5 ประเด็นร้อนหลังเกม ผีแดงบุกเชือดคอจิ้งจอก 1-0
ยังคงเดินหน้าไม่ปราชัยต่อใครอย่างต่อเนื่องสำหรับ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อบุกไปคว้าชัยเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ส่งผลให้พวกเขาทะยานขึ้นไปอยู่อันดับ 5 ในสัปดาห์นี้แล้ว
ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างในเกมนัดดังกล่าวเมื่อคืนนี้
5. แรชฟอร์ด แผลงฤทธิ์ต่อเนื่อง
จากนักเตะที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ในช่วงต้นฤดูกาลกับ โชเซ มูรินโญ และไม่สามารถเอาชนะใจนายเก่าได้เสียที ปัจจุบันกองหน้าวัย 21 ปีแผลงฤทธิ์อย่างต่อเนื่องภายใต้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือขัดตาทัพของทีม เมื่อเขาสังหารได้อีก 1 ประตูในเกมนี้ กลายเป็นประตูที่ 6 ของเขาจาก 10 นัดภายใต้นายใหญ่คนนี้
นอกจากนี้แล้ว ประตูดังกล่าวยังทำให้ แรชฟอร์ด ยิงประตูในเกมเยือนมา 4 นัดติดต่อกัน และเป็นประตูที่ 10 ของเขาใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้อีกด้วย ถือเป็นการฉลองการลงเล่นให้ ยูไนเต็ด ครบ 100 นัดได้เป็นอย่างดี
4. ไบญี กลับมาแล้ว
เอริค ไบญี กลายเป็นกองหลังสุดอาภัพประจำฤดูกาล เมื่อเขาฟอร์มตกสุดหูรูดกับ โชเซ มูรินโญ และเมื่อ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เข้ามาคุมทีม เจ้าตัวก็มาโดนไล่ออกตั้งแต่เกมแรกของเขาภายใต้โค้ชคนใหม่เสียอย่างนั้น (ในเกมกับ บอร์นมัธ เมื่อปลายปีที่แล้ว)
หลังจากหายหน้าไป 4 เกมลีกกับ 1 บอลถ้วย เอริค ไบญี กลับมาลงสนามอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ยังไม่สามารถงัดฟอร์มแจ่ม ๆ ออกมาได้ เพราะแม้ทีมจะเก็บคลีนชีตออกไปจาก คิงพาวเวอร์ ในเกมนี้ แต่ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าทีมคู่แข่งทำได้ไม่ดีเองในการจบสกอร์ โดยเฉพาะ เจมี วาร์ดี้ ที่มีโอกาสเยอะพอสมควร ทำให้กองหลังชาวไอวอรีโคสต์ยังต้องพิสูจน์ตัวเองกับทีมต่อไปในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล หากเขายังหวังที่จะอยู่กับทีมต่อในฤดูกาลหน้า
3. ผลงานที่น่าประทับใจของ บาร์นส์
นับตั้งแต่กลับมาจากการยืมตัวกับ เวสต์บรอมวิช เจ้าหนูวัย 21 ปีได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และในเกมนี้ก็เป็นนัดแรกที่เขาได้โอกาสประเดิมสนามเป็นตัวจริงในบ้านของเขาเอง และเป็นการลงเล่นนัดที่ 3 จาก 4 นัดหลังสุดด้วย
แม้จะมีประสบการณ์บน พรีเมียร์ลีก น้อย แต่ต้องยอมรัยว่า บาร์นส์ นั้นแผลงฤทธิ์ใส่คู่แข่งระดับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยอดเยี่ยมทีเดียว ทั้งการต่อบอลในแดนหน้าอย่างไหลลื่น การหาช่องจบสกอร์อย่างมั่นใจ และการเอาชนะกองหลังของบิ๊กซิกซืได้ถือว่าไม่เลวนักสำหรับคนที่เพิ่งมีประสบการณ์บนลีกสูงสุดไม่กี่นาที
2. ปิดงานไม่ลง
ทั้งสองทีมมีปัญหาร่วมกัน 1 อย่างในเกมนี้นั่นก็คือการไม่สามารถปิดงานของตัวเองได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 9 แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับเจอความยากลำบากตลอด 81 นาทีที่เหลือ เมื่อไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่ม แถมยังโดนบุกใส่อย่างหนักตลอดเกมจนเกือบเพลี่ยงพล้ำอยู่หลายครั้ง ซึ่งต้องยอมรับว่าโชคเล็กน้อยทำให้พวกเขามีชะตากรรมที่แตกต่างออกไปจาก ลิเวอร์พูล ในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ขอแค่ยันเสมอกับทีมบิ๊กซิกซ์อีกทีมก็น่าจะพอใจแล้ว และวันนี้พวกเขาก็มีโอกาสนั้นมากทีเดียว เมื่อสามารถพับสนามบุกใส่ผู้มาเยือนได้ตลอดครึ่งหลัง แต่สุดทายแล้วพวกเขาก็โยนโอกาสทิ้งไปเองแทบจะทั้งหมด โดยเฉพาะ เจมี วาร์ดี้ ที่พลาดโอกาสทองอยู่ 2-3 ครั้ง
สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ นี่คือปัญหาที่พวกเขาเจอมาตลอดนับตั้งแต่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อ 3 ปีก่อน ในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ต้องรีบหาทางแก้ไข หากยังหวังที่จะผ่านเดือนมหาโหด 2 เดือนนี้ไปให้ได้โดยไม่กดดันมากนัก
1. สัญญาณที่ดีของ ยูไนเต็ด
ไม่น่าเชื่อว่าตลอด 24 นัดที่ผ่านมา รองแชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่เคยขยับขึ้นไปเหนือกว่าอันดับ 6 ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว และนั่นทำให้สัปดาห์นี้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ พา ปีศาจแดง ขยับขึ้นมาอันดับที่ 5 ได้เป็นครั้งแรกของฤดูกาล หลังพวกเขาบุกไปเชือด เลสเตอร์ ได้ 1-0 และ อาร์เซนอล แพ้ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในวันเดียวกัน 1-3
แมนฯ ยูไนเต็ด ขยับมามี 48 คะแนน และตามหลังอันดับ 4 อย่าง เชลซี แค่ 2 แต้มเท่านั้น ทำให้พวกเขามีโอกาสมากทีเดียวที่จะสามารถขึ้นไปอยู่ในโซน แชมเปี้ยนส์ลีก ตอนท้ายของฤดูกาล หากพวกเขาไม่สะดุดไปเสียก่อน