยากให้มันเป็นเรื่องที่ยุติธรรมสำหรับเด็กๆ ที่ได้มีโอกาสเลือกที่ที่เหมาะสม เหมือนที่ครั้งหนึ่ง แรชฟอร์ด ขณะที่เล่นให้ทีมระดับ 11 ขวบของ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เคยได้ข้อเสนอกจากทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว ขณะที่นักเตะของ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ รุ่นหลังๆ ก็ย้ายไปเล่นให้กับหลายสโมสรทั่วประเทศทั้ง โรชเดล, สโต๊ก และ วัตฟอร์ด เป็นต้น

"เรามีความมุ่งมั่นที่จะไม่เข้าร่วมกับองค์กรใดองค์กรหนึ่งอย่างเต็มตัวด้วยเหตุผลอันมีเกียรติ เด็กทุกคนจะถูกประเมินอย่างยุติธรรมที่สุดโดยเราเอง”

“5 ปีก่อนเคยมีทีมจากพรีเมียร์ลีกขู่เราว่าหากไม่เซ็นสัญญากับพวกเขา เขาจะส่งสเกาท์มาดูเกมเราทุกนัดและเอานักเตะเราไปให้หมด จนกว่าเราจะยอมตกลง"

"พวกเขารังแกเราจนกระทั่ง สมาพันธ์ฟุตบอลอังกฤษยื่นมือเข้าช่วย พวกเขาชื่อว่าต้องมีสักที่ที่ทำให้เด็กพร้อมก่อนเข้าสู่ระบบอคาเดมี่เรื่องจึงยุติไป" โค้ชรากหญ้าบ่นถึงเรื่องปัจจัยภายนอกที่รบกวนสถานที่ที่เขารักตลอด

น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า

เดฟ ฮอร์ร็อค ร้องไห้น้ำตาแทบหมดเบ้า ในวันที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เด็กที่เขาคิดว่าเก่งที่สุดในทีม เฟล็ตเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส ได้ลงสนามให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกในเกม ยูโรป้า ลีก กับ มิดทิลลันด์ ซึ่งในเกมนั้น แรชฟอร์ด ลงไปในฐานะตัวแทนของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่เจ็บขณะวอร์มก่อนเกม ซึ่ง แรชฟอร์ด ก็ลงไปยิง 2 ลูกและดังเป็นพลุแตกตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

 7

"ถ้าคุณเอาผมมาหั่นครึ่ง คนจะเห็นว่าครึ่งหนึ่งของผมคือโรงเรียนฟุตบอล เฟล็ทเชอร์ มอสส์ และอีกครึงหนึ่งคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ฮอร์ร็อค กล่าว

ทีม เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส ส่งนักเตะฝีเท้าดีไปอยู่กับหลายสโมสรทั่วประเทศอังกฤษ แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมแรกที่ได้โอกาสก่อนใครเพื่อนเพราะมีความสัมพันธ์อันดี และ แรชฟอร์ด ไม่ใช่นักเตะคนแรกที่ทำอย่างนั้นได้ เกือบ 30 ปีก่อน เฟล็ทเชอร์ มอสส์ ส่ง เวส บราวน์ และเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคนเข้าสู่อคาเดมี่ของทีมปีศาจแดง และราว 20 ปีที่แล้ว ก็ส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค ตามหลังไป ซึ่งเด็กทุกคนได้รับอิทธิพลอย่างมากจาก เฮอร์ร็อค ทีเป็นเหมือนพ่อคนที่สองของพวกเขาเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามความสำเร็จปลายทางของนักเตะเหล่านั้น ไม่ได้ทำให้สโมสรมีรายได้อะไรมากมายนัก เพราะเมื่อนักเตะเติบโตและเข้าไปอยู่กับทีมระดับอาชีพ ผลประโยชน์ทั้งหมดที่นักเตะสร้างก็จะตกอยู่กับต้นสังกัดปัจจุบันเป็นอันดับ 1 ดังนั้น เฮอร์ร็อค จึงประสบปัญหาเหมือนกับ "คนจริง" ที่ทำเพื่อสังคมนั่นคือเงินทุนที่มีนั้นร่อยหรอลงเรื่อย เพราะเขาเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับเด็กๆ และผู้ที่สนใจน้อยมาก

เฟล็ทเชอร์ มอสส์ มีทีมของตัวเองตั้งแต่รุ่นอายุ 4 ขวบจนถึง 12 ขวบ และมีทีมทั้งประเภทชายและหญิง วาดภาพให้เห็นง่ายๆ คือพวกเขามีหน้าที่ส่งเสริมเด็กๆ ตั้งแต่ช่วงอนุบาลจนถึงเรียนจบประถมโดยมีทีมรองรับถึง "20 ทีม" จำนวนที่มากขนาดนี้ส่งผลให้หลายสิ่งหลายอย่างค่อนข้างฝืดเคืองและขาดแคลน ไล่ตั้งแต่สิ่งอำนวจความสะดวกและค่าจ้างสำหรับบุคลากรในโรงเรียนฟุตบอลแห่งนี้

"เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้เด็กๆ และผู้ปกครองบรรลุถึงวัตถุประสงค์ของพวกเขาได้ เพียงแต่ว่ามันไม่สะดวกสบายนักหรอก" ผู้บริหารของทีมยอมรับ

"ห้องเปลี่ยนเสื้อของเราเป็นห้องรวมนะ เชื่อไหมตอนนั้นเราไม่มีแม้กระทั่งห้องน้ำชาย-ห้องน้ำหญิง ไม่มีห้องน้ำที่อำนวยความสะดวกของคนพิการ คุณลองคิดภาพสิ เราคงปล่อยให้เด็กผู้หญิงเดินผ่านห้องน้ำที่มีเด็กผู้ชายอาบน้ำอยู่ไม่ได้หรอก มันไม่เหมาะสมเลย"

 8

จริงอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ถือว่าอยู่ย่าน ดิดเบอร์รี่ ซึ่งถือว่าเป็นที่อยู่ของคนรวยในแมนเชสเตอร์ แต่พวกเขากลับไมได้เงินสนับสนุนจากสภาเมือง แต่ความจริงคือเด็กๆ ที่เข้ามาเรียนฟุตบอลและใช้เครื่องอำนวยความสะดวกของที่นี่มาจากหลากหลายที หลายครอบครัวที่มีฐานะยากจนมาฝากลูกๆ ของพวกเขาไว้และหวังว่าจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต

มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ ที่เป็นเหมือนหัวใจของชุมชน กลับต้องเจอกับความยากลำบากในการแน่วแน่ทำตามอุดมการณ์ นาทีนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รู้ดีว่าจะปล่อยให้แหล่งสร้างวัตถุดิบชั้นดีล่มลงง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ พวกเขาจึงยื่นมือเข้าช่วยเผื่อสานสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันมาอย่างยาวนาน

เคยมีข่าว่า เฟล็ทเชอร์ มอสส์ ขอเงินสด 2 ล้านปอนด์จาก แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจาก แรชฟอร์ด โด่งดังและแจ้งเกิด แต่คนจนผู้ยิ่งใหญ่ปฎิเสธเงินก้อนนั้น รวมถึงบอกด้วยว่าไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดตอบแทน พวกเขาปฎิเสธเงินก้อนนี้เพราะเชื่อว่าเงินก้อนเดียวแก้ปัญหาได้แค่ชั่วคราว แต่ถ้าพวกเขาแก้ไขที่ระบบ จะเป็นการแก้ไขระยะยาวที่ยั่งยืน

เฟล็ทเชอร์ มอสส์ ได้รับคำปรึกษาให้เข้าเป็นทรัพย์สินของชุมชน ซึ่งจุดนี้จะเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้โรงเรียนฟุตบอลแห่งนี้มีความปลอดภัยในระยะยาว รวมถึงการผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาเยาวชนในชุมชน ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถเช่าพื้นที่สำหรับทำโรงเรียนในระยะยาวจากเทศบาลเมืองแมนเชสเตอร์ ได้  

 9

อย่างไรก็ตามความช่วยเหลือจาก ยูไนเต็ด นั้นก็เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก หากเทียบกับอุดมการณ์ทีโรงเรียนฟุตบอลเเห่งนี้อยากจะยืนได้ด้วยขาของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาเริ่มตั้งไข่ได้สปอนเซอร์อย่าง I Love Manchester องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ช่วยเหลืองานประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับเมืองแมนเชสเตอร์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้นอกจากชาวเมืองรู้ว่า โรงเรียนฟุตบอลแห่งนี้สร้างนักเตะให้กับทีมดังอาทิ แมนฯ ยูไนเต็ด โลกก็จะได้รู้จักพวกเขาในวงกว้างมากขึ้นด้วย

ความตั้งใจทำให้ส่งผลกระทบด้านดีเป็นลูกโซ่ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ พัฒนาในทุกๆ ก้าวด้วยการเปิดรับและเจรจากับพาร์ทเนอร์อื่นๆ ที่จะทำให้ศูนย์ฝึกแห่งนี้รองรับเด็กได้มากขึ้น รวมถึงระบบการฝึกและสิ่งอำนวยความสะดวกมีคุณภาพมากขึ้น เพื่อเป็นแหล่งบ่มเพาะเป็นนักกีฬาชั้นเยี่ยมของเมือง แมนเชสเตอร์ ไปอีกยาวนาน

 10

เห็นได้ชัดว่าการประสบความสำเร็จไปพร้อมกับชุมชนนั้นคือการพัฒนาที่ยั่งยืน หลายสิ่งอย่างเปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน นักเตะฝีเท้าดีๆ มีราคาแพงตั้งแต่วัยกระเตาะ หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถสานสัมพันธ์กับ เฟล็ทเชอร์ มอสส์ โรงเรียนฟุตบอลรากหญ้าแห่งนี้ต่อไป พวกเขาก็จะได้นักเตะที่ฝีเท้าดีและพร้อมเล่นให้ทีมด้วยหัวใจอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ เจสซี่ ลินการ์ด อีกหลายคนเลยทีเดียว

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ "เฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์ส" : รร.ฟุตบอลรากหญ้าที่ "แมนฯ ยูไนเต็ด" เป็นลูกหนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook