5 ประเด็นหลังเกม! ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรัว แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1

5 ประเด็นหลังเกม! ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรัว แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1

5 ประเด็นหลังเกม! ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรัว แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้จะไม่เดือดอย่างที่เคยเป็น แต่สุดท้ายเกมที่ แอนฟิลด์ ก็มีสกอร์เกิดขึ้นถึง 4 ลูกด้วยกัน โดยเป็น 2 ประตูขอ เซอร์ดาน ชากิรี ในครึ่งหลังที่พสพวกเขาเก็บ 3 แต้มได้ก่อนในเกมแดงเดือดนัดแรกของฤดูกาล

ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนนี้

5. คริส สมอลลิง ไม่ไหวPAUL ELLIS/GettyImages
แม้ว่าจะประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีนักเตะเจ็บถึง 9 ราย แต่ 4 จาก 5 คนดังกล่าวถูกประกาศก่อนเกม 1 ชั่วโมงว่าจะได้ลงเป็นตัวจริง ซึ่งเป็นกองหลังทั้งหมด ได้แก่ คริส สมอลลิง, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, ดิโอกู ดาโลต์ และ มัตเตโอ ดาร์เมียน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วมีเพียงแค่ 3 รายหลังเท่านั้นที่ได้ลงสนาม โดย คริส สมอลลิง โดนถอดออกไปในช่วงไม่กี่นาทีก่อนเกมเริ่ม

ทางทวิตเตอร์ทางการของสโมสรประกาศว่าพวกเขาจำเป็นต้องเรียก เอริค ไบญี ที่ตอนแรกเป็นตัวสำรองให้ลงมาเล่นเป็นตัวจริงแทน คริส สมอลลิง เนื่องจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บขณะวอร์มอัพ ในขณะที่ ฟิล โจนส์ ถูกเติมขึ้นมาบนม้านั่งสำรองแทน งานนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สมอลลิง จะเจ็บยาวต่อเลยหรือไม่

4. ลินเดเลิฟ สร้างความแตกต่างClive Brunskill/GettyImages
แม้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน โชเซ มูรินโญ จะบอกว่าแนวรับชาวสวีเดนยังไม่หายเจ็บดี แต่เมื่อเกมสำคัญมาถึง โค้ชชาวโปรตุเกสก็เลือกเอา ลินเดเลิฟ คุมแนวรับของทีม ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว เมื่อเขาสามารถหยุดความน่ากลัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง และยังรวมไปถึงการบล็อกลูกยิงของ ฟีร์มิโน ในเขตโทษอีกด้วย

น่าเสียดายที่ทีมของเขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเกมนี้ 

3. ไคลน์ กลับมาเป็นตัวจริงPAUL ELLIS/GettyImages
ถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจสำหรับ นาธาเนียล ไคลน์ เมื่อเขาช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะในเกมแดงเดือดหนแรกของฤดูกาลด้วยสกอร์ 3-1 และกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง

นับได้ว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับอดีตแบ็คขวาตัวจริง ลิเวอร์พูล และทีมชาติ อังกฤษ เมื่อเขาห่างหายจากสนามหญ้าไปนานตั้งแต่ 7 เดือนที่แล้วในเกมกับ เชลซี และเกมนี้ยังเป็นเกมนัดที่ 6 ของเขาเท่านั้น (ตัวจริงนัดที่ 2) ในรอบ 2 ฤดูกาลล่าสุด ซึ่งผลงานของเขาก้ไม่ได้ขี้เหร่อะไร เมื่อสามารถจัดการกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แอชลีย์ ยัง แบบพอเอาตัวรอดได้ และมีโอกาสเติมเกมรุกอยู่บ่อยครั้งไม่เหมือนคนที่เจ็บไปนาน

2. ชากิรี ตัวเปลี่ยนเกมPAUL ELLIS/GettyImages
เป็นอีกครั้งที่ เซอร์ดาน ชากิรี สร้างความแตกต่างให้เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ได้ มิดฟิลด์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ลงสนามมาในนาทีที่ 70 และอีกเพียง 3 นาทีเท่านั้นก็ทำประตุไขึ้นนำให้กับทีมได้ทันที ก่อนที่จะมาเบิ้ลประตูที่ 2 โดยใช้เวลาในสนามทั้งหมดเพียง 10 นาทีเท่านั้น เร็วยิ่งกว่า ซาดิโอ มาเน เสียอีก

ไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกแล้วสำหรับ ชากิรี เมื่อเขาสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้ทั้งในฐานะตัวจริงและตัวสำรอง  และ 2 ประตูในเกมนี้ก็ทำให้เขายิงเพิ่มเป็น 5 ประตูเข้าไปแล้วจากการลงเล่น 626 นาทีใน พรีเมียร์ลีก (ประมาณ 7 เกม)

1. ยูไนเต็ด ยังมีเรื่องให้ชม แม้จะเล่นน่าเกลียดในสายตาแฟนบอลClive Brunskill/GettyImages
เพื่อความแฟร์กับนักเตะทีมเยือน แม้ว่าพวกเขาอาจจะเล่นเกมรับแบบอุดจนดูไม่สมศักดิ์ศรีเกมแดงเดือด แต่อย่างน้อยรถบัสของพวกเขาก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อสามารถยันเสมอกับ ลิเวอร์พูล ได้นานกว่า 70 นาที และแทบไม่มีความผิดพลาดให้เห็นนอกจากประตูแรกที่เสียไปเท่านั้น

โชเซ มูรินโญ ลงทุนตั้งเกมรับแบบเต็มกำลังด้วยการเรียกนักเตะที่เจ็บกลับมาเกือยทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ ลินเดเลิฟ, ดาร์เมียน และ ดาโลต์ และเมื่อผนวกกับ มาติช, ยัง และ ไบญี พวกเขาก็สามารถอุดประตูได้เกือบสมบูรณ์แบบ

ความผิดพลาดของ ยัง ที่เลินเล่อปล่อยให้ มาเน เข้าเขตโทษได้แทบจะเป็นครั้งเดียวจริง ๆ ที่พวกเขาพลาด เมื่อ ลินเดเลิฟ และ ไบญี ต่างงัดฟอร์มโคตรสุดยอดออกมาสกัดทีมเกมรุกของ หงส์แดง จนไปไม่เป็น การยิงเกิน 10 ครั้งในครึ่งแรกของพวกเขาแทบไม่เป็นผลเลยหากไม่นับลูกที่ได้ประตู และส่วนมากก็เป็นการยิงติดบล็อคของแนวรับ ยูไนเต็ด เป็นส่วนใหญ่

ครึ่งหลังก็ยังไม่วายเป็นแบบเดิม เมื่อ ลินเดเลิฟ, ยัง และ ไบญี เป็นหัวใจหลักในการสกัดบอลไม่ให้สามประสานทำเกมเข้ามายิงแบบง่าย ๆ จนกระทั่ง ชากิรี ลงมาในสนามในนาทีที่ 70 นั่นแหละ ลิเวอร์พูล จึงปลดล็อคสถานการณ์ที่น่าอึดอัดได้สำเร็จ แถมยังเป็นการยิงแฉลบทั้ง 2 ครั้งอีกด้วย (ลูกแรกไม่น่าตรงกรอบถ้าไม่แฉลบ ส่วนลูกที่สองไม่น่าพ้นเซฟของ เด เคอา)

น่าสนใจมากทีเดียวว่าถ้าไม่มี ชากิรี ในเกมนี้ นักเตะ หงส์แดง คนอื่น ๆ จะสามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้หรือไม่ เพราะถึงแม้ ยูไนเต็ด จะทำเกมรุกไม่ได้เรื่อง แต่เกมรับของพวกเขาก็สู้กันยิบตาจริง ๆ ทำเอา ซาลาห์ กับ ฟีร์มิโน เล่นกันไม่ออกเลยในเกมนี้

ขอบคุณข้อมูล : 90min


ข่าวลิเวอร์พูล ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ

>> เปลี่ยนไปมาก! "เฮียมู" เผย "ซาลาห์" แกร่งกว่าตอนอยู่เชลซี

>> สอบผ่านสอบตก! ส่องคะแนนแข้ง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านคว่ำ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1

>> ทวงจ่าฝูงคืน! "ชากิรี่" ลงมาเบิ้ล ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรัว แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1

>> ลิเวอร์พูล vs แมนฯ ยูไนเต็ด : พรีวิว พรีเมียร์ลีก, วัน+เวลาแข่ง, ถ่ายทอดสด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook