เก็บตกหลังเกม ! 5 เรื่องต้องรู้หลัง เรือ อัด ผี 3-1 แมนเชสเตอร์เป็นสีฟ้า

เก็บตกหลังเกม ! 5 เรื่องต้องรู้หลัง เรือ อัด ผี 3-1 แมนเชสเตอร์เป็นสีฟ้า

เก็บตกหลังเกม ! 5 เรื่องต้องรู้หลัง เรือ อัด ผี 3-1 แมนเชสเตอร์เป็นสีฟ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถอนแค้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากฤดูกาลก่อนสำเร็จด้วยการเปิดบ้านขนะ 3-1 ทะยานขึ้นไปนั่งบัลลังก์จ่าฝูงที่ 32 คะแนน ทำแต้มหนีคู่อริร่วมเมืองไปไกลถึง 12 แต้มแล้วหลังผ่านเกมลีกไป 12 นัด

ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้างระหว่าง เรือใบสีฟ้า กับ ปีศาจแดง

1. แผงกองกลางที่ห่างชั้นกันสุด ๆ


Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผลงานของทั้งสองทีมในเกมนี้แตกต่างกันสุดขั้วก็คือผลงานของเหล่ากองกลาง เพราะในขณะที่เหล่ากองกลางของ ซิตี้ สามารถต่อบอลกันได้อย่างไหลลื่น กองกลางของ ยูไนเต็ด กลับไม่สามารถทำได้แม้กระทั่งการครองบอลเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยซ้ำ

ดาบิด ซิลบา กับ แบร์นาโด้ ซิลวา ครองเกมกลางสนามได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขาเคลื่อนที่กันแทบจะตลอดเวลาและช่วยทำให้เกมรุกของ ซิตี้ มีมิติและตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ แฟร์นันดินโญ ก็ช่วยทำให้เพื่อนร่วมทีมมั่นใจว่าบอลจะไม่เคลื่อนผ่านเส้นกลางสนามไปโดยง่าย หลายครั้งที่เขาช่วยให้ทีมกลับมาครองบอลและช่วยจ่ายบอลอันตรายหลาย ๆ ครั้ง และที่สำคัญคือสามารถยิงลุ้นประตุได้บ่อย ๆ อีกด้วย

หันกลับไปดูทางทีมเยือน เนมันยา มาติช ห่างไกลจากการเป็นกองกลางตัวรับอย่างสิ้นเชิง เขาถูกบีบให้ลงไปเล่นเกมรับแบบต่ำสุด ๆ จนแทบจะชิดกับกองหลัง และแม้ว่าจะมีโอกาสสกัดบอลดี ๆ จากเท้าของ เลรอย ซาเน ครั้งนึง แต่เขาก็ปล่อยให้ กุนโดกัน เข้าไปเอาบอลในเขตโทษง่าย ๆ หลังจากนั้น และกลายเป็นประตูที่สามของเจ้าบ้าน ส่วน มารูยาน เฟลไลนี ที่ดูดีที่สุดในเกมนี้ก็ทำได้แค่ไปสกัดบอลในเขตโทษมากกว่าที่จะมาเล่นเป็นกองกลางจริง ๆ ด้าน อันเดร์ เอร์เรรา นี่ไม่ได้ทำอะไรเลย นักเตะ ซิตี้ พาบอลผ่านเขาไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนบางครั้งก็งงว่าเขาจัดการกับ เอเด็น อาซาร์ เมื่อปีก่อนได้ยังไง

2. 5 นัดติดของ มาร์กซิยาล

OLI SCARFF/GettyImages ตอนแรกดูเหมือนว่า อ็องโตนี มาร์กซิยาล จะไม่มีโอกาสยิงประตูซะแล้ว แต่ฟ้าก็เป็นใจให้เขาเมื่อทีมมาได้ลูกจุดโทษในครึ่งหลัง และเขาก็สังหารเข้าไปไม่พลาด กลายเป็นประตูที่ 6 ของเขาในฤดูกาลนี้ และกลายเป็นการยิง 5 นัดติดใน พรีเมียร์ลีก ด้วย

มาร์กซิยาล เทียบชั้นกองหน้าระดับตำนานของทีมแล้วในตอนนี้ หลังจากที่เขากลายเป็นนักเตะของทีมคนที่ 7 ที่ทำแบบนั้นได้ ต่อจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย, เวย์น รูนีย์, เอริก คันโตนา, ไดวท์ ยอร์ค, คริสเตียโน โรนัลโด้ และ โรบิน ฟาน เปอร์ซี และเขาด็ยังมีสิทธิ์จะทำเป็น 6 นัดติดอยู่เหมือนกัน เมื่อพิจารณาว่าเขาเป็นคนที่อันตรายที่สุดในเกมรุกของ ยูไนเต็ด ไปแล้วเรียบร้อย

3. ใครจะเป็นหน้าเป้า

Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages จากฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขามีปัญหาแค่แผงกองหลัง จนมาถึงกองกลางที่ยวบลงมากในต้นฤดูกาล ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอวิกฤติหาหน้าเป้าไม่เจอเรียบร้อยแล้ว

โรเมลู ลูกากู ผู้เคยเป็นความหวังของทีมอยู่ดี ๆ ก็ฟอร์มตกจนกู่ไม่กลับ และแม้ว่าในเกมนี้เขาจะเรียกจุดโทษให้ทีมได้ทันทีที่ลงสนาม แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อีกเลยหลังจากนั้น 

มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้โอกาสลงเป็นหน้าเป้าตัวจริงอย่างต่อเนื่องก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบอลแทบจะไปไม่ถึงเขาเลย โอกาสที่ แรชฟอร์ด จะได้แสดงศักยภาพแบบนี้อีกก็ลดน้อยลงไปทุกที

อเล็กซิส ซานเชซ ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองกับทีมใหม่ของเขาได้ อเล็กซิส ได้โอกาสเป็นหน้าเป้าในเกมนัดล่าสุดกับ ยูเวนตุส แต่ก็ไม่สามารถสร้างผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันได้เลย แล้วตอนนี้เขาก็ต้องมาประสบกับอาการบาดเจ็บออด ๆ แอด ๆ อีกครั้ง ทั้งที่ได้ลงสนามในเกมนี้ไปไม่ถึง 20 นาที

เมื่อ โรเมลู ลูกากู หายเจ็บกลับมาแล้วอย่างในตอนนี้ โชเซ มูรินโญ ต้องหาทางทำให้ทีมหน้าเป้าของเขากลับมายิงประตูกันให้ได้อีกครั้ง ไม่อย่างนั้นคงต้องยอมรับกันแล้วว่าพวกเขาไม่มีกองหน้าตัวเป้าที่ฝากความหวังได้เลย

4. อเล็กซิส เจ็บแล้วเจ็บอีก

Laurence Griffiths/GettyImages แม้จะลงมาเล่นไม่ถึง 20 นาที แต่ โชเซ มูรินโญ ถึงคราวกุมขมับอีกครั้ง เมื่อลูกทีมคนสำคัญอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ออกอาการเจ็บให้เห็นอีกแล้ว

อเล็กซิส เพิ่งจะกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงได้ 2 นัดในเกมกับ บอร์นมัธ และ ยูเวนตุส ก่อนที่เขาจะอาการบาดเจ็บกำเริบจนเป็นได้แค่ตัวสำรองในเกมนี้ ซึ่งเมื่อเขาลงสนาม ภาพจากกล้องถ่ายทอดสดก็จับให้เห็นว่าเขาต้องกัดฟันวิ่งอยู่หลายครั้งเหมือนกัน และหนักที่สุดก็คือภาพเขาทำหน้าหยีแล้วกุมที่เท้านี่แหละ

5. ใครจะหยุด ซิตี้ ได้

LINDSEY PARNABY/GettyImages แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอทีมจากท็อปซิกซ์ไปแล้ว 4 จาก 5 นัดในครึ่งฤดูกาลแรก และทำได้ดีทีเดียวเมื่อชนะไป 3 เกม และเสมออีก 1 โดยยังไม่แพ้ใครเลยในตอนนี้ แถมเก็บคลีนชีตได้อีก 3 นัดต่างหาก

เชลซี อาจเป็นทีมสุดท้ายที่มีโอกาสจะยัดเยียดความปราชัยให้ ซิตี้ ในครึ่งฤดูกาลแรก โดยวกเขาจะเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับแชมป์เก่าในวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม ในเกมนัดที่ 16 ของฤดูกาล ซึ่งถ้าพวกเขาทำไม่สำเร็จ แมนฯ ซิตี้ อาจจะป้องกันแชมป์สำเร็จก็ได้ในฤดูกาลนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook